วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

แสงกระสือ – Inhuman Kiss

ดูหนัง


รีวิว แสงกระสือ – Inhuman Kiss

ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นวันครบรอบกระสือไทยหรืออย่างไร ถึงได้มีหนังกระสือเข้าติดๆ กันถึงสองเรื่องเลยทีเดียว นั่นคือเรื่องนี้ “แสงกระสือ” และอีกเรื่อง “กระสือสยาม” ซึ่งการโปรโมทต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จะเห็นได้ว่า กระสือสยามโปรโมทได้เยอะมาก อาจจะเพราะได้ มิวนิค BNK ในใจก็เลยหวั่นๆ ว่าเรื่องแสงกระสือกระแสเงียบๆ อาจจะเป็ยแค่หนังผีธรรมดาเรื่องนึง แต่พอได้ดูแล้วน่าปรบมือให้กับหนังไทยเรื่องนี้จริงๆ รีวิว แสงกระสือ

เรื่องย่อ

จำ “จูบแรก” ของคุณได้ไหม? เด็กสาวแรกรุ่นในหมู่บ้านอันห่างไกล ค้นพบว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่มนุษย์เหมือนคนอื่น แต่สืบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์เก่าแก่ในตำนานที่ถ่ายทอดกันผ่านทางน้ำลาย มีเพียงเด็กหนุ่มคนเดียวในหมู่บ้านที่รู้ความจริง และพยายามปกป้องเธอจากการไล่ล่าของชาวบ้านที่หวาดกลัวผีกระสือ ความใกล้ชิดของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความรัก ขณะที่อสูรกายอีกสายพันธุ์หนึ่งก็ต้องการหัวใจของเธอเพื่อความเป็นอมตะ หนทางที่เธอจะอยู่รอดคือหนีออกจากหมู่บ้าน หรือการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ตามล่า… แล้วเขาจะปกป้องเธอได้หรือไม่
ลืมหนังกระสือเก่าๆ ที่เคยดูไปได้เลย หนังไม่ได้เสียเวลาเล่าเรื่องต้นกำเนิดของกระสืออย่างที่ผ่านๆ มา ไม่ได้น่ากลัว หนังดำเนินเรื่องให้คนดูสนใจและน่าติดตาม มีปริศนาให้ขบคิดนิดหน่อยอยู่ตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่ดำเนินเรื่องเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และจังหวะหนังดีมาก หนังฉลาดที่ไม่ต้องให้คนดูเสียเวลาเดาให้ยากว่าใครเป็นกระสือ มันไม่ได้โฟกัสที่การตามหาตัวจริงว่า “กระสือเป็นใคร”
แต่จะเน้นหนักไปพาร์ทดราม่ามากกว่าว่าจะ “ใช้ชีวิตยังไงในฐานะกระสือ” พร้อมๆ ไปกับเรื่องราวความรักสามเศร้า ที่ก่อนดูก็คิดนะว่าหนังจะทำยังไงให้เราอินกับเรื่องราวความรักของคนกับกระสือ แต่หนังมันทำได้! ถึงแม้หนังจะมีซัพพล็อตเยอะ แต่ก็แบ่งสัดส่วนมาได้พอดี มีน้ำหนักกับทุกส่วนที่หนังใส่มาได้ลงตัวสุดๆ อีกทั้งบรรยากาศในเรื่องนี้มีเสน่ห์มาก ทั้งการจัดไฟ แสง สี เรียกได้ว่าคุมโทนและมูดของหนังได้เป็นอย่างดี
หนังไทยแนวแฟนตาซีเฮอร์เรอร์ที่โปรดักชั่นน่าดูมากถึงมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้เลย  สำหรับหนังผีกระสือ ผีโบราณที่แปลกแหวกความรู้สึกคนยุคใหม่ แต่ก็ทำออกมาได้รสชาติสากลแต่มีความขลังในแบบไทยสูงมาก ใครเด็กยุค 90 น่าจะจำละครช่อง 7 ที่มีกระสือยายสายและเนื้อเพลง “กระสือกลางวันมันเป็นหญิง มีทุกสิ่งธรรมด๊า ธรรมดา” ได้เป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นอีกผีที่คู่ขวัญชาวไทยมาตลอดเช่นกัน
รอบนี้ค่าย ทรานสฟอร์เมชั่น ได้นำผู้กำกับ โดม-สิทธิศิริ มงคลศิริ ผู้กำกับ Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย มาถ่ายทอดจินตนาการเหนือจริง พร้อมด้วยดารานักแสดงรุ่นใหม่ในบทนำทั้ง โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, มินนี่-ภัณฑิรา พิพิธยากร และ เกรท-สพล อัศวมั่นคง และยังเป็นการคืนจออีกครั้งของดารารุ่นใหญ่อย่าง เอ็ม-สุรศักดิ์ วงษ์ไทย ด้วย เรียกว่าทั้งโปรดักชั่น ซีจี ดารา น่าตื่นตาตื่นใจไปหมดทีเดียวเชียว
สิ่งที่ต้องชื่นชมอย่างมากคือความพิถีพิถันระดับงานคราฟต์ ของผู้สร้างหนัง คือ การถ่ายภาพ ไลท์ติ้ง โลเกชั่น อาร์ตไดฯ คอสตูม แต่งหน้า เทคนิคพิเศษ รวมถึงซีจี คือเนี้ยบมาก ทำดีต้องชมครับ ความตั้งใจนี่ถ่ายทอดมาให้เห็นในทุกเม็ดทุกดอกของหนังเลย และส่วนที่สำคัญมากคือ รสนิยมดี ดีตั้งแต่เริ่มคิดโปรเจ็กต์ พูดถึงกระสือเราก็ติดภาพเก่า ๆ แต่ผู้กำกับโดมกลับมองต่างออกไป ผีกระสือไม่ใช่ความแหวะ แต่มันคือความงดงามในแบบหนึ่ง แสงของกระสือคือแสงแห่งความยวนใจ ไม่ใช่ความสยอง
ผู้กำกับชี้ให้เห็นความต่างของเวอร์ชั่นนี้กับที่ผ่านมาว่า “ในฐานะคนดูหนังพอนึกถึงกระสือเรามักจะยึดติดกับผีสาวที่มีหัวกับไส้และกินอาจม แต่ทางทรานส์ฟอร์เมชั่นพูดขึ้นมาว่า แล้วทำไมเราไม่ทำออกมาให้มันดีล่ะ คำนี้ท้าทายผมมาก โจทย์ในหัวของผมก็คือจะทำยังไงให้ออกมาเป็นกระสือสวยงาม”
คำว่าสวยงามนี้สำคัญมากเหมือนเป็นคีย์ของโปรดักชั่นโดยรวมเลยทีเดียว และก็ตอบโจทย์การผสานงานอาร์ตกับงานบันเทิงที่ลงตัว นี่น่าจะเป็นปัจจัยความสำเร็จของหนังในตลาดเมืองนอกแน่ ๆ
สิ่งที่ต้องชมต่อมาคือ การแสดง คือเราต้องไม่ลืมว่า บทนำ 3 คนนั้น มีถึง 2 คนที่จัดได้ว่าหน้าใหม่เลย และอีก 1 คนอย่างโอบ-นิธิ ก็ยังอยู่ในช่วงของการพิสูจน์ตัวเอง ทว่าการแสดงของทั้งสาม คือเอาอยู่ ไม่ใช่เอาอยู่ธรรมดามันรีดเร้นพลังตั้งแต่หัวใจมาถึงสายตาในการแสดงทีเดียว ต้องยอมรับว่า เราไม่ค่อยเห็นหนังไทยที่ดึงพลังการแสดงด้วยสายตามากนัก
ในขณะที่ดูหนังต่างชาติเขาทำเป็นเรื่องปกติ การที่หนังเรื่องนี้ทั้งให้จังหวะเวลาที่พอดี ให้การกำกับการแสดงที่ถูกต้อง และได้การแสดงที่ตรงโจทย์สื่อความอย่างสร้างสรรค์ จึงเป็นพลังด้านการแสดงที่ทำให้เราตราตรึงมากเช่นกัน นี่ยังไม่นับมาตรฐานการแสดงของดารารุ่นเก่าทั้งหลายที่มาช่วยขับเคลื่อนเรื่องซึ่งดีเป็นทุนแล้ว และการแสดงของตัวประกอบที่ชัดเจนว่าไม่ได้คัดมาแบบขอไปที แต่ตัวประกอบทุกตัวมีเรื่องราวมีการแสดงที่ส่งหนังได้อย่างน่าสะพรึง
ในด้านเนื้อหา หนังได้มะเดี่ยว-ชูเกียรติ มาเขียนบท ซึ่งเป็นผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์ดีในฐานะคนเขียนบทด้วย และแน่นอนเมื่อหนังขับมาทางความรักสามเส้า ความคิดจิตใจแบบมนุษย์ที่มิติซับซ้อน รวมถึงความเป็นดราม่าแบบย้อนยุค ก็เรียกว่าลงตัว ดึงศักยภาพของมะเดี่ยวออกมาได้เต็มที่ สิ่งหนึ่งที่โปรแกรมหนังบทของมะเดี่ยวทำได้ดีมากคือการไม่ทำให้ผู้ชมเบื่อแม้กราฟหนังจะเล่าไปแบบไม่มีจุดลุ้นนัก เพราะบทจะสอดแทรกจุดหักมุมมากให้ช็อกคนดูอยู่ทุกระยะอย่างชำนาญมือ
แล้วผู้กำกับหนังก็ไม่พลาดที่จะใช้บทที่ดีในการสร้างหนังที่ดี นี่จึงคือความสมบูรณ์ที่เราบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีและดูสนุก ไม่ได้สนุกในแบบหนังบันเทิงจ๋า แต่มันคือความสนุกของการดื่มด่ำไปกับรสทางอารมณ์ทั้งสุขเศร้า รักหวานซึ้ง การเสียสละ ความรันทดใจ อย่างยิ่งยวด ซึ่งคู่ควรกับคำว่า คลาสสิก จริง ๆ
รีวิว แสงกระสือ

ในอีกด้านเราอาจมองได้ว่านี่คือหนังแนวก้าวพ้นวัยในรูปแบบหนึ่ง เด็กสาวที่วันหนึ่งเธอต้องพบว่าชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือจะรับมืออย่างไร หากเปรียบเปรยการเป็นกระสือก็อาจเหมือนการเติบโตด้านร่างกาย มีประจำเดือน ร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความเขินอายต้องหลบซ่อน แต่สุดท้ายเรื่องราวของกระสือก็เป็นการสอนว่าเราไม่อาจต่อต้านธรรมชาติของการเติบโตได้ ไม่ว่าทั้งด้านดีหรือด้านร้าย แค่ต้องเรียนรู้และยอมรับ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของตนเอง และผู้อื่น ความรู้และการเปิดใจกว้างคือหนทางชนะสิ่งที่ไม่รู้และความกลัว หนังเรื่องนี้จึงให้คุณค่าในหลายระดับ ทั้งความงาม ปัญญา และอารมณ์

วิจารณ์

อิ่มเอม…กำลังดีเลย ทุกคนนำพาหนังไปได้อย่างสมูทมากๆ ไม่ขาดไม่เกิน ส่วนตัวคิดว่าแคสนักแสดงมาดีมาก นักแสดงนำทั้งสามดูงามกำลังดีเลย การแสดงก็เป็นการแสดงภาพยตร์ ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป นำพากระสือมาสิงร่างได้อารมณ์จริงๆ ฉากรักดูรักจริง เศร้าดูเศร้าจริง เป็นห่วงกันจนรับรู้ได้ราวกับไปเป็นสักคนในนั้นด้วยเองเลยจริงๆ

งานสร้าง

ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคืองานภาพและแสง เป็นอะไรที่เหนือมาตรฐานหนังไทยหลายๆ เรื่องเลย คืองานภาพสวยมาก ดีมากๆ สื่อสารเรื่องราวและอารมณ์ได้ดีมากๆ ดูแล้วสุนทรีย์กับภาพประมาณนึงเลย นอกจากงานภาพงานซีจีก็เป็นอะไรที่เรียกว่าเป็นจานหลัก แทบเป็นพระเอกเลย หนังดีไม่ดี ซีจีมีผลมากเลย แต่เรื่องนี้งานดีมาก ผีดูลุคอินเตอร์มาก ออกแบบมาได้ดีมาก (ไม่แพ้นาคีเลย) แลดูให้อารมณ์เหมือนดูหนังผีฝรั่งพวกคอนเจอริ่งที่มีซีจีคุณภาพนั้นเลย
งานฉากและเสื้อผ้าดูสมูทกับเรื่องมาก ไม่ขัดหูขัดตา มีความมานะมานีปิติชูใจ ให้อารมณ์นั้นเลย บ้านเรือนร่องสวนไร่นาก็ดูน่าเชื่อถือว่าเป็นสถานที่ที่เหล่าตัวละครอยู่อาศัยจริง ไม่ได้ดูเป็นฉากแห้งๆ ดูมีรายละเอียดมีดีเทล ที่เห็นจะไม่โดดเด่นออกมาจะเห็นจะมีแค่เพลงที่ผสมผสานกลมกลืนแต่ไม่โดดเด้งออกมา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าแย่อะไรเลย ทุกอย่างล้วนผสมผสานออกมาสมบูรณ์แบบมากๆ

สรุป

เราชอบเลยแหละ เป็นหนังผีไทยเรื่องนึงที่น่าประทับใจ และไม่ผิดหวังเลย ชอบในความกล้าเล่น กล้าคิด กล้าทำ ของเรื่องนี้มาก หมายรวมไปถึงซาวด์ประกอบที่ยอดเยี่ยมด้วย อยากให้ลองไปดูกันนะครับ หนังไทยไม่ได้แย่เสมอไปนะ
เป็นหนังที่เหมาะกับทุกคนจริงๆ วัยรุ่น แฟนกันพากันไปดู ตอนไปดูเห็นผู้ใหญ่ก็ไปดูด้วยหลายคน แต่ก็ยังเห็นโรงหนังยังโล่งๆอยู่ก็แอบหวั่นๆ อยากให้มาสนับสนุนเรื่องนี้กันเยอะๆ หนังไทยดีๆแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะสนับสนุน คนดูได้ความบันเทิงไปเต็มๆ คนสร้างได้กำลังทุนกำลังใจที่จะทำหนังดีๆไว้อีกต่อไป ยังไงขอฝากแสงกระสือไว้ในอ้อมอกอ้อมใจคนไทยด้วยจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น