รีวิว Insatiable Season 2 - ชิงรักหักมงกุฎ
หลังสร้างความสนุกในซีซันแรกจนเป็นที่ถูกอกถูกใจในความตลกแบบดาร์ก ๆ ที่ผสานเรื่องราวแนวผู้หญิงๆอย่างความงาม การบูลลีในโรงเรียน หรือสงครามเวทีนางงามมาคลุกเคล้ากับพลอตฆาตกรรมที่ทำให้น่าติดตามมากขึ้นในทุกตอน การกลับมาของ Insatiable ในซีซันที่สองนี้บอกเลยว่ามีความเข้มข้นและเลือกเปิดมุมใหม่เล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจจนหยุดดูไม่ได้เลยล่ะ โดยเฉพาะการเริ่มต้นเรื่องจากจุดสุดท้ายที่ซีซันแรกปูไว้ได้อย่างสุดโต่งอย่างการพยายามกำจัดศพที่แพตตีฆ่าและทำให้เห็นว่าในตัวเธอมีปีศาจร้ายแฝงอยู่ รีวิว Insatiable Season 2เรื่องย่อ
หลังเส้นทางประกวดสาวงามของ แพตตี (เดบบี ไรอัน) เต็มไปด้วยซากศพและความลับอันทำให้เธอกลับไปสวาปามอาหารจนอาจเป็นอุปสรรคต่อการประกวดนางงามรายการใหญ่อย่าง มิสจอร์เจียอเมริกา และสถานการณ์ยิ่งทวีความเลวร้ายเมื่อการประกวดในครั้งถัดมาของเธอกลับมีคนตายเพิ่มขึ้น สร้างความลำบากใจให้ บ็อบ อาร์มสตรอง(ดัลลาส โรเบิร์ตส์) โค้ชนางงามของเธอที่ชีวิตกำลังว้าวุ่นทั้งครอบครัวที่ผุพังหลังล้มเหลวกับการเจรจาใช้ชีวิตแบบสามคนผัวเมียกับ คอราลี (เอลิซา มิลาโน)และบ็อบ บาร์นาร์ด (คริสโตเฟอร์ กอร์แฮม) จนทำให้เกิดรอยร้าวและลุกลามกลายเป็นสงครามชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรี และในขณะเดียวกันการกลับมาปรากฎตัวของ แมกโนเลีย (อีริน เวสต์บรูค) ก็อาจทำให้ความลับในคดีฆาตกรรมของแพตตีถูกเปิดเผย จนบ็อบ และ แพตตี ต้องหาตัวฆาตกรให้เจอก่อนเธอจะหมดโอกาสบนเวทีนางงามต่อไป.ผลกระทบที่ร้ายแรงของการกลั่นแกล้ง (Bullying) เริ่มปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งโลกเชื่อมโยงกันด้วยสังคมออนไลน์ ทำให้ประเด็นดังกล่าวมีการพูดถึงมากขึ้น เฉพาะแค่ซีรีส์ในช่วง 1-2 ปีนี้ ก็เต็มไปด้วยเนื้อหาที่สะท้อนประเด็นดังกล่าว ทั้งซีรีส์ เด็กใหม่, My ID is gangnam beauty, Switched และโดยเฉพาะซีรีส์ 13 Reasons Why ที่ช่วยชี้ให้ผู้ชมได้เห็นว่า ทำไมคนหนึ่งคนจึงกล้าพุ่งหาความตายมากกว่าการมีชีวิตอยู่ นั่นเพียงเพราะคำพูดหรือการกระทำร้ายๆ จากคนอื่น อีกทั้งตัวละครใน 13 Reasons Why มีความเป็นมนุษย์สุดๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ชมหันกลับมามองย้อนดูตัวเองด้วยว่า ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นสาเหตุที่ทำให้ใครคนหนึ่งต้องหัวใจสลายบ้างหรือไม่
หลังสร้างความสนุกในหนัง HDซีซันแรกจนเป็นที่ถูกอกถูกใจในความตลกแบบดาร์ก ๆ ที่ผสานเรื่องราวแนวผู้หญิงๆอย่างความงาม การบูลลีในโรงเรียน หรือสงครามเวทีนางงามมาคลุกเคล้ากับพลอตฆาตกรรมที่ทำให้น่าติดตามมากขึ้นในทุกตอน การกลับมาของ Insatiable ในซีซันที่สองนี้บอกเลยว่ามีความเข้มข้นและเลือกเปิดมุมใหม่เล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจจนหยุดดูไม่ได้เลยล่ะ
โดยเฉพาะการเริ่มต้นเรื่องจากจุดสุดท้ายที่ซีซันแรกปูไว้ได้อย่างสุดโต่งอย่างการพยายามกำจัดศพที่แพตตีฆ่าและทำให้เห็นว่าในตัวเธอมีปีศาจร้ายแฝงอยู่ การดำเนินเรื่องในส่วนเดบบี เลยทำให้ซีรีส์สามารถเจาะลึกไปยังชีวิตครอบครัวของเธอที่ต้องบอกว่าช็อคไม่น้อย แต่เราไม่ขอเล่ารายละเอียดมากนักเพราะอยากให้ไปสัมผัสความใจสลายของวัยรุ่นคนนึงที่ต้องมาพบความจริงอันน่าเจ็บปวดทว่าชวนระทึกและช็อกกับคำตอบจริง ๆ
ซึ่งในซีซันนี้เลือกให้ตัวละครแม่อย่าง แองจี (ซารา โคลอนนา)มาปรากฎตัวหลังหนีออกจากบ้านในวันเกิดแพตตีซีซันที่แล้ว แถมมาพร้อมหน้าอกศัลยกรรมที่ต้องบอกว่ากลายเป็น โมทีฟ หรือจุดกระตุ้นเรื่องที่ทำให้เกิดเหตุการณ์โอละพ่อและแน่นอนว่าคนตายที่มากขึ้นแบบเดาทางกันไม่ถูกแน่ ๆ
สำหรับอีกจุดที่ Insatiable ซีซันนี้เพิ่มความสนุกมากขึ้นคือการเลือกบอกเล่าเหตุการณ์ผ่านมุมมองตัวละครอื่น ๆ ทั้ง แมกโนเลีย ที่ตามหาความทรงจำที่หายไปถึง มหาวิทยาลัยฮิวจ์ มหาวิทยาลัยที่ไม่มีที่ยืนให้คนผิวขาวจนเกิดเรื่องราวสนุกๆและเรายังต้องลุ้นไม่ให้เธอจำเหตุฆาตกรรมของแพตตีได้ หรือในมุมมองของ นอนนี (คิมมี ชีลส์) เพื่อนสาวแพตตีที่ดันอยากทำตัวเป็นตำรวจที่ซีรีส์จงใจเล่นกับความไว้เนื้อเชื่อใจจนความลับอันดำมืดอาจทำให้แพตตีเสียเพื่อนรักที่ดีที่สุดไปก็ได้
รวมถึงมุมมองฮาๆผ่านตัวละคร ดิกซี (ไอรีน ชอย) ลูกเลี้ยงชาวเอเซียของ เรจินา (อาร์เดน ไมริน)ที่คราวนี้เราจะได้พบครอบครัวที่แท้จริงของเธอเสียที ซึ่งต้องขอบอกว่าเฮนรี ตัวละครพี่ชายของดิกซี จะทำให้สาวๆเสียอาการกับหน้าหล่อๆและซิกส์แพคงามๆของ อเล็กซ์ แลนดิ ไม่แพ้ แพตตี ที่ดูจะหลงไหลและอยากทานแทนอาหาร 555 เรียกได้ว่าใครลำไยกับความเยอะ ความป่วงที่ซีซันแรกดูจะเล่าผ่านมุมมองแพตตีคนเดียว ในซีซันนี้เราจะได้ความสนุกจากมุมมองตัวละครอื่นๆที่น่าติดตามเพิ่มขึ้นมาแน่นอนครับ
ในซีซันที่แล้วคนที่โดดเด่นที่สุดหนีไม่พ้น เดบบี ไรอัน และ ดักลาส โรเบิร์ตส์ ในบทแพตตี และ บ็อบ ซึ่งซีซันนี้พวกเขาก็ยังคงโดดเด่นและสร้างความสนุกให้เราได้ตลอดทั้งซีซันเช่นเคย แต่ที่เพิ่มมาเห็นจะเป็นบทบาทที่เพิ่มขึ้นของตัวละครสมทบ ซึ่งนอกจากเจ้าของมุมมองอื่นอย่าง อีริน เวสต์บรูค ในบท แมกโนเลีย สาวสวยความจำเสื่อมที่ทำให้เราลุ้นระทึกว่าความทรงจำของเธอจะเป็นจุดจบให้แพตตีหรือไม่
หรือ คิมมี ชีลส์ ในบท นอนนี สาวเลสเบี้ยนที่แอบรักแพตตีข้างเดียวก็ทำให้เราเห็นใจและสัมผัสความเจ็บปวดของการถูกเพื่อนหักหลัง และแน่นอนว่าสีสันความฮาของซีซันนี้ไม่เกิน ไอรีน ชอย และ อาร์เดน ไมริน ในบท ดิกซี และ เรจินา ที่เมื่อความจริงเรื่องอุปการะเปิดเผยก็กลายเป็นการระเบิดเสียงฮาจากทั้งการแสดงและมุกที่เวิร์คมากๆ และที่สำคัญตัวละครแม่ลูกคู่นี้ยังกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์ผลิกผันแบบไม่มีใครคาดคิดอีกด้วย
เมื่อต้องรับมือกับการ Bullying
เรา Look Down ตัวเองมานานมาก ทั้งจากคำพูดคนอื่นก็มี คำพูดจากตัวเองก็มี เราส่องกระจกแล้วไม่ชอบตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองไม่สวย แล้วจู่ๆ วันหนึ่งเราคิดว่าจะลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง แล้วซิลวี่ก็เปลี่ยนเลย พยายามมั่นใจในตัวเอง พยายามรักทุกอย่างในร่างกายของเรา “Make the best out of what I have” แล้วก็ออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง เราต้องมีมายด์เซตว่าเราต้องการให้ตัวเองเป็นแบบไหน และสิ่งสำคัญคือเราต้องแฮปปี้กับตัวเอง
เปลี่ยนแปลงแล้ว แฮปปี้กับตัวเองแล้ว ยังมีคนพูดถึงเราอย่างนั้นอยู่อีกไหม
มันยังมีอยู่ มีเลยล่ะ ยังไงก็ตามคนเราก็มีความรู้สึกเนอะ เวลาไปเห็นคอมเมนต์ก็รู้สึกแหละ แต่เราก็เปลี่ยนไปแล้ว จากเมื่อก่อนเอาจริงๆ คอมเมนต์ดีๆ มีเป็นร้อย แต่มีคอมเมนต์ที่ว่าเราประมาณสอง ซึ่งดูหนังผ่านเน็ตสองอันนี้มันดันมีพลังและเข้ามาอยู่ในใจเราง่ายมาก จะดึงพลังงานเราไปหมด แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเราจะปล่อย แบบปล่อยไปเลย โอเค ยูคิดแบบนั้นก็ไม่เป็นไร สิ่งที่เรารู้คือเราคิดยังไงกับตัวเราเอง แค่นี้เลยค่ะ เราต้องรักตัวเอง รู้สึกว่าตัวเราเองมีค่า
ทุกคนโดนเหมือนกัน คือไม่ใช่แค่เรื่องน้ำหนัก เรื่องอ้วน เรื่องผอม แต่มันคือทั้งเรื่องเชื้อชาติ ผิวพรรณ ส่วนสูง โดนกันทุกคน ซึ่งเราเปลี่ยนใครเขาไม่ได้ด้วย หากเขามี มุมมองที่เนกาทีฟ สิ่งเดียวที่เราแก้ได้คือสร้างความคิดแง่บวกให้กับตัวเอง ซิลวี่อยากบอกว่า เรายังมีเพื่อนมีคนที่เคยโดนเหมือนเรา คิดดูว่าคนที่เขาประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยโดน แต่เขาคิดโพสิทีฟ และทำให้เขา Push Up ตัวเอง
ท่ามกลางสิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆ มากมายในสังคม Insatiable เป็นซีรีส์ที่เนื้อหาช่วยชี้นำให้เราหันกลับมามองตัวเองว่าเคยทำให้ใครต้องเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะการกระทำหรือคำพูดของเราหรือไม่ ในมุมกลับกัน ถ้าเรากำลังเจ็บช้ำเพราะคนอื่น ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะเป็นกำลังใจเล็กๆ ช่วยให้เรามองเห็นโลกด้านที่สวยงามมากขึ้น มีความมั่นใจ และพร้อมจะสู้กับนานาปัญหาที่เข้ามาได้อย่างมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น