วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

Captain Marvel – กัปตันมาร์เวล

ดูหนัง


รีวิว Captain Marvel – กัปตันมาร์เวล

Captain Marvel หนังฮีโร่หญิงเดี่ยวเต็มๆ เรื่องแรกของค่าย Marvel แถมยังเป็นตัวละครหลักที่สำคัญ และมีบทบาทมากๆ ใน Avengers: Endgame ที่จะมาปราบมันม่วง Thanos ด้วย หลังจากที่เขาได้ล้างบางไปครึ่งจักรวาล แน่นอนว่าใครหลายคน (รวมถึงเรา) ก็ต่างอยากรู้ว่าฮีโร่หญิงคนนี้จะเจ๋งยังไง มีพลังมากแค่ไหน แถม Kevin Feige ยังบอกอีกว่า เธอจะเป็นตัวละครที่ทรงพลังมากที่สุดในจักรวาล MCU แน่นอนว่าสร้างความน่าอยากดูเต็มไปหมด! รีวิว Captain Marvel

เรื่องย่อ

ในระหว่างการสู้รบกับเผ่าสครัลล์ เวียส สตาร์ฟอร์ซ (บรี ลาร์สัน) นักรบสาวแห่งเผ่าครี เพลี่ยงพล้ำถูกข้าศึกจับตัวไปค้นความทรงจำจนได้พบภาพชีวิตตอนเธออยู่บนโลกในนาม แครอล เดนเวอร์ เมื่อสบโอกาสหนีเธอจึงขโมยกระสวยแล้วดิ่งตรงไปยังโลก เพื่อหนีเหล่าสครัลล์ จนได้พบกับ นิค ฟิวรี่ (แซมมวล แอล แจ็คสัน) เจ้าหน้าที่หน่วยชีลด์ ที่ร่วมค้นหาตัวตนของเธอ ซึ่งเกี่ยวพันกับใครบางคนในอดีตที่กุมความลับเครื่องสร้างพลังงานมหาศาลที่อาจยุติสงครามทั้งมวลได้ งานนี้ เธอและนิคจำต้องร่วมมือกันค้นหามันก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป
แม้ตัวหนังจะดัดแปลงจากคอมิก Kree-Skrull War ปี 1971 ของ รอย โธมัส แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า Captain Marvel  เลือกที่จะเซ็ตเรื่องราวของตัวเองขึ้นใหม่และที่สำคัญมันยังตอบสนองกับแนวคิดเฟมินิสต์ที่ข้นขลั่กทั้งเรื่อง ทั้งที่มาของพลังพิเศษ หรือ เรื่องราวภูมิหลังที่อย่างกับหลุดมาจากโฆษณาเพื่อนหญิงพลังหญิง
ไปจนรายละเอียดเล็กๆน้อยอย่างการแอบใส่ฉากที่ เวียส หรือ คารอล เดนเวอร์ ปล่อยพลังทำลายสแตนดี้หนัง True Lies ของเจมส์ คาเมรอน ในร้านบล็อคบัสเตอร์ที่เธอเดินผ่านแผงวีดีโอที่มีแต่หนังบู๊ผู้ชายๆ  ซี่งก็คล้ายเป็นการการันตีว่าหนังทีมีผู้หญิงเป็นตัวนำจะออกมาสนุกไม่แพ้กัน ซึ่ง Captain Marvel ก็ทำได้จริงๆนั่นแหละ
คือมันมีฉากบู๊ดีๆและมีดราม่าที่ทำถึงไม่แพ้ Black Panther ที่สำคัญคือหนังปูเรื่องให้ตัวละครตัวนี้แยกเดี่ยวๆเลยไม่ต้องไปพึ่งพาหนังเรื่องอื่นในจักรวาลนัก เหมาะกับคนที่ขี้เกียจจำรายละเอียดอย่างผมมากเลยดูแบบเอ็นจอยได้ทั้งเรื่องแบบไม่ต้องเครียดนึกรายละเอียดนี่นั่นมากนัก
สำหรับการแสดงของบรี ลาร์สันก็ถือว่าไม่ได้เสียยี่ห้อดาราออสการ์นะครับ เธอสามารถทำให้เราเชื่อได้ทั้งด้านที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ความดิบเถื่อน ไปจนถึงด้านที่เปราะบางเมื่อเธอพบความจริงที่สั่นสะเทืิอนความเชื่อของเธอไปตลอดกาล
ยิ่งได้ แซมมวล แอล แจ็คสัน ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้เรื่องราวได้เป็นอย่างดีมาคอยรับส่งมุกกับเธอก็ยิ่งทำให้หนังดูสนุกโดยแทบไม่ต้องพึ่งพาฉากแอ็คชั่นมาคอยปลุกคนดูมากนัก รวมถึงนักแสดงสมทบทุกคนก็ทำหน้าที่ได้ดีจนกลายเป็นหนังมาร์เวลที่ภาพรวมทางการแสดงค่อนข้างแข๋็งแรงเรื่องหนึ่งในจักรวาลของหนังเลยทีเดียว
สิ่งที่ดูจะถูกใจและแอบดักแก่ผมอยู่มิใช่น้อยคงหนีไม่พ้นการเล่นกับเซ็ตติ้งในปี 1995 ตั้งแต่ซีนบนโลกซีนแรกที่จงใจให้แครอล ตกลงมากลางร้านบล็อคบัสเตอร์แล้วเดินผ่านเชลฟ์หนังแอ็คชั่นดังที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งนับๆดูก็แอบมีหลายเรืื่องในความทรงจำอยู่นะครับ ฮ่าาาา  แต่โดยนัยยะแฝงแล้วการที่ Captain Marvel จะเป็นหนังเรื่องแรกของตระกูล Disney ที่ไม่ได้ลงสตรีมมิงทาง Netflix ยังเป็นการเสียดสีคู่แข่งตัวเองในอนาคตอย่างมีนัยยะสำคัญ
เพราะหากจำกันได้ดูหนัง Netflix นี่แหละที่เริ่มบริการเช่าดีวีดีออนไลน์จนทำให้บล็อคบัสเตอร์อยู่ไม่ได้ และการที่หนังไปเซ็ตเริ่มที่บล็อคบัสเตอร์เองก็เหมือนเป็นเทียบเชิญศึกไปถึง Netflix ว่าตัวเองพร้อมลงแข่งในนามดิสนีย์พลัสไม่นานเกินรอ หรือการเล่นตลอกกับยุคสมัย ทั้งอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในยุคโมเด็มที่ทั้งอืด ทั้งไม่เสถียร
หรือการปรากฎตัวของเครื่องมือสื่อสารยุคก่อนทั้งเพจเจอร์และโทรศัพท์หยอดเหรียญก็เรียกความทรงจำวัยหวานได้เป็นอย่างดี แุถมยังทำให้เรารู้สึกเลยว่าเทคโนโลยีต่างๆมาไกลเหลือเกินจนบางครั้งเราก็หลงลืมสิ่งเหล่านี้ไม่ต่างจากนางเอกที่หลงลืมตัวเองในนามแครอล เดนเวอร์ไปหมดสิ้น นั่นทำให้การเซ็ตติ้งดังกล่าวไม่ได้ไร้ความหมายแต่กลับส่งเสริมการเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดี
และเป็นธรรมเนียมที่เว็บดูหนังมาร์เวลจะแยกการเมืองไม่ออก และแน่นอนว่าศัตรูหมายเลขหนึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล โดนัลด์ ทรัมป์ นั่นเองโดยคราวนี้ ประเด็นผู้อพยพที่กลายเป็นจุดพลิกผันของหนังยังทำให้เราสืบย้อนไปมองประวัติศาสตร์อเมริกาว่าด้วย อารยะชนกับเผ่าพื้นเมือง
ซึ่งหนังทำตรงนี้ออกมาได้เข้มข้นมาก มันสามารถกินความไปถึงความหมายหรือผลพวงของสงครามต่างๆได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ตัวละครซูพรีมอินเทลลิเจนต์ที่ถอดแบบมาจากคนที่ แครอล นับถือเองก็ยังมีแนวคิดเหมือน อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่พยายามคิดค้นอาวุธที่จะหยุดทุกสงครามก่อนจะพบว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ จนทำให้หนัง Captain Marvel กลายเป็นหนังที่อิงการเมือง และประวัติศาสตร์มากที่สุดในจักรวาลมาร์เวลแล้วล่ะครับ
รีวิว Captain Marvel

ความรู้สึก

หนังเรื่อง Captain Marvel ฟิลลิ่งเหมือนดู Guardian of The Galaxy ภาคแรกผสมๆ Captain America ภาคแรก เป็นเป็นแนวปูเรื่อง set up ตัวละครและเชื่อมจักรวาลของซุปเปอร์ฮีโร่หลายๆ เรื่องไว้ในเรื่องนี้ หนังจะไม่ได้ตลกฮาเกรียนอะไรมากแบบ Guardian of The Galaxy เพราะตัวกัปตันมาร์เวลไม่ได้เกรียนๆ ฮาๆ แบบสตาร์ลอร์ด จะออกแนวจริงจังบู๊แอคชั่นแบบกัปตันอเมริกามากกว่า เนื้อเรื่องจะดูเป็นหนังข้อมูลผสมหนังแอคชั่นมากกว่า หนังบันเทิงเอาฮาขำกร๊ากแบบหนังมาเวลหลายเรื่องในช่วงหลัง (เช่น Ant Man, Gardian of The Galaxy, Thor Raknarok, Deadpool)

งานสร้าง

ภาพสวยมาก… เอฟเฟกต์ซีจีก็ยังเพลิดเพลินชวนว้าวไม่ตกมาตรฐาน งานสร้าง (Production) เช่นอลังการแม้จะไม่เท่า Black Pather แต่ก็อยู่ประมาณๆ Captain America, Ant Man เทือกๆ นั้นได้ ก็เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจอยู่ดี งานเพลงก็เร้าอารมณ์ได้ดีอยู่ แถมใช้เพลงเก่าๆรีโทรๆคล้ายๆ Guardian of The Galaxy หน่อยๆ ด้วย เป็นที่โดดเด่นออกมาเลยทางด้านเพลง
อีกจุดที่เชื่อได้เลยว่าเหล่าทาสแมวจะต้องเสียอาการคงหนีไม่พ้นการปรากฎตัวของน้องกู๊ส ซึ่งจากตัวอย่างเราจะเห็นน้องกู๊สโผล่มาเหมือนตัวประกอบผ่านๆ แต่บอกเลยว่านางแอบขโมยซีน และโปรยเสน่ห์ให้คอหนังได้หลงไหลกับความลำไยบีมของนางกันแบบไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน ก่อนที่หนังจะเฉลยว่าแท้จริงแล้วความอันตรายของนางค่ืออะไรเท่านั้นแหละ โอ้โหทั้งโหด มันส์ ฮา แบบไม่กล้าสปอยล์เลย ที่สำคัญนางยังเป็นไฮไลต์เด็ดสำหรับช่วงเอนด์เครดิตด้วยน้าาาาา
สิ่งเดียวที่ขอเตือนแฟนๆหนังมาร์เวลไม่มีอะไรมากแค่อย่าดื่มน้ำเยอะก็พอ เพราะตามธรรมเนียมแล้วเราจำเป็นมากที่จะต้องดูเอนด์เครดิต 2 ตัวให้หมด ซึ่งหนังมีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 4 นาที โดยส่วนตัวมองว่าเอนด์เครดิตคราวนี้ทำไม่ยืดเยื้อเท่าไหร่ รอไม่นานมาก ส่วนใครเป็นแฟนมาร์เวล เชื่อว่าอาจจะต้องดูเกิน 1 รอบเพราะหนังซ่อนอีสเตอร์เอ็กไว้เต็มไปหมด ส่วนใครคิดถึงคุณปู่ สแตน ลี หนัง Captain Marvel จะพิสูจน์ให้เราเห็นว่า คุณปู่ไม่ได้จากเราไปไหนจริงๆ

สิ่งที่ชอบมากๆ

Brie Larson ครับแสดงได้เท่สุดๆ ใครบอกว่าไม่เหมาะกับ Captain Marvel นี่ผมขอเถียงเลยครับ เพราะ Brie เหมาะมากๆๆๆๆๆๆ และอีกตัวละครหนึ่งคือ แมว Goose นี่ถือว่าเป็นนักแสดงหลักในเรื่องเลยนะ น่ารักมาก และตลกมากอีกด้วย แย่งซีนคนอื่นแทบทุกฉากที่โผล่มา 555 สุดท้ายคือระบบ IMAX3D ที่ดีงามมากๆ ไปเปย์ได้เลยครับ

สรุป

Captain Marvel ก็เป็นหนังฮีโร่ที่ดูง่ายตามสูตรหนัง Marvel ทั่วๆ ไปแหละ เพียงแต่เรื่องนี้เราหาจุด Climax หรือจุดพีคของเรื่องไม่เจอจริงๆ แต่ถ้าถามว่าจำเป็นไหมที่จะไปดู ก็คงต้องตอบว่าจำเป็นแหละ มันมีการปูเรื่องราว ผูกโยงกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกของ MCU ไว้ด้วย แต่ถ้าถามว่าผิดหวังไหม ก็นิดนึงอะนะ ถึงอย่างไรก็ตาม หลังจากดูจบแล้ว มันก็ยังส่งผลให้เราอยากดู Avengers: Endgame ต่ออยู่ดีนั่นแหละ
ปล. เจ้า Goose น่ารักมากกกกกก เรียกเสียงฮือฮาได้ทุกฉากที่ออกมาเลย
ปล2. ย้ำอีกครั้งนะ มีฉาก Post Credit สองตัวนะ หลัง Mid และ End Credits เลยจ้าาาา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น