วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

Tokyo Ghoul Live Action

ดูหนังสด

รีวิว Tokyo Ghoul - คนพันธุ์กูล

จากมังงะเรื่องโปรดของใครหลายคน ดัดแปลงกลายเป็นหนังคนแสดง ‘Tokyo Ghoul’ นี่คือผลงานแอคชั่นสยองขวัญที่สร้างจากการ์ตูนสุดฮิต เรียกได้ว่ามีฐานแฟนคลับอยู่มากมายทั่วเอเชีย แม้ว่าผมเองจะไม่เคยอ่านเวอร์ชั่นมังงะมาก่อน อาจจะเปรียบเทียบไม่ได้ว่ามันแตกต่างกันยังไง แต่พอบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้ออกมาน่าสนใจแค่ไหน รีวิว Tokyo Ghoul

เรื่องย่อ

ชีวิตอันสุขสงบของหนุ่มมหาลัยธรรมดาๆอย่าง คาเนกิ เคน (คุโบตะ มาซาทากะ) ต้องมีอันสั่นคลอนหลังถูก ริเสะ (อาโออิ ยู) หญิงสาวที่แอบชอบทำร้ายเพื่อหวังกินเนื้อของเขา แต่โชคชะตาก็พาให้เขารอดตายพร้อมได้รับการเปลี่ยนไตจากริเสะ

แต่ต้องแลกด้วยการกลายเป็นครึ่งคนครึ่ง ‘กูล’ สิ่งมีชีวิตที่กินได้เฉพาะเนื้อมนุษย์เท่านั้น และในขณะที่ฝืนความหิวของตัวเอง เขาต้องร่วมกับ โทกะ (ฟุมิกะ ชิมิสึ) สาวเสริฟร้าน อันไทคุ ปกป้องกูลผู้บริสุทธิจาก เอม่อน (ซูซูกิ โนบูยูกิ) และ มาโดะ (โออิซุมิ โย) จากหน่วยปราบกูลนาม CCG ที่มาพร้อม เควนเก้ อาวุธสังหารที่ได้มาจากอวัยวะกูลที่พวกเขาปลิดชีพ  แล้วสงครามครั้งนี้ใครจะเป็นผู้รอดชีวิต


เดิมที Tokyo Ghoul เป็นมังงะที่ประพันธ์โดย ซูอิ อิชิดะ (Sui Ishida) ตีพิมพ์ในนิตยสาร วีคลี ยัง จัมพ์ ระหว่างปี 2011 – 2014 ด้วยเนื้อหาที่ประสานระหว่างความสยองกับดราม่าความแปลกแยกของชีวิตวัยรุ่นที่สะท้อนสังคมญี่ปุ่นได้อย่างถึงแก่นทำให้มังงะได้รับความนิยมจนเรื่องราวได้รับการต่อยอดเป็นมังงะภาคต่อ นิยายไลต์โนเวล

และอนิเมะซีรีส์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน  และสำหรับฉบับหนังไลฟ์แอ็คชั่นก็ได้ผู้กำกับหนังสั้นและมินิซีรีส์อย่าง เคนทาโร่ ฮากิวาระมากุมบังเหียนเล่าเรื่องราวของปอบแห่งเมืองโตเกียวที่ต้องต่อสู้กับสงครามเผ่าระหว่างเผ่าพันธุ์

เนื้อเรื่อง

ต้องยอมรับว่าตัวหนังจริงค่อนข้างแตกต่างจากตัวอย่างหนังที่โปรโมตมาก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก เพราะในทางการตลาดหนังชูความเป็นแอ็คชั่นแบบฮีโร่พันธุ์สัตว์ประหลาดเพื่อให้เข้าถึงคนดูกลุ่มใหญ่ ทั้งที่เนื้อหาจริงๆ ของมันจะเดินตามรูปแบบการเล่าเรื่องของมังงะและอนิเมะซีรีส์ที่ไปเน้นเรื่องราวการเรียนรู้ชีวิตบทใหม่ของ คาเนกิ ที่ต้องเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดามาเป็นกูล และไม่อาจทำใจกินเนื้อมนุษย์แม้จะเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวที่ช่วยประทังชีวิตของเขาได้ก็ตาม

ซึ่งนำมาสู่การพูดถึงธีมหลักของเรื่องคือ “เส้นแบ่ง”  ทั้งเขตแดนที่กูลฆ่าผู้บุกรุกพื้นที่หากินเพื่อประกาศอาณาเขต หรือหน่วย CCG ที่ถึงขั้นจะล้างเผ่าพันธุ์กูลเพราะเชื่อว่าโลกใบนี้ควรเป็นที่อยู่ของมนุษย์เท่านั้น แต่เส้นแบ่งที่กินพื้นที่เล็กที่สุดแต่กลับเป็นประเด็นหลักที่หนังเลือกมาพูดถึงคือเส้นแบ่งระหว่างความเป็นคนกับกูลในตัวของคาเนกิ

ที่หนังเลือกเปิดให้ คนดีๆอย่าง คาเนกิ ได้เผชิญความโหดร้ายของกูลในรูปลักษณ์ของสาวสวยที่ตัวเองหลงรัก และยิ่งเขารอดชีวิตมาได้ด้วยอวัยวะของกูล เขาเลยกลายเป็นสิ่งที่ตัวเองขยะแขยงจนไม่สามารถ “เข้าพวก” ได้ไม่ว่ากับมนุษย์สังคมที่เขาคุ้นเคย หรือ กูล สังคมใหม่ที่เขาจำใจเป็นสมาชิก

ซึ่งคนดูก็สามารถเชื่อมโยงเรื่องราวแฟนตาซีมืดๆ นี้กับชีวิตตัวเองได้ไม่ยาก โดยเฉพาะภาวะ ไม่เข้าพวกแบบคาเนกิ แต่ก็ใช่ว่าตัวหนังจะเต็มไปด้วยความฟูมฟายจนน่าเบื่อนะครับ ตรงกันข้ามเลยเพราะหนังโหดร้ายมากพอให้เราเห็นตัวละครผู้บริสุทธิ์ถูกทำร้ายและฆ่าตายอย่างสยดสยองทั้งมนุษย์ และกูล ซึ่งทำให้ประเด็นเรื่อง “เส้นแบ่ง” ของหนังยิ่งหนักแน่นทรงพลังมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ชื่อร้านอาหารที่อุปการะ คาเนกิ นาม ‘อันไทคุ’ ยังหมายถึง สันติ และทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งโลกทั้งสองได้อย่างคมคาย

ฉากต่อสู้ของหนัง

อันนี้คือสิ่งที่ต้องเตือนสำหรับใครที่คิดจะเข้าไปดูหนังสด Tokyo Ghoul นะครับ ถ้าคนคุ้นเคยกับฉบับอนิเมะซีรีส์หรือมังงะก็คงพอเดาทางได้ว่าหนังจะอุดมไปด้วยชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ เลือดพุ่งเป็นก๊อกน้ำแตกขนาดไหน ซึ่งส่วนนี้หนังทำเอฟเฟกต์หน้ากล้องหรือ Practical Effect ดูหนังผ่านเน็ตได้เป็นอย่างดี รวมถึงพรอพอาหารที่มีทั้งลูกกะตา ตับไต ไส้พุงมนุษย์ที่ใครยังไม่ทานข้าวแล้วเข้าโรงอาจเกิดภาวะเบื่ออาหารเฉียบพลันได้เลย

จุดบกพร่อง

แต่กระนั้นก็ยังมีจุดบกพร่องเล็กๆ ในตอนท้ายของหนังคือฉากต่อสู้ในช่วงก่อน ไคลแม็กซ์ ที่หนังพยายามตัดสลับสองเหตุการณ์แต่ขาดความต่อเนื่องทำให้อารมณ์คนดูสะดุดไปไม่น้อยเหมือนกันและแม้เอฟเฟกต์หน้ากล้องจะทำได้ดี แต่เอฟเฟกต์ที่เป็นคอมพิวเตอร์กราฟิกต้องยอมรับว่ายังไม่แนบเนียนเท่าหนังฮอลลีวูดนัก กลายเป็นว่าเอฟเฟกต์ที่สร้างความสยองกลับโดดเด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ควรจะอยู่ฝั่งไหนดู มนุษย์ หรือ กูล

ในเมื่อพระเอกต้องปรับชีวิตให้อยู่แบบกูล เรื่องราวก็พาเราให้ไปอยู่ในหมู่พวกกูล ทำให้แอบรู้สึกเห็นใจด้วยซ้ำที่พวกเขาก็เลือกเกิดไม่ได้ และก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อมนุษย์ (แม้ในกลุ่มกูลจะมีพวกแย่ๆ ปะปนอยู่ก็ตาม) โดยเฉพาะการที่หนังติดตามพระเอกไปทุกที่ ได้เห็นพฤติกรรมของมนุษย์ที่ยังคงอยู่ในตัวครึ่งคนครึ่งกูล ทำให้ผู้ชมอย่างเราๆ รู้สึกได้ถึงความยากลำบากในการดำรงชีวิตในแบบกูล

ด้วยข้อจำกัดด้านอาหาร ทำให้พวกเขาถูกจำกัดการกิน ขณะที่การต้องอยู่ร่วมกับมนุษย์ทั้งๆ ที่กินอาหารของมนุษย์ไม่ได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่ารันทดไม่น้อย

รีวิว Tokyo Ghoul

แถมพวกกูลยังถูกมนุษย์ตามล่าเพื่อกำจัดทิ้งอีก

แต่ละตัวมีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนกันเลย คือ อวัยวะที่งอกออกมาจากข้างหลังที่แสนปราดเปรียวว่องไวและใช้เป็นอาวุธได้ แต่กลายเป็นพวกที่พละกำลังสูงส่งกว่ากลับถูกมนุษย์ไล่ล่าแทน

หนังยังใส่แง่มุมดราม่าครอบครัวของพวกกูลให้คนดูได้รู้สึกว่ามีความเป็นมนุษย์ และน่าเอาใจช่วยไม่แพ้กัน ทำให้ระหว่างดูหนังเรื่องนี้ไปก็สับสนในใจกันไป ว่าเราควรจะเข้าข้างหรือเอาใจช่วยฝั่งไหนดี

นักแสดง

ยอมรับว่าผมในฐานะคนดูทั่วไปตอนเห็นตัวอย่างครั้งแรกที่อยากดูเพราะหน้าน้อง อาโออิ ยู ล้วนๆ ครับแต่…ช็อคครับ แม้จะออกมานิดเดียวแต่เธอทำเราสะพรึงมาก น่ากลัวสุดในสามโลก และทำให้คำว่าอสุรกายออกมาจากการแสดงไม่ใช่หวังพึ่งแค่เอฟเฟกต์คอมพิวเตอร์

ส่วน คุโบตะ มาซาทากะ ในบท คาเนกิ พระเอกของเรื่องก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจากหนุ่มติ๋มๆ ที่ต้องสู้กับความหิวกระหายสู่นักสู้ที่พยายามสร้างสมดุลให้โลกสองใบได้อย่างน่าเชื่อถือ ส่วน ฟุมิกะ ชิมิสึ ในบท โทกะ ก็ทิ้งการแสดงสุดท้ายก่อนเกษียณตัวเองจากวงการไปร่วมลัทธิ Happy Science ได้อย่างน่าจดจำทั้งฉากกินอวัยวะมนุษย์และบทบาทในส่วนของดราม่าก็ทำให้คนดูเชื่อจริงๆ

ว่าเธอพร้อมปกป้องผู้บริสุทธิ์แม้ต้องแลกด้วยชีวิต แต่ที่โดดเด่นจริงๆคือ โออิซุมิ โย ในบท มาโดะ หัวหน้าหน่วย CCG ผู้โหดเหี้ยมทั้งการย้อมผมสีดอกเลา ดีไซน์การแสดงทั้งน้ำเสียงการพูดและเพิ่มคาแรกเตอร์เด่นอย่างการกัดโดนัทแล้วเปรียบเปรยชีวิตกูลที่มองมนุษย์เป็นอาหารทำให้นี่เป็นหนึ่งในตัวร้ายที่เท่ที่สุดบนจอหนังของปีนี้เลย

โดยรวม

ภาพโดยรวมของหนัง ‘คนพันธุ์กูล’ นั้น เข้มข้นไปด้วยเรื่องดราม่าที่พาให้เราฉุกคิดถึงเรื่องราวในชีวิตปกติของมนุษย์เรา ที่มักเลือกจำกัดทุกสิ่งที่เป็นอันตรายต่อตน และมองว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่หนังพยายามจะให้เราได้มองในอีกมุมหนึ่งว่า

ถ้าสิ่งที่เรากำจัดเพราะมองว่าเขาทำสิ่งผิด และตัวพวกเขาล่ะ มองสิ่งเหล่านี้เช่นไร สิ่งที่ปรากฏออกมาเพื่อความบันเทิงคือ เรื่องราวที่ออกจะเป็นไซไฟปนสยองขวัญ ฉากของการรบราที่มีแต่เลือดสาด ภาพจัดว่าโหดใช้ได้ อาจจะไม่ถึงกับเดินเรื่องอย่างฉับไว

สรุป

ด้วยการตีความเรื่องที่เคารพต่อต้นฉบับทำให้ Tokyo Ghoul เป็นหนึ่งในหนังจากมังงะที่ไม่สะดุดขาตัวเอง ทั้งเล่าเรื่องสนุก การแคสติ้งนักแสดงที่ไม่ขัดแย้งกับจินตนาการผู้ชม รวมถึงความโหด สยองแบบจัดเต็มก็น่าจะทำให้แฟนๆมังงะสุดคัลต์เรื่องนี้และผู้ชมผู้พิศมัยลาบเลือดบนจอได้ ฟิน อึ้ง เสียว ตลอดเวลาร่วม 2 ชั่วโมงได้อย่างแน่นอน

Tokyo Ghoul Anime

ดูหนังสด

รีวิว Tokyo Ghoul - ผีปอบโตเกียว

สวัสดีเพื่อน ๆ นักอ่านที่น่ารักทุกท่าน เจอกันอีกเช่นเคยวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำอนิเมะสุดโด่งดังซึ่งก็มีเป็นแบบซีรีย์ภาคคนแสดงแล้วด้วย เป็นอนิเมะแนวเหนือธรรมชาติ ดราม่า และการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น ลุ้นได้ทุกตอนด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นถึงใจคนดู ซึ่งเรื่องนี้น่าสนใจอยู่ที่ว่ามีผีปอบคล้ายปอบบ้านเราแต่มาแนวปอบญี่ปุ่นในเมืองโตเกียวนั่นเองซึ่งสนุกมาก ๆ และทำออกมาได้ดีเลย รีวิว Tokyo Ghoul

เรื่องย่อ

ชีวิตอันสุขสงบของหนุ่มมหาลัยธรรมดาๆอย่าง คาเนกิ เคน ต้องมีอันสั่นคลอนหลังถูก ริเสะ  หญิงสาวที่แอบชอบทำร้ายเพื่อหวังกินเนื้อของเขา แต่โชคชะตาก็พาให้เขารอดตายพร้อมได้รับการเปลี่ยนไตจากริเสะ แต่ต้องแลกด้วยการกลายเป็นครึ่งคนครึ่ง ‘กูล’ สิ่งมีชีวิตที่กินได้เฉพาะเนื้อมนุษย์เท่านั้น

และในขณะที่ฝืนความหิวของตัวเอง เขาต้องร่วมกับ โทกะ สาวเสริฟร้าน อันไทคุ ปกป้องกูลผู้บริสุทธิจาก เอม่อน และ มาโดะ จากหน่วยปราบกูลนาม CCG ที่มาพร้อม เควนเก้ อาวุธสังหารที่ได้มาจากอวัยวะกูลที่พวกเขาปลิดชีพ  แล้วสงครามครั้งนี้ใครจะเป็นผู้รอดชีวิต


เป็นผลงานมังงะของอาจารย์อิชิดะ ซุย เขียนลงในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ Weekly Young Jump ของสำนักพิมพ์ Shueisha ซึ่งฉบับมังงะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 14 เล่ม ต่อมาได้ถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะ ซึ่งก็ใช้เวลานานอยู่พอสมควรที่ก่อนจะถูกดัดแปลงมาเป็นอนิเมะได้

เพราะต้องใช้เวลาในการไตร่ตรองเนื้อเรื่องและการเรียบเรียงใหม่ให้สมบูรณ์แบบไม่แพ้เวอร์ชั่นต้นฉบับของมังงะ  เพราะมีแฟน ๆ พันธุ์แท้ที่คอยเฝ้าดูอนิเมะเรื่องนี้อยู่เป็นจำนวนมาก  ถ้าทำออกมาไม่ดีละก็รับรองได้ว่าจะได้รับเสียงก่นด่าเป็นแน่แท้

ทางผู้เขียนหลังจากได้รับชมมาแล้ว ก็นับว่าเวอชันอนิเมะถูกทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว  หากบางคนอาจกำลังหาอนิเมะดี ๆ ดูหนังสดสักเรื่องเอาไว้ดูแก้เบื่อ ทางผู้เขียนก็อยากจะแนะนำอนิเมะเรื่อง Tokyo Ghoul อีกสักเรื่องนะครับ

 

เนื้อเรื่อง

สังคมมนุษย์ในเมืองใหญ่ที่แสนจะวุ่นวายอย่างโตเกียว ยังมีอสูรกายในมุมมืดที่แอบแฝงตัวอยู่ปะปนกับมนุษย์โดยทั่วไป ภายนอกพวกมันอาจดูเหมือนมนุษย์ธรรมดา ๆ เท่านั้น ดูไม่แตกต่างจากมนุษย์คนอื่น แต่พวกมันนั้นแสนโหดร้ายดำรงชีวิตอยู่ด้วยการกินเนื้อมนุษย์เป็นอาหาร  พวกมันมองมนุษย์เป็นเพียงอาหารอันโอชะของมันเท่านั้น สิ่งมีชีวิตเหล่านี้นี้ถูกเรียกว่า "กูล"

ผีปอบโตเกียว (Tokyo ghoul) หรือเรียกว่า กูล พวกมันจะแฝงตัวปะปนอยู่กับมนุษย์และกินมนุษย์เป็นอาหารเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่รอด เรื่องเริ่มขึ้นจากพระเอกของเรา คาเนกิ เคน เด็กนักเรียนชายธรรมดาทั่วไปที่ไม่ชอบเข้าสังคม ค่อนข้างขี้อายได้ถูกกูลสาวล่อไปเพื่อที่จะจับกิน

คาเนกิ เคน เด็กหนุ่มมหาลัย ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองโตเกียวเขต 20 พ่อและแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว เขาจึงใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ดูเว็บสตรีมหนัง อยู่มาวันหนึ่ง เขาก็ได้บังเอิญไปพบกับหญิงสาวคนหนึ่งเธอชื่อ ริเสะ หญิงสาวคนที่นี้ เขาแอบชอบเธอมานานแล้ว จึงได้ขอเธอออกเดตด้วย แต่หารู้ไหมว่าเธอนั้นเป็นกูลและเธอเพียงแค่จะหลอกล่อเขาไปในที่ลับตาคน เพื่อที่จะจับเขากินเป็นอาหารของเธอก็เท่านั้นเอง

แต่กว่าเขาจะรู้สึกตัวก็ช้าไปเสียแล้ว เธอหลอกเขาไปในที่ลับตาคนทำให้เขาโดยเธอกัดที่ไหล่จนเป็นบาดแผลใหญ่ แต่โชคยังดีด้วยแรงที่เขายังมีเหลืออยู่บ้าง ทำให้เขายังสามารถหลบหนีเธอออกมาได้ ระหว่างที่เขากำลังหลบหนีเอาตัวรอดอยู่นั้น ด้วยความที่ไม่ทันระวังทำให้เขาและริเสะถูกรถพุ่งเข้าชนอย่างจัง

แล้วก็ได้สลบไปด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส เมื่อเขาฟื้นขึ้นหลังจากได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ เขาก็พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวเอง และค้นพบว่าตัวเองได้กลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งกูลไปแล้ว เพราะแพทย์ได้ทำการปลูกถ่ายอวัยวะของริสะให้กับเขา เพื่อทำการรักษาชีวิตของเขาเอาไว้  แต่มันก็ทำให้เขาไม่สามารถกินอาหารของมนุษย์ได้เลย พยายามฝืนกินเท่าไรก็อ๊วกออกมาเสียหมด

รีวิว Tokyo Ghoul

ระหว่างที่เขากำลังทุกข์ทรมานกับความหิวอยู่นั้น  อยู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นที่ส่งออกมายั่วยวนความหิวโหยของเขายิ่งหนัก และเมื่อเขาตามมันไปก็ทำให้ไปพบกับกูล อีกตนที่กำลังกินอาหารที่เป็นเนื้อมนุษย์สด ๆ อยู่ มันนำพาเขาไปพบกับภัยร้ายที่ไม่อาจคาดคิด มีกูลอีกตนที่ตามมา เพราะเจ้ากูลตนนี้ไปล่าเหยื่อในเขตของมัน

ทำให้มันโกรธและเข้ามาหมายจะทำร้าย  คาเนกิ เคน แต่ทันใดนั้นก็ปรากฏกายหญิงสาวคนหนึ่ง เธอคือ คิริชิมะ โทกะ เธอก็เป็นกูลเหมือนกันที่เป็นพนักงานของร้านกาแฟชื่อว่า อันเทย์คุ ซึ่งสมาชิกของร้านแห่งนี้ล้วนเป็นกูล ที่ไม่ทำร้ายมนุษย์เรียกว่าเป็นกูลฝ่ายดีก็ว่าได้ เธอได้เช้ามาช่วย คาเนกิ เคน เอาไว้และพาเขาไปพบกับผู้จัดการร้าน

ผู้จัดการร้านจึงได้ให้ความช่วยเหลือ และฝึกเขาให้มีชีวิตรอดต่อไปได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ คาเนกิ เคน เริ่มยอมรับในตัวตนของกูล  และเพื่อที่จะได้เข้าใจและเรียนรู้วิถีของกูล เขาจึงตัดสินใจมาทำงานเสริมที่ร้านกาแฟ อันเทย์คุ พร้อม ๆ กับการที่เขาต้องใช้ชีวิตอย่างเสแสร้ง และปิดบังความจริงเพื่อไม่ให้เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวและมนุษย์ทั่วไปได้รับรู้การเป็นกูลของเขา

โดยรวม

เป็นเรื่องที่สนุกมากดำเนินเรื่องได้น่าสนใจ ทุกฉากที่มีการต่อสู้ตื่นเต้นลุ้นได้ทุกตอน ได้เห็นอารมณ์ที่หลากหลายของตัวละคร การดิ้นรนเอาชีวิตรอด การตัดสินใจจากความกดดันต่าง ๆ สื่อออกมาได้ดี แถมยังมีเพลงเพราะมาก ๆ คือได้อารมณ์แบบสุด ๆ เข้ากับอนิเมะมาก ๆ หากคุณได้ดูรับรองว่าคุณจะไม่เสียเวลาไปเปล่าแน่นอน

สรุป

ด้วยเนื้อเรื่อง Tokyo Ghoul ที่มีความสนุกตื่นเต้นชวนให้คุณติดตามในทุก ๆนาที รวมถึงเสน่ห์และบุคลิกตัวละครที่มีนิสัย และเอกลักษณ์อย่างชัดเจน ทำให้อนิเมะเรื่องนี้มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย  ในช่วงแรกๆ ตอนต้นเรื่อง เนื้อเรื่องอาจจะดูค่อนข้างเครียดไปสักหน่อย

แต่เมื่อคุณรับชมต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มมีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครต่าง ๆ สังคมกูล การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ที่เนื้อเรื่องจะสะท้อนสังคมและให้แง่คิดเกี่ยวกับสังคมในโลกปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสังคมในรูปแบบไหนก็มีทั้งคนดีคนชั่วปะปนกันไปอยู่เสมอ

Assassination Classroom

ดูหนังฟรี

รีวิว Assassination Classroom - ห้องเรียนลอบสังหาร

วันนี้ผมก็มีการ์ตูนสนุก ๆ มาเขียนรีวิวให้ทุกคนอ่านเหมือนเดิมครับผม โดยเรื่องในวันนี้มีชื่อเรื่องว่า “Assassination Classroom” หรือมีชื่อไทยว่า “ห้องเรียนลอบสังหาร” นั่นเอง สำหรับผมเรื่องนี้มันมีพล็อตที่ค่อนข้างแปลกและไม่เหมือนใครจริง ๆ เชื่อว่าต้องมีหลายคนเลยแหละที่คุ้นหน้าตัวละครในเรื่องนี้ รีวิว Assassination Classroom

เรื่องย่อ

โลกได้เจอกับเหตุการณ์ที่ระทึกขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อวันนึงพระจันทร์ของโลกนั้นได้ถูกทำลายไปกว่า 70% และผู้ที่ทำลายพระจันทร์ก็คือสิ่งมีชีวิตลึกลับที่มีรูปร่างคล้ายกลับปลาหมึกตัวสีเหลือง โคโระ นั่นเอง มนุษย์ชาตินั้นไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กองทัพทหาร หรืออาวุธที่ไฮเทคที่สุดของโลกก็ไม่อาจจะฆ่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ได้

และเป้าหมายต่อไปของ โคโระ นั้นก็คือการทำลายโลกนั่นเอง แต่แล้ววันนึง โคโระ ก็ได้ยื่นข้อเสนอให้กับโลกโดยการที่เค้าจะขอเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้กับโรงเรียน มัธยมต้นคุนุกิงาโอกะ และหากเด็กนักเรียนในห้อง 3-E ฆ่าเค้าไม่ได้ก่อนจบการศึกษาโลกนี้จะต้องถูกทำลาย โดยผู้ที่สามารถฆ่า โมโระ ได้จะได้รับเงินถึงหมื่นล้านเยน และแล้วเรื่องราวของการแอบฆ่าอาจารย์ของนักเรียน 3-E ก็ได้เริ่มต้นขึ้น !!


Assassination Classroom หรือห้องเรียนลอบสังหาร เป็นอนิเมะที่มาจากมังงะชื่อเดียวกัน เรื่องย่อคร่าวๆ ว่าด้วยสัตว์ประหลาดรูปร่างหน้าตาคล้ายปลาหมึกที่ทำลายดวงจันทร์จนเหลือเพียงพระจันทร์เสี้ยว และภายในเดือนมีนาคมปีหน้าเขาวางแผนจะทำลายโลกให้สิ้นซาก

กระทรวงกลาโหมจึงทำข้อตกลงกับเขาให้เขามาเป็นครูประจำชั้นม.3 ห้อง E โรงเรียนคุนุกิงาโอกะ โดยมีข้อแม้ว่าเขาจะไม่ทำร้ายนักเรียน และนักเรียนในชั้นม.3 ห้อง E ก็ได้รับภารกิจจากกระทรวงเช่นกันให้สังหารครูประจำชั้นของตัวเอง ซึ่งพวกเขาจะได้รับเงินหนึ่งหมื่นล้านเยนหากฆ่าครูประจำชั้นสำเร็จ

ด้านเนื้อเรื่อง

พล็อตเรื่องแนวโรงเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน และมิตรภาพระหว่างเพื่อน เป็นพล็อตที่เป็นรสนิยมของอนิเมะญี่ปุ่น เพราะเรื่องแนว ๆนี้ เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว อ่านง่าย เด็กดูได้เข้าใจเพราะชีวิตเขาก็อยู่ในโรงเรียน ส่วนผู้ใหญ่ดูแล้วได้หวนคิดถึงช่วงเวลาที่เป็นเด็กไปโรงเรียน

ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจกับความรักของครู จริงๆ เราชอบดูแนวนี้ ดูซ้ำๆ กี่เรื่องก็ดูได้ไม่เบื่อหรอก แต่อนิเมะเรื่อง Assassination Classroom เป็นอนิเมะที่ฉีกกฎอนิเมะแนวโรงเรียนว่าทำไมจะนำเสนอแก่นความเป็นครูที่ดีด้วยความฮาไม่ได้

Assassination Classroom เริ่มต้นด้วยการทิ้งระเบิดเกี่ยวกับความลึกลับของอาจารย์โคโระ ชื่อที่เด็กๆ ตั้งให้คุณครูปลาหมึกเพราะเขาเป็นคนที่ฆ่าไม่ตาย อาจารย์โคโระมีความเร็วถึง 20 มัค และไม่ว่าใครจะวางกับดักฆ่าอาจารย์โคโระยังไง อาจารย์โคโระก็รู้ทันและป้องกันตัวเองได้ตลอด

เราดูยาวมาราธอนสองซีซั่น เพราะดูหนังฟรีทุกตอนสนุกน่าติดตาม ไม่มีเดดแอร์เลย ความเก่งกาจและเกรียนของอาจารย์โคโระทำให้เราสนุก และอนิเมะได้สอดแทรกข้อคิดต่างๆ ไว้มากมายนอกเหนือจากการเป็นครู เช่น ข้อคิดในการใช้ชีวิต การได้ดูอนิเมะเรื่องนี้เหมือนเอาตัวเองไปให้อาจารย์โคโระขัดเกลาให้เงาวับไม่มีผิด

ด้านตัวละคร

นอกจากนี้ Assassination Classroom ยังมีตัวละครที่น่าสนใจอีกหลายตัว และมีปมของตนเอง เช่น อาจารย์สอนภาษาอังกฤษสุดเซ็กซี่ที่เป็นนักฆ่า อาจารย์พละที่เป็นทหาร  นักเรียนที่ชอบบูลลี่คนอื่น และนักเรียนตัวเล็กที่ไม่มีพละกำลังแต่ช่างสังเกตจดจำ  ในเรื่องมีตัวละครใหม่ๆ เข้ามาให้ตื่นเต้นว่ามีพลังพิเศษอะไร จะฆ่าอาจารย์โคโระได้ไหม เพราะทุกคนที่เข้ามาล้วนอยากได้เงินค่าหัวจากรัฐบาลทั้งนั้น

อาจารย์โคโระ  สิ่งมีชีวิตลึกลับคล้ายปลาหมึกตัวสีเหลือง เป็นอาจารย์ประจำชั้นเรียนห้อง 3-E เป็นคนรั่ว ๆ รักสัตว์ เอาใจใส่นักเรียน ติงต๊อง แต่มีเป้าหมายคือการทำลายโลก และเค้าก็มีพลังมากพอที่จะทำลายตอนไหนก็ได้

นากิสะ ชิโอตะ – เด็กผู้ชายเรียบร้อย นิสัยดี แต่เพราะเรียนไม่ได้เรื่องทำให้เค้ามาอยู่ห้อง 3-E เค้ามักจะชอบศึกษาอาจารย์โคโระอยู่เสมอเพื่อหาจุดอ่อนและฆ่าอาจารย์ให้ได้

ไอรินะ เจลาวิค – อาจารย์สาวสุดสวยประจำโรเรียน แต่อีกนัยนึงเค้าคือนักฆ่ามืออาชีพที่ได้รับมอบหมายให้มาฆ่าอาจารย์โคโระ

ความรู้สักหลังดู

สำหรับผมที่เพิ่งได้มาสัมผัสกับการ์ตูนเรื่องก็ต้องบอกเลยว่าชอบครับ เพราะผมเป็นพวกที่ชอบการ์ตูนหนังออนไลน์พล็อตเรื่องแปลก ๆ ทำนองนี้อยู่แล้วสิ่งที่คุณจะรู้สึกหลังจากอ่านการ์ตูนเรื่องไปเรื่อย ๆ คือเรื่องราวของอาจารย์ที่สอนลูกศิษย์อย่างจริงใจ มันจะประมาณว่าถ้าเธออยากเก่งขึ้นเธอต้องลบจิตสังหารของตัวเอง ต้องเล่นงานทีเผลอ ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา

แต่ประเด็นคืออาจารย์กำลังสอนให้เด็กนักเรียนมาฆ่าตัวเองอยู่นั่นเอง แต่การฆ่า อาจารย์โมโระ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย เพราะสิ่งมีชีวิตตัวนี้แข็งแกร่งมาก สามารถทำลายพระจันทร์ได้อย่างง่ายได้ แถมมีความเร็วถึง 20มัค หรือประมาณความเร็วเสียง ทำให้ทุกตอนผมจะนั่งลุ้นว่าเด็ก ๆ จะงัดเอาวิธีไหนมาพยายามฆ่าอาจารย์ของตัวเอง

รีวิว Assassination Classroom

โดยรวมๆ

โดยรวมนี่ก็เป็นการ์ตูนที่ดีเรื่องนึงเลยสำหรับผม ลายเส้นก็สวยงามกำลังดี ไม่ได้ขี้เหร่อะไรเลย แต่บางช่วงถ้าอ่านในหนังสือการ์ตูนมันจะมีตัวหนังสือให้อ่านเยอะเกินความจำเป็นไปหน่อย จึงทำให้รู้สึกน่าเบื่อได้ ส่วนใหญ่จะไปสนุกอยู่กับวิธีลอบสังหารของนักเรียนมากกว่า มันจะรู้สึกเหมือนเรา(คนอ่าน)เองก็เป็นนักเรียนคนนึงที่กำลังอยากฆ่าอาจารย์คนนี้เหมือนกัน

เพราะเราจะได้ค่อย ๆ ซึมซับเรียนรู้พฤติกรรมของ อาจารย์โมโระ ไปเรื่อย ๆ หาจุดอ่อนจุดแข็งและหาจังหวังในการโจมตี ก็ขอสรุปเลยนะครับ เรื่อง “ห้องเรียนลอบสังหาร” นี้อ่านเลยไม่ต้องคิดเยอะ เนื้อเรื่องสนุก พล็อตดี ตอนนี้เรื่องนี้จบแล้วอ่านได้สบายใจไม่ต้องกลัวค้างคา

สรุป

Assassination Classroom เป็นอนิเมะที่บทดี ดัดแปลงจากมังงะได้เยี่ยม ใครที่ไม่เคยอ่านมังงะก็ดูได้รู้เรื่อง เพราะอนิเมะเล่าเรื่องสนุกไม่แพ้มังงะ ส่วนคนที่เคยอ่านมังงะจะมีความคาดหวังมากกว่า เราเป็นคนที่อ่านมังงะมาก่อนก็ยังดูสนุก เพราะกระบวนท่า การต่อสู้ที่เป็นภาพนิ่งในกระดาษพอมาเป็นภาพเคลื่อนไหวแล้วมันส์มากๆ

สิ่งที่อนิเมะทำได้ด้อยกว่ามังงะก็คือคำพูดที่คมคายและกินใจของอาจารย์โคโระที่มาไม่บ่อยเท่ามังงะ แต่ก็มีแทรกอยู่ในบทพูดของตัวละคร เข้าใจและให้อภัยได้เพราะธรรมชาติของอนิเมะเน้นแอคชั่นมากกว่าพูดอะไรยาวๆ เป็นบรรทัด

Black clover - แบล็คโคลเวอร์

ดูหนังฟรี

รีวิว Black clover - แบล็คโคลเวอร์

วันนี้ผมก็ได้ไปเจอกับการ์ตูนเรื่องนึงใน NETFLIX ซึ่งแว่บแรกที่เห็นก็รู้สึกว่ามันคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน พอลองนึกดี ๆ อ๋อ!! นี่มัน 1 ในตัวละครจากเกม JUMPFORCE ที่ผมไม่รู้จักนี่นา ซึ่งมารู้ทีหลังว่าการ์ตูนเรื่องนี้ชื่อว่า “Black clover” (ฮา) เพราะฉะนั้นนี่ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะลองรู้จักกับการ์ตูนเรื่องนี้ดู ซึ่งพอดูจบก็ต้องขอมาเขียนรีวิวความรู้สึกให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน รีวิว Black clover

เรื่องย่อ

อัสต้า และ ยูโน เด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งไว้กับโบสถ์ของอาณาจักรโคลเวอร์ โดยทั้ง 2 คนโตมาด้วยเป้าหมายเดียวกันนั่นก็คือการที่จะได้เป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ (ผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดของผู้ใช้เวท) แต่ทั้ง 2 กลับมีความต่างกันโดยสิ้นเชิงโดยที่ ยูโน สามารถใช้พลังเวทได้อย่างทรงพลัง ส่วน อัสต้า นั้นไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่เค้าก็ไม่หมดหวังหมั่นฝึกฝนร่างกายเป็นประจำ เพื่อที่อายุ 15 เค้าจะได้มีโอกาสรับ กรีมัวร์ คัมภีร์ที่จะดึงเอาศักยภาพของผู้ใช้เวทนั้น ๆ ออกมาได้

แต่พอถึงเวลาจริงเค้ากลับไม่ถูกรับเลือกโดยกรีมัวร์ ต่างจาก ยูโน ที่ได้กรีมัวร์ใบโครเวอร์ 4 แฉก ที่เป็นของอดีตจักรพรรดิเวทรุ่นก่อน แต่ทว่าเมื่อถึงคราวคับขันชีวิตของอัสต้ากำลังตกอยู่ในอันตรายจู่ ๆ ก็มี กรีมัวร์ใบโครเวอร์ 5 แฉก ปรากฏออกมาพร้อมกับดาบสีดำอันใหญ่เท่าคน ซึ่งโครเวอร์ใบที่ 5 นั้นหมายถึงปิศาจนั่นเอง!!! และแล้วเรื่องราวการผจญภัยเพื่อเป็นจักพรรดิเวทมนตร์ของ อัสต้า และ ยูโน ก็ได้เริ่มต้นขึ้น


นี้เป็นการ์ตูนที่ทำให้รู้สึกถึงแนวโชเน็น (เรื่องราวของเด็กผู้ชาย) อย่างแท้จริง ให้อารมณ์เหมือนเรื่องต่างๆ มารวมกันไม่ว่าจะเป็น พระเอกกับเพื่อนรักแต่ก็แข่งขันกันอย่างนารูโตะ ตัวพระเอกที่ติ๊งต๊องแต่ก็เก่งเอาเรื่องอย่างวันพีช กิลด์ที่มีแต่พวกพ้องที่ไม่เต็มเต็งอย่างแฟรี่ เทล การค่อยๆ พัฒนาฝีมือจนค่อยๆ เก่งขึ้นมาอย่างกั๊ซ เบล ซึ่งมันเป็นการดึงสเน่ห์และข้อดีต่างๆ ของโชเน็นออกมารวมกันจนออกมาสนุกและมันส์มากจริงๆ

พอดูการ์ตูนเรื่องนี้จบผมก็นึกย้อนกลับไปถามตัวเองว่าทำไมผมถึงชอบดูวันพีช นารูโตะ หรือดราก้อนบอล มันคือสูตรสำเร็จการ์ตูนแนว JUMP สมัยก่อน ที่จะให้คนดูได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละครเอกที่เป็นเด็ก คอยอยู่เป็นเพื่อนหมอนี่ คอยเอาใจช่วยให้ฝีมือมันเทพขึ้นสักที อยากเห็นสกิลใหม่ ๆ ของตัวเอก

ด้วยภาพและกราฟฟิกของตัวอนิเมะไม่ได้ทำออกมาดูยากมาก และกราฟฟิกเองก็ไม่ขี้เหร่ การอนิเมทดูหนังฟรีก็ดูลื่นไหลสบายตา เสียงพากย์ก็ทำออกมาได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ถือเป็นมาตรฐานของอนิเมะสมัยนี้อยู่แล้ว แค่ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ก็ถือว่าใช้ได้

ด้ายเนื้อเรื่อง

สิ่งที่เรื่องนี้เหมือนกับการ์ตูนโชเน็นเรื่องอื่นๆ ก็คือการเล่าถึงเพื่อนและพวกพ้อง ถึงแม้มันจะดูเกลื่อนแต่เรื่องนี้ก็ทำออกมาให้รู้สึกถึงคำว่า "พวกพ้อง" จริงๆ จนไม่รู้สึกน่าเบื่อเลย และเรื่องนี้ก็จะเน้นเรื่องของความพยายามและการดูถูกเหยียดหยามมากเป็นพิเศษ จนทำให้เรารู้สึกอยากจะเอาใจช่วยตัวพระเอกต่อสู้เพื่อลบคำสบประมาทต่างๆ นาๆ พวกนี้ไปให้ได้
.
การเดินเรื่องถือว่าเร็วใช้ได้ ปูเรื่องเพียงแค่น้อยนิดก็สามารถเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้แล้ว เข้าเรื่องได้ฉับไวซึ่งมันไม่เวิ่นเว้อมากไปจนน่ารำคาญแล้วการดำเนินเรื่องก็จะมีบรรยากาศคล้ายๆ แฟรี่ เทลกับวันพีช คือ ติ๊งต๊องสนุกสนานเฮฮาไปเรื่อย แต่พอถึงฉากต่อสู้หรือดราม่าก็จะซีเรียสขึ้นมาทันที มันจึงทำให้อ่านแล้วสนุกและเพลินมาก

ฉากต่อสู้

ในเรื่องของฉากต่อสู้มันส์มากมีการใช้เวทมนตร์ต่างๆ ที่หลากหลาย ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ ยิ่งมีตัวละครเยอะยิ่งมีเวทมนตร์ที่ทำให้เซอร์ไพร์สให้อึ้งและตื่นเต้นมากมาย แต่ในส่วนของพระเอกดูแถบจะไม่มีอะไรเลย แต่พอมีก็มีออกมาแบบง่ายๆ งงๆ มันจึงไม่ค่อยถูกใจในส่วนนี้สักเท่าไหร่

จุดที่ชอบ

พอดูการ์ตูนเรื่องนี้จบผมก็นึกย้อนกลับไปถามตัวเองว่าทำไมผมถึงชอบดูวันพีช นารูโตะ หรือดราก้อนบอล มันคือสูตรสำเร็จการ์ตูนแนว JUMP สมัยก่อน ที่จะให้คนดูได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละครเอกที่เป็นเด็ก คอยอยู่เป็นเพื่อนหมอนี่ คอยเอาใจช่วยให้ฝีมือมันเทพขึ้นสักที อยากเห็นสกิลใหม่ ๆ ของตัวเอก

ด้วยภาพและกราฟฟิกของตัวอนิเมะไม่ได้ทำออกมาดูยากมาก และกราฟฟิกเองก็ไม่ขี้เหร่ การอนิเมทก็ดูลื่นไหลสบายตา เสียงพากย์ก็ทำออกมาได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างก็ถือเป็นมาตรฐานของอนิเมะสมัยนี้อยู่แล้ว แค่ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ก็ถือว่าใช้ได้

รีวิว Black clover


ข้อเสีย

แต่ถึงอย่างนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็มีข้อเสียที่ไปติดอยู่ตรงการเล่าเรื่องที่เชื่องช้าจนทำเอาเราดูไปง่วงไปหลายต่อหลายตอน การต่อสู้หรือฉากแอ็กชันเองถึงจะทำกราฟฟิกออกมาได้สวย แต่ก็ไม่ค่อยสะใจหรือมันเท่าที่คิด ออกจะจำเจซะด้วยซ้ำ อารมณ์แบบตัวร้ายปล่อยพลังใส่พระเอกจนเสียท่า แล้วก็พูดจาเหยียดหยามพระเอก พระเอกของขึ้นควักดาบฟันจบ

ตัวร้ายในเรื่องนี้ก็ถือว่าขาดเสน่ห์อย่างแรง ดูจบแล้วทิ้งไว้สักอาทิตย์นึงคุณอาจจะลืมหน้าตามันไปเลยก็ได้ (ฮา) ตัวเนื้อเรื่องเองหนังถ่ายทอดสดก็เดาง่าย คือสกิลพระเอกในเรื่องนี้โกงมาก เวลาที่พระเอกเจอเรื่องที่คับขันกำลังแย่ก็จะต้องมีเหตุการณ์ให้ได้พลังใหม่ ไม่ก็ต้องมีพวกพ้องมาช่วยให้รอดพ้นตลอด ซึ่งจะอยู่ลูปนี้ไปสักพักใหญ่ ๆ เลย

เสียงพากย์เองก็แอบเป็นปัญหาอยู่เล็ก ๆ เสียงของ อัสต้า ซึ่งเป็นตัวละครที่ชอบแหกปาก บวกกับเสียงที่แหลมเวลาดูใส่หูฟังไปนาน ๆ เข้าอาจทำให้คุณรำคานหรือไม่ก็ปวดแก้วหูได้

สรุป

ผมคิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้มันไม่ค่อยเหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบเสพเนื้อเรื่องที่เข้มข้น มีหักมุมไปมา หรือฉากที่รุนแรงเพื่อความมันสะใจเล็ก ๆ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง มีศัตรูลูกกระจ๊อกอ่อน ๆ โผล่มาสู้กับพระเอกเพื่อที่พระเอกจะได้เติบโตและเก่งขึ้นก่อนจะไปตบลาสบอส

การ์ตูนเรื่องนี้ผมเชื่อเลยว่าหากดูตอนอยู่มัธยมต้นมันคงจะสนุกมากแน่ ๆ เพราะฉะนั้นหากมีลูกมีหลานการจะเปิดการ์ตูนเรื่องนี้ให้ดูก็เป็นความคิดที่เข้าท่ามาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่ได้เห็นตัวการ์ตูนแบกดาบใหญ่อันเท่าคนสู้กับศัตรูคงจะให้ความรู้สึกเท่มากน่าดู

One punch man - เทพบุตรหมัดเดียวจอด

ดูหนังออนไลน์

รีวิว One punch man - เทพบุตรหมัดเดียวจอด

วันนี้เราจะมาแนะนำอนิเมะที่สุดยอดของสุดยอดแห่งความสนุก ฉากต่อสู้แสนอลังการ ความตลกโปกฮาที่มาทุก 5 นาที การตบมุขกันของตัวละครคือ โบ๊ะบ๊ะมาก เป็นอนิเมะที่ครายเครียดได้ดีมากจริง ๆ การดำเนินของเนื้อเรื่องเป็นไปอย่างสอดคล้อง ไม่มีช่วงไหนเลยที่ทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย เพราะแต่ละตอน จะมีความสนุกจุดพีคอยู่ในตอนนั้น ๆ ตลอด มันทำให้คนดูอย่างเราได้ซึมซับเรื่องราวความสนุกได้เรื่อย ๆ จนไม่สามารถที่จะหยุดดูได้เลยจริง ๆ  รีวิว One punch man

เรื่องย่อ

ณ เมืองที่เต็มไปด้วยการรุกรานของสัตว์ประหลาด "ไซตามะ"อดีตพนักงานบริษัทธรรมดาแต่ตัวเขานั้นอยากที่จะเป็นฮีโร่ เขาจึงฝึกฝนร่างกายจนผมของเขาหายไปหมด(หัวล้าน) ถึงเขาจะไม่มีผมแล้วก็ตามแต่เขาก็กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด(ไม่มีใครสู้ได้) ซึ่งการที่เขากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น มันกลับทำให้ตัวเขาเองรู้สึกเบื่อไปด้วย เพราะเพียงเขาต่อยศัตรูแค่หมัดเดียวก็ชนะแล้ว


One Punch Man เป็นเรื่องราวของโลกที่เต็มไปด้วยสัวต์ประหลาด ซึ่งมี "สมาคมฮีโร่" องค์กรไม่หวังผลกำไรที่คอยกำจัดสัตว์ประหลาดและรักษาความสงบสุขของโลก

และในเมือง Z ที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดจนไม่มีมนุษย์อยู่เลย ที่นั่นคือที่อยู่ของ "ไซตามะ" ชายที่ทำหน้าที่ฮีโร่เป็นงานอดิเรก

งานฮีโร่ที่เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมสูง รายได้ดี ทุกคนต่างก็อยากทำอาชีพฮีโร่ แต่ไซตามะกลับทำเป็นงานอดิเรกเท่านั้น ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะเขาต่อยแค่หมัดเดียวสัตว์ประหลาดก็กลับบ้านเก่าทุกทีน่ะสิ!!

เรื่องราวของชายหนุ่มที่ไม่ว่าเจอสัตว์ประหลาดหน้าไหนก็ต่อยหมัดเดียวจอดจะเป็นอย่างไรติดตามได้ใน One Punch Man ทุกแผงหนังสือทั่วประเทศ

เนื้อเรื่อง

เนื้อเรื่องคร่าว ๆ ของอนิเมะมีจุดเริ่มต้นจาก โลกมนุษย์ที่มีสัตว์ประหลาดบุกขึ้นมาโจมตีบนโลกตลอดเวลา จึงทำให้โลกได้ตั้งสมาคมฮีโร่เพื่อเอาไว้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเหล่านั้น ซึ่งในส่วนพระเอกของเรามีชื่อว่า ไซตามะ ลักษณะเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่ใช้วิธีการฝึกฝนตนเองจนข้ามขีดจำกัด

ทำให้มีพลังที่แข็งแกร่งมาก แบบมาก ๆ โดยใช้พลังแค่หมัดเดียวก็ฆ่าสัตว์ประหลาดตายได้ ( อยากบอกว่า สเกลพลังไซตามะคือ เว่อร์มาก เวอร์จนงง 555 ) ซึ่งพระเอกเราเนี่ย ไม่ได้อยู่ในสมาคมฮีโร่อะไรหรอกนะ แค่เป็นคนที่มีพลัง เวลาบ้านเมืองโดนสัตว์ประหลาดบุก ก็จะออกไปจัดการพวกสัตว์ประหลาดเหล่านั้น

ซึ่งเหตุผลที่ทำไปก็ไม่มีอะไรมาก แค่พระเอกของเรามันว่าง ไม่มีอะไรทำ เลยออกไปไล่ฆ่าสัตว์ประหลาดเล่น ๆ 55555 เหตุผลง่าย ๆ แค่นี้แหละ เวลาที่ใคร ๆ ถาม หรือสัตว์ประหลาดถามว่า " นายเป็นใครกันแน่ " ไซตามะมักจะตอบเสมอว่า " ฉันแค่มีงานอดิเรกเป็นฮีโร่หนะ "

พล็อตเรื่องน่าติดตาม

หลังจากรู้เรื่องย่อหลายคนอาจจะสงสัยว่า พล็อตเรื่องหลักดูหนังออนไลน์คือพระเอกต่อยสัตว์ประหลาดหมัดเดียวจอดมันจะสนุกตรงไหน หรือจะมีอะไรใหม่ให้ติดตามในเมื่อเจอใครก็หมัดเดียวจบ แต่ความสนุกของ One Punch Man มีอีกมากมาย

มันน่าติดตามตรงปมต่างๆของตัวละครอื่นๆ รวมถึงลุ้นให้พระเอกมันเจอคู่ต่อสู้เก่งๆด้วย และอีกอย่างคือเรื่องนี้ไซตามะให้แง่คิดเราเยอะมาก ผมคงพูดได้ไม่หมดแต่ยกตัวอย่างมาง่ายๆว่า การทำดีเนี่ยเราทำเพื่อความสุขใจของเรา หรือการที่ให้เราปล่อยวางจากขี้ปากชาวบ้าน

หรือแม้แต่การให้โอกาสคนถึงแม้ตัวไซตามะจะเก่งมากๆ ต่อยทีเดียวตายหมด ก็ใช่ว่าจะฆ่าคนไปทั่วนะ เขาฆ่าแต่สัตว์ประหลาดที่โจมตีโลก ขนาดสัตว์ประหลาดอ่อนๆที่ไม่มีทางสู้ไซตามะก็ปล่อยไปนะหรือมนุษย์ที่คิดไม่ดีกับพี่แก พี่แกก็ไม่เคยใช้พลังอัดเต็มๆเลย ทำแค่พอสั่งสอน แล้วตรงนี้ให้แง่คิดไรละ การที่เราเป็นผู้แข็งแกร่งกว่า ไม่ใช่ว่าเราจะมีอภิสิทธิ์ไปรังแกใครก็ได้ หรือการเป็นผู้ที่เหนือกว่าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปยกตนข่มท่านเลย

จริงๆมันยังมีอีกเยอะนะ ลองดูความน่าสนใจมันอยู่ที่เนื้อเรื่องและการดำเนินชีวิตของตัวละคร ส่วนแอคชั่นต่อสู้นั้นเป็นกระสัยให้แฟนๆตื่นเต้นเฉยๆ ก็ถือว่าเป็นอนิเมะน้ำดีเรื่องหนึ่งเลยน่าดูมากๆ เอ้อเรื่องนี้มีมังงะด้วยนะ และก็มีอนิเมะด้วยตอนที่ผมเขียนรีวิวเนี่ยก็เหลือแค่รอตอนสุดท้ายฉายก็จบซีซั่นแรกละ

โดยรวม

1. ความหลากหลายของตัวละคร One Punch Man คือการ์ตูนที่มีตัวละครเยอะมากทั้งฝั่งฮีโร่และฝั่งสัตว์ประหลาด ถ้าใครชอบเวลาเห็นฮีโร่โชว์พลังล่ะก็ เรื่องนี้ตอบโจทย์สุด ๆ

ด้วยความที่พระเอกของเราก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าต่อยหมัดเดียวจบ ความหลากหลายของฮีโร่และสัตว์ประหลาดก็มาช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ทดแทนในส่วนของไซตามะได้

2. สัตว์ประหลาดที่ออกมาเรื่อย ๆ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย สุดท้ายแล้วจุดจบของมันจะเป็นแบบไหน สัตว์ประหลาดในเรื่องช่วงแรกหลัก ๆ จะเกิดมา 2 แบบคือ "ภัยธรรมชาติกลายเป็นสัตว์ประหลาด" และ "การกลายพันธุ์"

ซึ่งสองแบบนี้ทิ้งประเด็นไว้ว่าโลกนี้จะมีสัตว์ประหลาดและฮีโร่ก็ต้องคอยกำจัดไปเรื่อย ๆ หรือว่าจะมีจุดหนึ่งของเนื้อเรื่องที่เฉลยว่าต้นตอของสัตว์ประหลาดมาจากไหน และจบด้วยกำจัดสัตว์ประหลาดจนโลกสงบสุข ก็ต้องติดตามกันต่อไป

3. ฮีโร่ที่ยังไม่เปิดเผยตัวตนในสมาคมฮีโร่ ตัวละครไหนยิ่งมาช้ายิ่งต้องโคตรเก่ง ดีไม่ดีอาจจะมีตัวละครที่เก่งกว่าไซตามะอยู่ในสมาคมฮีโร่ก็เป็นได้

ตอนนี้สเกลพลังของ One Punch Man จุดสูงสุดอยู่ที่ไซตามะ หากมีใครที่เก่งกว่าไซตามะโผล่มาเราคงจะได้เห็น "พระเอกสู้สุดชีวิต" ครั้งแรกในการ์ตูนเรื่องนี้ (ฮา)

4. ข้อนี้ทีเด็ดที่หลายคนเฝ้าคอย จากข้อ 1 เรื่องความแปลกใหม่ ไซตามะเองก็ยังมีความลับรอให้เปิดเผยเช่นกัน นั่นคือ "พลังที่แท้จริงของไซตามะ" นั่นเอง ซึ่งโปรแกรมหนังในเรื่องไซตามะจะมีชุดท่าไม้ตายคือ "xxx เวอร์ชันเอาจริง" อยู่ (เช่น หมัดตรงเวอร์ชันเอาจริง) บอกได้คำเดียวว่าคำว่าโอเวอร์ยังน้อยไป

รีวิว One punch man

นอกจาก 4 ข้อข้างบนแล้วยังมีอีกหลายอย่างที่ทำให้เรื่องนี้กุมใจนักอ่านเอาไว้ได้ ความเก่งของ อ.One คือการขยายสเกลของเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง จากช่วงแรกที่เป็นการ์ตูนแก๊กจบในตอนหรือสองตอน หลัง ๆ มานี้ขยายจักรวาลฮีโร่ x สัตว์ประหลาดออกไปจนกลายเป็นสงครามไปแล้ว

สรุป

เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ผมชอบกลับมาดูซ้ำมาก เพราะเรื่องนี้นั้นจะไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกตลกและมันส์เพียงแค่นี้ แต่จะทำให้คุณได้ข้อคิดจากการที่คุณดูอีกด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกประทับใจในอนิเมะเรื่องนี้มาก

Fire Force - หน่วยผจญคนไฟลุก

ดูหนังออนไลน์

รีวิว Fire Force - หน่วยผจญคนไฟลุก

หน่วยผจญคนไฟลุก, Fire Force หรือ Enen no Shouboutai อนิเมะแนวแอ็คชั่น พลังพิเศษ จากมังงะของ โอคุโบะ อัทสึชิ ผู้เขียน Soul Eater อนิเมะเป็นผลงานของสตูดิโอ David Production ผู้เคยสร้างผลงานเด่นหลายเรื่อง อย่างซีรีส์ Jojo, Hataraku Saibou (เซลล์ขยันพันธุ์เดือด), Inu × Boku SS, Ensemble Stars! และอื่นๆ รีวิว Fire Force

เรื่องย่อ

มนุษยชาติกำลังหวาดกลัว… จู่ๆ คนปกติธรรมดาก็ไฟลุกเป็นอสูรไฟ คนไฟลุกทำลายทุกสิ่งจนหมดสิ้นเพราะ “ปรากฏการณ์ร่างติดไฟ”นี้ หน่วยดับเพลิงพิเศษผู้เผชิญหน้ากับความกลัวไฟ จึงมีหน้าที่ไขปริศนาของปรากฏการณ์และช่วยเหลือมวลมนุษย์ “ชินระ” เด็กหนุ่มเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ที่ถูกเรียกว่า “ปีศาจ” หมายมั่นจะเป็น”ฮีโร่” ทุ่มเทตัวเองในแต่ละวันต่อสู้กับ “คนไฟลุก” ด้วยกันกับเหล่าพวกพ้อง! การต่อสู้สุดมหัศจรรย์กับไฟที่ลุกโชติช่วงได้เริ่มขึ้นแล้ว!


มังงะชื่อดังส่วนใหญ่เลือกสตูดิโอใหญ่ที่ผลิตงานได้นานๆ อย่าง One Piece, Black Clover, Boruto แต่การที่ทำงานให้เสร็จ คุณภาพงานจึงลดลงไปด้วย การที่จะผลิตอนิเมะคุณภาพสักเรื่องจึงต้องแบ่งทีมงานมาช่วยไม่น้อย อย่าง เบื้องหลังของ Dr.Stone ที่กว่าจะเสร็จสักขั้นตอนกินเวลาน่าดู เลยไม่แปลกที่เราไม่ค่อยได้เห็นอนิเมะฉากต่อสู้ดีๆ มากนัก

ปัจจุบัน เรื่องยาวก็ไปแก้ปัญหา ทุ่มเทกับฉากสำคัญของเรื่องเป็นช่วงๆ อย่าง Black Clover ที่เผางานเกือบทุกตอน แต่ฉากสู้สำคัญๆ แฟนกระทืบไลค์ให้อย่างท่วมท้น ถ้าจะให้ปรับทุกฉากคงเป็นไปไม่ได้ คงต้องรอรีเมคในอีกสิบปีข้างหน้า

พูดคุณงานน้ำดีแนวแอ็คชั่น ถ้าย้อนไปในปี 2019 อนิเมะจากมังงะ แบบที่คุณภาพดี คงต้องยกให้ ดาบพิฆาตอสูร แต่ ufotable ถึงจะเป็นบริษัทใหญ่ แต่ก็ไม่ค่อยผลิตงานได้ต่อเนื่องนัก ทำให้มีอุปสรรคในการทำภาคต่อที่กินเวลานานกว่าสตูดิโออื่นๆ เช่นเดียวกับ ผ่าพิภพไททัน ของ Wit Studio ที่กินเวลาไม่น้อยกว่าจะผลิตเสร็จสักภาค

สำหรับ David Production ถือเป็นสตูดิโอหนึ่งที่ดูหนังออนไลน์คุณภาพงานดีมานาน เพียงแต่ไม่ค่อยได้งานเป็นอนิเมะใหม่ในกระแสเท่านั้น ที่เด่นหน่อย Jojo แต่ก็ไม่ได้เป็นแนวแอ็คชั่นเต็มที่ (แม้จะมีแลกหมัดในภาค 1-2 แต่ก็ไม่ได้บู๊ขนาดนั้น) จนได้มาทำเรื่อง Fire Force แต่ถ้าย้อนจริงๆ ค่ายนี้ก็เคยทำอนิเมะแนวแอ็คชั่นมาก่อน ตั้งแต่ปี 2011 อย่าง Ben-To ที่ดัดแปลงจากนิยายไลท์โนเวล และถือว่าทำออกมาได้ดีในยุคนั้น

ด้านเนื้อเรื่อง

เนื้อหาจะเป็นแนวแอ็คชั่นโชเน็นแฟนตาซีที่ใช้พลังพิเศษปราบปีศาจที่เรียกกันว่า “คนไฟลุก” เกิดจาก”ปรากฏการณ์ร่างติดไฟ” ไม่ใช่แค่เพียงต่อสู้ไปเรื่อยๆ แต่มีเรื่องของศาสนาความเชื่อมาเกี่ยวข้องและยังต้องช่วยกันสืบ ช่วยกันแก้ปริศนาต่างๆ โดยผู้ที่ดำเนินการทั้งหมดคือ”หน่วยดับเพลิงพิเศษ”ที่แบ่งกันไปตามเขตแต่ละเขต สำหรับตัวละครเอกหรือ   “ชินระ”เองก็มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่น่าหดหู่ซึ่งมีฉากที่คอยเล่าให้เห็นอยู่บ่อยๆ ในเรื่องเหมือนกัน โดยตัวเอกจะค่อยๆ คลายปมปริศนาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปจนถึงต้นตอได้หรือไม่ คือการดำเนินเรื่องหลักๆ คร่าวๆ

เกี่ยวกับตัวละคร ความสามารถต่างๆ

สำหรับหน่วยดับเพลิงพิเศษที่ออกทำงานเมื่อมี ”ปรากฏการณ์ร่างติดไฟ”  นั้น คนในหน่วยจะแบ่งหน้าที่กันตามพลังความสามารถกันไป เช่นควบคุมไฟได้เอง ใช้อุปกรณ์ และสวดส่ง มีความหลากหลายและสามารถมาประกอบกับฉากแอ็คชั่นที่ต่อเนื่องได้อย่างลงตัว ชุดของหน่วยก็ออกแบบมาได้เท่เลยทีเดียว

สำหรับหน่วยดับเพลิงพิเศษที่ 8 ที่เป็นตัวละครหลัก ก็มีตัวละครคาแรคเตอร์ที่แยกง่ายพอสมควร เช่น ชินระพระเอกของเรามักจะเผลอยิ้มประหลาดๆ  ตัวละครอื่นๆ เช่นกันอย่าง ทามากิ โคทัตสึ ที่มักจะซุ่มซ่ามจนออกแนวโดนลวนลามฟรีบ่อยๆ (สำหรับภาพของทามากิ ยังไงก็ลองหามาอ่านดูละกันเนอะ) ซึ่งคาแรคเตอร์ของแถมพวกนี้จะโยงไปกับมุขสุดฮาได้อีกด้วย ในด้านตัวละครปริศนาก็โผล่ออกมาได้ดูน่าเกรงขาม กดดัน บรรยากาศ

รีวิว Fire Force


รีวิวจากนักเขียน

สำหรับความคิดเห็นต่ออนิเมะเรื่องนี้นั้น อนิเมะเรื่องนี้ทำมาจากมังงะโดยผู้ที่แต่งมังงะเรื่องนี้นั้น ก็คือผู้เขียน Soul Eater ยมทูตแสบสายพันธุ์ซ่า หรือ คุณ อัตสึชิ โอกูโบะ นั่นเอง ดังนั้นคุณภาพทางด้านเนื้อเรื่องนั้นเว็บดูหนังขอบอกเลยว่าทำออกมาดีแน่นอนไร้ซึ่งข้อกังวล ส่วนทางด้านเพลง Opening และ Ending ของอนิเมะนั้นถือว่าเพราะมาก ส่วนทางด้านภาพนั้นฉากต่อสู้ถือว่ามันมาก นัวกันตุบตับเละเทะเลย

แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าฉากปกตินั้นภาพจะออกมาไม่ดีเพราะสตูดิโอนี้มีผลงานยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็น โจโจ้:ล่าข้ามศตวรรษตั้งแต่ภาคสามถึงภาคห้า เซลล์ขยันพันธุ์เดือด มอนเตอร์ฮันเตอร์สตอรี่:ไรด์ออน และผลงานอนิเมะอื่นๆอีกมากมายซึ่งออกมาดีทั้งนั้น ดังนั้นถ้าท่านผู้อ่านกำลังคิดอยู่ว่าจะดูอนิเมะเรื่อง Enen no Shouboutai หน่วยผจญคนไฟลุก ดีหรือไม่

ทางผมซึ่งผู้เขียนนั้นก็คงต้องขอบอกเลยว่าถ้าคุณกำลังมองหาอนิเมะที่แนวคล้าย Soul Eater ภาพสวย เนื้อเรื่องดี ดูเลยครับ แนะนำอย่างมาก คุ้มค่าเวลาที่เสียไปในการดูอนิเมะเรื่องนี้อย่างแน่นอนครับ สามารถหารับชมได้แบบทันท่วงทีที่ Netflix

สรุป

สรุปแล้ว ”หน่วยผจญคนไฟลุก”ก็อาจมีฐานแฟนๆ ตั้งแต่ Soul Eater ผลงานเก่าของอาจารย์อยู่ แต่ก็เป็นมังงะแนวแอ็คชั่นที่มีความโดดเด่นอีกเรื่องโดยเฉพาะการนำหน่วยดับเพลิงที่เป็นฮีโร่ของคนอยู่แล้วมาเป็นฮีโร่สุดเท่อีกขั้นหนึ่ง ที่ช่วยปกป้องผู้คนจากอันตราย ประกอบกับเบื้องลึกเบื้องหลังของเหตุการณ์ต่างๆ แต่เฉพาะเล่ม 1 ยังคงเป็นส่วนปูเนื้อเรื่อง ที่ต้องอาศัยการอ่านต่อไปอีกยาวๆ จนจะทำให้ผู้อ่านเริ่มเข้าถึงเนื้อหาเข้าไปลึกๆ อีกเรื่อยๆ

The Naked Director - โป๊ บ้า กล้า รวย

ดูหนังสด

รีวิว The Naked Director - โป๊ บ้า กล้า รวย

นี่คือหนังย้อนยุคไปยังสมัยแรกเริ่มที่มีสื่อความบันเทิง อย่างเทปคาสเซ็ต หนังสือห่อถุงพลาสติค ที่เรียกว่าเป็นการตลาดสุดเจ๋งในยุคนั้น ก่อนจะถึงการมาของเครื่องเล่นวิดีโอเทป แต่อย่าพึ่งคิดว่าหนังจะดูเก่าๆ เชยๆ นะครับ เพราะแค่แรกเริ่มเปิดเพลงไตเติลมา รับรองความคิดที่ว่าจะหายวับไปทันที รีวิว The Naked Director

เรื่องย่อ

ช่วงเวลาที่สื่อปลุกใจเสือป่ากำลังเบ่งบานและเป็นที่ถกเถียงกันในเชิงกฎหมาย โทรุ มุรานิชิ (ทาคายูกิ ยามาดะ)อดีตเซลล์แมนขายสารานุกรมภาษาอังกฤษได้พลิกโฉมหน้าสื่อสยิวของญี่ปุ่นตั้งแต่หนังสือโป๊ไปยันหนังโป๊ ท่ามกลางอุปสรรคสำคัญคือทัศนคติทางเพศของสังคม กฎหมายและอิทธิพลมืด โชคชะตาได้พาเขาไปพบกับผู้ร่วมอุดมการณ์มากมายโดยหนึ่งในนั้นได้แก่ เมกูมิ (มิซาโตะ มอริตะ) เด็กสาวที่หนีความอึดอัดของครอบครัวสู่นางเอกเอวีคู่บุญ


ต้องยอมรับว่าแว่บแรกที่เห็นตัวอย่างซีรีส์เรื่องนี้ก็กระตุ้นต่อมความสนใจของคนดูได้อย่างชะงัดนัก เพราะต่อให้เราจะเติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูแบบไหน แต่เชื่อว่าซักครั้งหนึ่งในชีวิตย่อมต้องเคยมีประสบการณ์แอบดูหนังโป๊ที่ฝั่งอนุรักษ์นิยมมักตีตราคำว่าสื่อลามกและอยากให้เราหลีกเลี่ยง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนังโป๊มีบทบาทในการเรียนรู้เรื่องเพศของทุกคน

เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เราค้นพบความใคร่และรสนิยมทางเพศในตัวเอง และสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนอย่างที่มาของหนังเอวีญี่ปุ่นที่หนุ่มๆชอบดูนั้นกลับเคลือบแฝงด้วยที่มาของธุรกิจทั้งด้านมืดด้านสว่างและประวัติศาสตร์การต่อสู้กับอคติทางเพศในสังคมญี่ปุ่นอย่างดุเดือด ซึ่งในซีรีส์ The Naked Director ได้บอกเล่าที่มาที่ไปและเรื่องราวที่เราไม่เคยรู้ได้อย่างน่าสนใจทั้ง 8 ตอนเลยล่ะ

The Naked Director โป๊ บ้า กล้า รวย หนังซีรีส์ญี่ปุ่น Original Netflix ที่อ้างอิงจากเรื่องจริงของผู้กำกับดูหนังสด AV รุ่นบุกเบิก “โทรุ มุรานิชิ” ที่กล้าท้าทายกฎหมายและค่านิยมของสังคมญี่ปุ่นในสมัยที่พึ่งเริ่มมีธุรกิจหนังโป๊ในยุคแรก ซึ่งที่เราเห็นวงการหนัง AV ในญี่ปุ่นรุ่งเรืองในปัจจุบัน นั่นก็มาจากการบุกเบิกแนวทางใหม่ๆ ของผู้กำกับคนนี้นี่แหละครับ นี่ไม่ใช่แค่หนังเบื้องหลังวงการหนังโป๊ที่ละเอียดลึกซึ้ง (ถึงขนกันเลย)

แต่ยังเป็นหนังที่พาคนดูไปพบเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ร่วมสมัยหลายอย่าง เช่น เหตุการณ์ในยุคสมัยโชวะก่อนพระจักรพรรดิญี่ปุ่นสิ้นพระชนม์ รวมไปถึงสงครามเครื่องเล่นวิดีโอเทป Betamax vs. Video Home System (VHS) วงการยากูซ่า การเรียกร้องสิทธิสตรี และไปไกลถึงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกากันขนาดนั้นเลย ซึ่งทุกเรื่องเกี่ยวพันกับวงการหนัง AV ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ด้านเนื้อเรื่อง

นี่คือหนังย้อนยุคไปยังสมัยแรกเริ่มที่มีสื่อความบันเทิง อย่างเทปคาสเซ็ต หนังสือห่อถุงพลาสติค ที่เรียกว่าเป็นการตลาดสุดเจ๋งในยุคนั้น ก่อนจะถึงการมาของเครื่องเล่นวิดีโอเทป แต่อย่าพึ่งคิดว่าหนังจะดูเก่าๆ เชยๆ นะครับ เพราะแค่แรกเริ่มเปิดเพลงไตเติลมา รับรองความคิดที่ว่าจะหายวับไปทันที เพราะนี่คือหนังที่สร้างออกมาได้เก๋ไก๋มากทุกองค์ประกอบ

หนังมีสีสันทุกช่วงเวลา แทบไม่มีจังหวะหาวน่าเบื่อหรือยืดเยื้อแบบซีรีส์ตะวันตกเลยสักช่วง บทหนังผูกเรื่องราวของวงการ AV เข้ากับประเด็นต่างๆ ในสังคมได้อย่างน่าสนใจ ทำให้เราเห็นการวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ไม่ใช่แค่มุมของหนังโป๊ แต่ทำให้เห็นว่านี่เป็นเรื่องของเสรีภาพทางความคิด และการเปิดเผยตัวตนของคนที่เชื่อว่า เรื่องธรรมชาติของมนุษย์ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ซึ่งตัวเอกผู้กำกับ “โทรุ มุรานิชิ” ผู้ที่เคยเป็นแค่พนักงานขายดิคชันนารีอังกฤษตามบ้าน จากเซลล์ต๋อกต๋อยกลับกลายมาเป็นนักการตลาดและนักขายชั้นยอดได้กับทุกเรื่อง

แค่เขาเลือกเส้นทางขาย “ความใคร่ของมนุษย์” ที่ดูเป็นเรื่องปกปิดน่าอาย แต่เขากลับนำมันขึ้นมาเปิดเผย ตรงไปตรงมากับความต้องการของมนุษย์ผู้ชายทุกคนที่อยากมี อยากดู อยากฟังในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งสมัยนั้นในวงการยังพึ่งเริ่มจากการอัดเสียงเสียวลงเทปคาสเซ็ตขาย ซึ่งตัวมุรานิชิก็ไม่ได้ขายแบบธรรมดา แต่เขาแปะป้ายขายเรื่องให้โลดโผนไปกว่าที่เป็นจริง

เป็นพรสวรรค์ของมุรานิชิที่มีลูกบ้าเกินคนธรรมดามาก นั่นช่วยทำให้งานขายความใคร่+จินตนาการของเขาสำเร็จตั้งแต่แรกเริ่มเทปเสียว จวบจนมาถึงวงการหนังสือโป๊ที่ต้องห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติค พร้อมกับมีโมเสกเซ็นเซอร์ปิดอวัยวะเพศไว้ตามกฎหมาย ขนาดที่ต้องวัดกันเป็นมิลลิเมตรว่ามีอะไรแพลมๆ ออกมาบ้างไหม ซึ่งมุรานิชิก็หาทางออกซิกแซกกฎหมาย ยกระดับวงการหนังสือโป๊ให้กลายเป็นแฟรนไชส์ทำรายได้ให้เขาอย่างงดงาม

แต่ใช่ว่าเส้นทางของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ในวงการก็มีเจ้าถิ่น มีนายทุนเงินหนาอย่าง “โพไซดอนโปรดักชั่น” ที่เติบโตมาในยุคแรกๆ พร้อมกัน และใช้นายตำรวจกังฉินมาขัดแข้งขัดขาในรูปแบบที่หลับตาข้างหนึ่งให้โปเซดอน แต่เตะตัดขาเล่นงานบริษัทของมุรานิชิด้วยวิธีทางกฎหมายทุกทาง ซึ่งในยุคนั้นกฎหมายเกี่ยวกับการเซนเซอร์ด้วยโมเสกเป็นอะไรที่เข้มงวดมากๆ การเปิดเผยให้เห็นอวัยวะเพศผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง นั่นทำให้ลูกบ้าของมุรานิชิที่ต้องเล่นจริง เปิดจริง เสียบจริง เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายเต็มๆ แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่าเขาอยากผิดกฎหมาย แต่ด้วยความเชื่อในเรื่องการเปิดเผยทางเพศของเขามันไม่สอดคล้องกับสังคมญี่ปุ่นในยุคนั้น

ซึ่งต่อมาภายหลังเราก็ได้รู้แล้วว่าสังคมญี่ปุ่นเปิดเผยก้าวล้ำในเรื่องนี้แค่ไหน ก็ต้องนับว่าได้เขาคนนี้แหละที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเสี่ยงคุกตะราง ซึ่งไม่ใช่แค่กำกับ แต่ลงทุนเล่นเองถ่ายเอง เปิดเผยตัวตนจนถึงขนตูด (ในเรื่องแกบอกแบบนี้จริงๆ) จนทำให้สังคมญี่ปุ่นเปิดกว้างยอมรับในเรื่องเหล่านี้ได้ในที่สุด

The Naked Directorไม่ใช่เรื่องราวของผู้กำกับมุรานิชิเพียงคนเดียว แต่การที่ญี่ปุ่นเปิดเผยในเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจากพลังเรียกร้องทางสังคมของ “คาโอรุ คุโรกิ” นางเอก AV คนแรกที่โด่งดังจากการไว้ “ขนรักแร้” อย่าพึ่งงงว่าขนรักแร้มาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เพราะมันเกี่ยวเต็มๆ และเกี่ยวอย่างไม่น่าเชื่อกับการปฏิวัติภาพลักษณ์ของนักแสดง AV สมัยก่อนต้องแอบซ่อนตัวตนไม่เปิดเผย ไม่มีการโชว์ตัวเดินสายแจกลายเซ็นต์อะไรแบบปัจจุบัน

รีวิว The Naked Director

ซึ่งคุโรกิที่มาจากบ้านคุณหนูเรียบร้อย เคร่งจารีตประเพณี กลับกลายเป็นเด็กเก็บกดทางเพศที่โตมาจนต้องมาระเบิดความหิว SEX ผ่านหนังของมุรานิชิที่บ้าพอกัน จนกลายมาคู่ขวัญในวงการทั้งผู้กำกับและนักแสดง ทำเอาวงการหนังโป๊ปลอม (มีเทปปิดอวัยวะเพศ) ต้องยอมเปิดจริงเล่นจริงตามกันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะผิดกฎหมายแต่ก็จ่ายหนักให้ตำรวจแลกกันไป หรืออีกทางก็คือลงใต้ดินผ่านยากูซ่า ซึ่งหนังก็พาไปให้เห็นโลกใต้ดินของวงการหนังโป๊อีกทาง ที่ไม่แคร์ว่าจะทำลายใครก็ได้ ขอแค่ให้ได้เงินมาเป็นพอ

ด้านการดำเนินเรื่อง

นี่เป็นหนังที่เดินเรื่องได้อย่างสนุกทุกจังหวะ การแสดงถึงลูกถึงขน เร่งเร้าเรื่องเดินไปข้างหน้า แทบไม่มีจังหวะอืดยืิดยาดให้เห็นเลย ทุกย่างก้าวของเรื่องจะพาผู้ชมไปพบกับเรื่องราวและมุมมองใหม่ๆ ที่แม้แต่ในยุคนี้ก็ต้องยอมซูฮกกับไอเดียบรรเจิดของผู้กำกับในเรื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่การขายเนื้อหนังมังสาแล้วจะไปรอดได้ เรายังได้เห็นเรื่องราวกลยุทธ์การตลาดที่แพรวพราวหลายอย่างในเรื่องอีกด้วย หนังเดินเรื่องด้วยกลเม็ดทีเด็ดบ้าๆ แบบเดาไม่ออก เหมือนกับที่ลูกทีมของมุรานิชิยอมทำงานกับเขา ก็เพราะความบ้าเกินจนเดาไม่ออกทำให้ทำเงินได้นี่แหละ สมกับชื่อเรื่อง โป๊ บ้า กล้า รวย เพราะนี่เป็นพรสวรรค์ทางธุรกิจในระดับสุดยอดเกินคนปกติจริงๆ

แต่หนังก็ไม่ได้มีแค่ด้านรุ่งเรืองของเขา หนังยังพาไปยังจุดต่ำสุดของเขาด้วยเช่นกัน ซึ่งก็กลายมาเป็นประเด็นฉาวข้ามโลกไปถึงอเมริกา หรือแม้แต่การเล่มสลายของอาณาจักรผู้จัดจำหน่ายหนังโป๊จากกรณีพระจักรพรรดิญี่ปุ่นก่อนสิ้นพระชนม์ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกี่ยวกันได้ แต่ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นเป็นสัจธรรมที่ว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรือทำธุรกิจได้รุ่งเรืองตลอดไป หนังเก็บรายละเอียดเรื่องราวของยุคสมัยโชวะถึงเฮเซ (ยุค 70s – 80s) มาร้อยเรียงกับประวัติศาสตร์หนัง AV ได้อย่างแนบเนียน สนุกสนาน เหลือเชื่อว่าจะไปกันได้ดีจริงๆ ครับ

โดยรวม

สำหรับคนที่คิดว่าจะดูหนังเรื่องนี้ในแบบแนวเสียวก็บอกเลยว่า หนังเปิดเผยเรือนร่างกันเกือบหมด เรียกว่าถ้าจะดูแนะนำว่าต้องอยู่บ้านคนเดียว ลดเสียงลงมาจะดีกว่าครับ เพราะหนังทุกตอนจะต้องมีเสียวเกี่ยวกับฉาก Sex ครางลั่นกันทุกตอน แถมยังเน้นบิ้วอารมณ์จนซีรีส์เรื่องนี้ถูกจัดหมวดกลายเป็นหนังโป๊เลยก็ยังได้

แต่ว่าเป็นหนังโป๊ที่มีกึ๋นในการเล่าเรื่องราวพร้อมดูหนังผ่านเน็ตกับฉาก SEX ไปพร้อมกัน แบบละสายตาไม่ได้ แถมยังตลกได้ใจอีกต่างหาก และก็ไม่ได้มีฉากที่ใส่มาแบบยัดเยียดแต่อย่างใด ทุกอย่างมีที่มาที่ไปหมดแม้แต่เสียงครางเบาครางหนัก หรือนิ้วนางเอก AV ในเรื่องก็แสดงออกเพื่อใช้บ่งบอกอารมณ์เสียวได้เป็นอย่างดี

สรุป

สำหรับเรื่องนี้ไม่รู้จะตำหนิหรือติอะไรได้เลยจริงๆ 5555 เพราะหนังทำได้สุดทางในแนวทางของเรื่องจริงๆ แต่อาจจะมีบางประเด็นจบแบบค้างนิดๆ หรือคนดูนั่นเองที่ยังอยากให้มีซีซั่นต่อไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้อเสีย แค่คนดูรู้สึกยังจบไม่ลงจริงๆ กับการผจญภัยแบบบ้าสุดๆ ในโลกหนังโป๊ของผู้กำกับ “โทรุ มุรานิชิ” คนนี้ครับ

Black Summer - ปฏิบัติการนรกเดือด

ดูหนังสด

รีวิว Black Summer - ปฏิบัติการนรกเดือด

ถือเป็นซีรีส์ที่สร้างโดย Netflix ที่เกี่ยวกับซอมบี้อีกเรื่องและผมคิดว่ามันสนุกใช้ได้เลยทีเดียวครับ แม้ว่าในความเป็นจริงไม่มีคอนเซ็ปต์อะไรใหม่เลย ถ้าคุณเป็นแฟนหนังซอมบี้และดูมาเยอะ ปฏิบัติการนรกเดือด นี้นำเอาไอเดียจากหนังซอมบี้หลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น 28 Days Later, The Walking Dead และ World War Z แถมมีกลิ่นอายของ Fear the Walking Dead อยู่ด้วย รีวิว Black Summer

เรื่องย่อ

โลกได้เกิดเหตุการณ์ที่ราวกับเป็นวันโลกาวินาศ เหล่าผู้คนได้ติดเชื้อจนกลายเป็น ซอมบี้ ไล่กัดกินกันเอง แถมความน่ากลัวของซอมบี้ในเรื่องนี้ต่อให้ไม่ถูกกัดแค่คุณตายไปร่างกายของคุณก็จะฟื้นขึ้นมากลายเป็นซอมบี้พร้อมจะหาเหยื่อมากัดกินแพร่เชื้อต่อไป โดยผู้ที่รอดชีวิตจะต้องอพยพไปยังสนามกีฬา โดยเรื่องราวจะเล่าผ่านตัวละครหลายๆ คนจนกระทั้งทุกคนมาบรรจบกัน โรส หญิงสาวที่เสียสามีไปเพราะทหารไม่ให้ขึ้นรถอพยพไปด้วย เพราะสามีของเธอติดเชื้อ แต่ทว่าลูกสาวของเธอดันติดรถทหารไปยังสนามกีฬาก่อนแล้ว ทำให้เธอต้องมุ่งหน้าไปเพื่อเจอลูกสาวของเธออีกครั้งนึง


ซีรีส์ใช้มุมกล้องตามหลังนักแสดงในหลายๆฉากและมีการเคลื่อนไหวของกล้องเยอะและไว ตรงนี้อาจจะทำให้บางคนเวียนหัวได้นะครับ ยิ่งถ้าใครดูบนรถด้วยไม่ควรอย่างยิ่ง มุมกล้องแบบนี้ช่วยเพิ่มอารมณ์ความตื่นเต้นและด้วยความที่ซีรีส์มีฉากแอ็คชั่นเยอะ เราจะได้เห็นมุมกล้องแบบนี้ค่อนข้างบ่อย

ซอมบี้มีความดุดเดือดและค่อนข้างฉลาดกว่าซอมบี้เรื่องอื่นๆ ที่สำคัญพวกมันวิ่งไวมากแถมตามกัดไม่เลิกด้วยนี่สิ แถมกลายร่างไวมาก เรียกว่าไม่ทันตั้งตัว (คุ้นๆไหมครับ) ส่วนสิ่งที่ต่างกับซอมบี้ที่เราคุ้นเคยคือความเละ ซอมบี้ใน Black Summer จะดูไม่เละแหวะมากนักแต่อาจจะเป็นเพราะเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นเกิดเรื่อง

หนัง/ซีรีส์ซอมบี้ ขาดไม่ได้เลยคือความไม่ฉลาดของตัวละคร แต่เรื่องนี้ส่วนเหล่านั้นถูกตัดตอนออกไปค่อนข้างเยอะ นั่นแปลว่าเราจะไม่ค่อยได้หงุดหงิดกับตัวละครมากนัก แต่สิ่งที่เราจะหงุดหงิดคือการแสดงของตัวละครบางตัวที่แสดงได้แข็งและบทบาทไม่สมเหตุสมผลเลย

อย่างเช่นตัวละครรองที่เป็นคนเกาหลี ที่นางพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยพูดแต่ภาษาเกาหลีทั้งเรื่อง แต่ซีรีส์กลับทำให้ตัวละครอื่นๆในเรื่องเหมือนฟังเจ๊แกออก แถมซับก็ไม่ใส่มาให้เราด้วย ใครดูจะพลาดรายละเอียดตรงจุดนี้ไปเยอะครับ เว้นแต่เราจะฟังเกาหลีออก แถมนางแสดงได้แข็งและแอ็คติ้งเวอร์กว่าความเป็นจริงมากๆ ดูแล้วหงุดหงิดใจมากกว่าอะไรทั้งปวง

การดำเนินเรื่อง

หนึ่งในตัวละครหลัก โรส และครอบครัวของเธอ ประกอบด้วยลูกสาวและสามี จึงพากันวิ่งไปขอทหารขึ้นรถ ระหว่างตรวจเอกสาร คนลูกนั้นได้ขึ้นรถไปอย่างปลอดภัย ส่วนคนพ่อถูกทหารจับได้ว่ามีบาดแผลและดูเหมือนจะติดเชื้อ ทหารจึงทิ้งสามีและโรสรวมทั้งคนอื่น ๆ ไว้ให้เอารอดชีวิตกันเอง ก่อนที่ทหารทั้งหมดจะขึ้นรถและขับตรงไปยังสนามกีฬา เธอจึงต้องทำทุกวิธีทางเพื่อไปยังสนามกีฬาและไปหาลูกสาวของเธออีกครั้งให้จงได้!

แต่เรื่องราวก็ไม่ได้โฟกัสที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่งเป็นหลัก มีหลากหลายตัวละครหลากหลายนิสัยมากให้เราเลือกเชียร์ ทั้งตัวที่เก่ง ไม่เก่ง ตัวถ่วง ตัวใจดี ตัวเลว เรามาดูกันว่าตัวไหนจะไปถึงสนามกีฬาได้บ้าง บ้างก็มีหักหลัง บ้างก็ร่วมมือร่วมใจกันเอาชนะฝ่าฟัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ไปถึงสนามกีฬากันหมดทุกคน

ความรู้สึกหลังดู

ความสนุกของเรื่องมันเริ่มต้นตั้งแต่ 5 นาทีแรกที่คลิปเข้าไปดูหนังเลยครับ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้ส่วนมากจะถ่ายเป็นดูหนังสด LONGTAKE บ่อยมาก ทำให้บรรกาศที่หนังนำพาเราไปรู้สึกสมจริง และคอยลุ้นไปตามเหตุการณ์ในแต่ละซีน โดยหนังจะเล่าผ่านเหตุการณ์ของแต่ละบุคคล สถานที่

แล้วให้เราจับต้นชนปลายกันเองว่า คนนี้มาได้ยังไง แล้วซีนนี้มันเกิดขึ้นตอนไหน หมอนี่เป็นใครทำอะไรมาก่อน เลวรึเปล่า ความต้องการของเค้าคืออะไร?!ก่อนดูซีรีย์เรื่องนี้ก็พอจะได้ยินมาหน่อยนึงแล้วว่าจะเป็นแบบนี้ ก็กลัวว่าดูๆ ไปแล้วจะไม่เข้าใจเหตุการณ์ แต่ไม่เลย ผิดคาดมาก!! หนังเล่าได้อย่างชาญฉลาดทำให้เราเข้าใจได้โดยไม่ยากเลย

และยังความสมจริงของซอมบี้เรื่องผมจัดว่าดีระดับนึงเลย เพราะถ้าเป็นซอมบี้จริงผมว่ามันตายยากอย่างนี้แหละถูกแล้ว เพราะเอาจริงๆ เราจะเห็นบางเรื่องซอมบี้โดนหวดนิดหน่อยก็ตายแล้ว ทั้งๆ ที่ความจริงร่างกายของมนุษย์นั้นแข็งมาก การจะตีกระโหลกให้แตกทีเดียวเอาไม่อยู่แน่ๆ

ซีรีย์ก็เก็บรายละเอียดตรงนี้ค่อนข้างดี และอีกจุดนึงที่ผมทั้งชอบและก็ไม่ชอบเลยไปพร้อมๆ กันก็คือทำไมตัวละครในเรื่องถึงไม่ชอบยิงหัวซอมบี้กันเลย ทั้งๆ ที่รู้ว่าจุดอ่อนมันอยู่ที่หัว แต่ในอีกแง่นึงก็คือชอบตรงนี้แหละ เพราะเอาเข้าจริงๆ ในสถานการณ์แบบนั้น ระยะห่างขนาดนั้น กับจำนวนกระสุนที่ไม่ได้มีเหลือเฟือ ก็คงจะกดดัน เพราะการเล็งยิงหัวของใครสักคน ถ้าไม่ใช้ ฮอว์คอาย คงทำกันไม่ได้ง่ายๆ (ฮา)

รีวิว Black Summer

จุดที่ชอบ

ส่วนข้อดี ผมบอกเลยว่าผมชอบวิธีการเล่าเรื่องของเรื่องนี้เอามาก ๆ ด้วยการตั้งชื่อซีนแต่ละซีนเอาไว้ มันทำให้ผมคิดว่าเออ ถ้าตั้งชื่อซีนอย่างนี้มันควรจะเป็นแบบนี้ แต่ที่ไหนได้! บางซีนเล่าได้กวนมาก แถมวิธีการถ่ายวิดิโอแบบ Long Take(ถ่ายฉากยาว ๆ กล้องไม่ตัด), Handheld (ใช้มือถ่าย) บ่อย ๆ ก็เป็นอะไรที่ผมชอบมาก

ทำให้อารมณ์ไม่ค่อยสะดุดรู้สึกเหมือนอินและเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย มีการถ่ายมุมมองของแต่ละตัวละครว่าคนนี้เห็นอะไรไม่เห็นอะไร ถ่ายจากด้านหลังติดตามตัวละครให้ลุ้นระทึก คือเว็บสตรีมหนังติดตามแม้กระทั่งมุมมองของซอมบี้! ว่าจะไปไล่กัดคนยังไง คือมันดูแปลกและสนุกดี ถ้าเรามองข้ามข้อเสียข้ออื่น ๆ ไป

ข้อเสีย

ก็พูดถึงจุดที่ชอบไปพอสมควรแล้ว ก็มาพูดกันถึงจุดที่ไม่ค่อยชอบบ้างดีกว่า ก็มีหลายจุดอยู่เหมือนกัน จริงอยู่ที่ว่าซีรีย์นี้เปิดตัวได้น่าดูมาก เพราะตัวละครที่ซีรีย์นี้นำเสนอเป็นคนแรกๆ ล้วนมีสตอรี่กับคาแร็คเตอร์ที่น่าสนใจ บวกกับการแสดงที่ดี แต่พอเรื่องดำเนินมาเรื่อยๆ นั้นเราจะพบจุดที่น่าหงุดหงิดของตัวละครบางตัวที่แบบอะไรของเอ็งงงง !!!

ทำไมไม่มีเหตุผลเอาซะเลย บางคนก็ไม่ฉลาด ไอเรื่องยิงหัวซอมบี้ยากพอเข้าใจ แต่มันจะมีพวกหนีๆ หลบๆ ซอมบี้อยู่ แต่ไม่ปิดประตูครับ ทั้งๆ ที่ปิดล็อคก็รอดแล้วแท้ๆ ทั้งยังสตอรี่กลางเรื่องช่วงอยู่โรงเรียนเด็กก็ค่อนข้างจะเนือย แล้วงงเล็กน้อยว่า ไอเด็กที่อยู่ในโรงเรียนความต้องการของมันคืออะไร สนุกเหรอ เอาตัวรอดเหรอ แล้วมันเก่งเกินเด็กไปหน่อยรึเปล่า แต่พอพ้นช่วงนั้นเนื้อเรื่องก็กลับมาระทึกเหมือนเดิมครับ แต่ก็นะบางคนอาจจะชอบในจุดที่ผมไม่ชอบ หรือไม่ชอบในจุดที่ผมชอบก็ได้ ก็แล้วแต่คนๆ ไป

ข้อเสียที่ผมมองเห็นในเรื่องนี้ แล้วอยากแนะนำเลยว่าหากใครไม่ชอบตัวละครที่ค่อนข้างงี่เง่า (ซึ่งจะมีตัวละครจำพวกสร้างเรื่องเสมอในหนังซอมบี้) ท่านอาจจะอารมณ์เสียแล้วด่าพี่แกได้ตลอด หงุดหงิดเอาได้ และท่านไหนที่หงุดหงิดกับความไม่สมเหตุสมผลบางอย่าง ด้วยความเอาเน้นมันของเรื่องนี้ก็อาจทำให้ท่านร้องว่า เอออย่างนี้ก็ได้เหรอฟะ!

สรุป

โดยรวมผมยกให้ซีรีส์นี้เป็นอีกเรื่องจาก Netflix ที่แฟนซอมบี้ไม่ควรพลาดครับ แม้ว่าในซีซั่นแรกจะมีการนำเสนอที่อาจจะน่าหงุดหงิดไปนิด เพราะกระโดดไปกระโดดมา เพื่อเป็นการแนะนำตัวละครและพยายามช่วยเราปะติดปะต่อเรื่อง แต่ผมรู้สึกว่ามันกระโดดถี่เกินไปนิด น่าจะตัดทอนให้มันดูต่อเนื่องมากกว่านี้

นอกนั้นในแง่ของความกดดันทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ถ้าคุณมองข้ามความไม่สมเหตุสมผลของมันไปได้ ซีรีส์นี้ก็ดูเพลินไม่น้อยเลยแหละครับ

The Society - เดอะ​ โซไซตี้

ดูหนังฟรี

รีวิว The Society - เดอะ​ โซไซตี้

ไอเดียในการจับตัวละครกลุ่มหนึ่งไปติดอยู่ในสถานที่หนึ่ง (ซึ่งปกติมักจะเป็นเกาะร้าง) และพยายามเอาชีวิตรอดคงไม่ใช่ไอเดียที่ใหม่นัก ซึ่ง The Society ออริจินัลซีรีส์จากทาง Netflix เองก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องหยิบไอเดียนี้ขึ้นมาทำเช่นกัน แต่ตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ได้ติดเกาะร้างแต่เป็นติดอยู่ในเมืองแทน รีวิว The Society

เรื่องย่อ

เรื่องราวจะเล่าอยู่ในเมือง West Ham เมื่อโรงเรียนแห่งหนึ่งได้พานักเรียนมัธยมปลาย (High School) ออกไปทัศนศึกษานอกเมือง เนื่องจากในเมืองตอนนั้นกำลังมีกลิ่นเหม็นประหลาดฟุ้งอยู่ทั่วเมืองโดยที่หาสาเหตุไม่ได้ แต่ยังไม่ทันที่การทัศนศึกษาจะเริ่มต้นขึ้นรถบัสก็พานักเรียนทุกคนกลับมาที่เดิมและเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเด็ก ๆ ทุกคนกลับบ้านไปแล้วพบว่าพ่อแม่ คุณครู และชาวเมืองคนอื่น ๆ ได้หายตัวไปกันหมด และพยายามติดต่ออย่างไรก็ไม่ได้ เด็ก ๆ จึงคิดจะออกไปนอกเมืองเพื่อตามคนมาช่วยแต่ก็พบว่าทางออกของเมืองถูกปิดล้อมไปด้วยป่ารกชัฏ


ชีวิตที่ปราศจากผู้ใหญ่คือชีวิตที่อิสระและเจ๋งสุดๆจริงหรือ? คือสิ่งที่เหล่าวัยรุ่นแห่งนิวแฮมกำลังหาคำตอบเบื้องหลังการหายตัวไปของพ่อแม่ของพวกเขา และในขณะที่กำลังหาทางกลับบ้าน เกมการเมืองในสังคมที่ต้องปกครองกันเองกำลังทำให้พวกเขาต้องเผชิญด้านมืดของมนุษย์ เมื่ออำนาจกลายเป็นเดิมพันชีวิตที่อาจบีบให้พวกเขาทำลายกันเองจนหมดสิ้น แต่เหตุการณ์ประหลาดนี้จะจบลงเช่นไร พวกเขาจะหาทางกลับบ้านได้หรือไม่ และใครที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประหลาดนี้ต้องร่วมกันหาคำตอบใน The Society

ไอเดียของเรื่องที่ว่าการนำกลุ่มตัวละครมาอยู่ในพื้นที่ปิดและพยายามเอาชีวิตรอดจากทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดอาจฟังดูไม่ใหม่นัก แต่The Society ไม่ได้เน้นการเล่าเรื่องไปในทางนั้นสักเท่าไร แต่จะเน้นไปในประเด็นเรื่องระบบการเมืองการปกครองและการเปลี่ยนแปลงของแต่ละตัวละครผ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่า

ซึ่งหลังจากที่เด็ก ๆ ติดอยู่ในเมืองของตัวเองและไม่มีคำตอบใด ๆ ให้กับคำถามที่ว่าพวกเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร พ่อแม่และคนอื่น ๆ ไปไหน แล้วพวกเขาจะกลับบ้านจริง ๆ ของพวกเขาได้อย่างไร พวกเขาก็เริ่มสร้างกฎขึ้นมาเพื่อจัดระเบียบความเป็นอยู่ของทุกคน แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

แม้เด็ก ๆ ส่วนใหญ่จะยอมทำตามกฎแต่ไม่ใช่ทุกคนจะยอมรับและเห็นด้วย เพราะโดยพื้นฐานแล้ว เด็ก ๆ เหล่านี้ไม่ได้เท่าเทียมกันตั้งแต่แรก บางคนฐานะดี บางคนฐานะยากจน บางคนไม่มีบ้านให้กลับเพราะบ้านอยู่นอกเมือง สังคมจึงเริ่มมีการเห็นต่างทางความคิดต่อการปกครองของผู้นำมากขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มปะทุเป็นเหตุการณ์ที่มักจะเห็นได้ในเรื่องเล่าแนวเอาชีวิตรอดนี้ เช่น การยึดอำนาจ และการใช้อำนาจของกฎหมู่ กักขัง ฯลฯ

ความน่าสนใจ

แต่ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้อยู่ที่ซีรีส์ไม่ได้เทน้ำหนักไปว่าใครถูกใครผิด ความคิดของใครดีกว่า เพราะไม่ว่าจะปกครองแบบไหนก็ต้องมีคนได้รับผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจเสมอ และยังชวนคนดูให้คิดและตั้งคำถามว่าใครกันแน่ที่มีสิทธิจะได้เป็นผู้นำ ในเมื่อทุกคนเห็นต่างและมีเหตุผลของตัวเองกันหมด และเหตุผลของแต่ละคนก็ชวนให้เข้าใจได้เหมือนกัน

การดำเนินเรื่อง

ในด้านการพัฒนาเรื่องราวนั้นตัวซีรีส์ทำออกมาได้อย่างชัดเจนผ่านการค่อย ๆ เติบโตและเปลี่ยนแปลงของตัวละครแต่ละตัว ทั้งจากสถานการณ์ภายนอกที่ตัวละครทุกตัวต้องใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่จริง ๆ อย่างกะทันหันซึ่งเหมือนเป็นการบีบบังคับให้ตัวละครต้องทำตัวให้โตกว่าวัยอย่างไม่มีทางเลือก และสถานการณ์ที่เกิดจากภายในจิตใจตัวละครที่ต้องตัดสินใจอะไรที่ดูจะเกินตัวไปมาก ซึ่งผลลัพธ์จากการตัดสินใจทุกอย่างนั้นมันทำให้ตัวละครเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

อีกเรื่องหนึ่งที่ซีรีส์ได้สอดแทรกเอาไว้ระหว่างทางก็คือเรื่องของปัญหาหลาย ๆ ระดับในสังคมผ่านการที่ให้เด็ก ๆ ได้ใช้ชีวิตในสังคมแบบผู้ใหญ่จริง ๆ โดยไม่มีผู้ปกครองคอยดูแล ตั้งแต่เรื่องง่าย ๆ อย่างการทำอาหารที่เด็กบางคนเองก็ไม่มีความรู้เลยจริง ๆ และปัญหาระดับครอบครัว เช่น การใช้ชีวิตแบบคู่แต่งงาน หรือการทำร้ายร่างกายผู้หญิงและความเป็นใหญ่ของผู้ชาย (สามี) ในครอบครัว ไปจนถึงปัญหาระดับสังคมอย่างเรื่องเพศที่สามที่ไม่ถูกยอมรับ การตั้งท้องในวัยเรียนโดยไม่พร้อม หรือการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของกฎหมายในการเอาเปรียบคนอื่น ๆ

จุดที่ชอบ

ความดีงามหลักๆที่พอจะทำให้เราดูซีรีส์ได้ตลอดรอดฝั่งคงหนีไม่พ้นคอนฟลิกต์หลักของเรื่องที่ว่าด้วยปริศนาการหายไปของเหล่าผู้ใหญ่ที่เดินไปควบคู่กับเกมการเมืองของเหล่าวัยรุ่นในเมืองนิวแฮม แต่ถามว่าปัญหาของซีรีส์หลักๆคืออะไรก็คงหนีไม่พ้นการพยายามยัดคอนฟลิกต์ย่อยๆมาตลอดเรื่องแบบกลัวคนดูเบื่อหน่าย และผลของมันคือการทำให้ 5 ตอนแรกเรื่องราวแทบไม่เดินไปไหนเลย

หลังพยายามหาทางกลับบ้านเพียงครั้งเดียวในตอนเปิดซีรีส์แล้วมีคนถูกงูกัด ซีรีส์ก็ดูจะสาละวนกับการพยายามจัดระเบียบสังคมของ แคสแซนดรา จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์สุดช็อคตอนครึ่งทางของซีรีส์ที่เริ่มมีการฆาตกรรมเกิดขึ้นนั่นแหละ เลยทำให้ตั้งแต่ตอนที่ 6 เป็นต้นไปกลายเป็นเกมการเมืองที่เข้มข้นเอามากๆและหยุดดูไม่ได้เลย

แต่กระนั้นมันก็ยังพยายามยัดคอนฟลิกต์ย่อยๆทั้งไอ้หนุ่มโรคจิตอย่าง แฮรี่ ที่พยายามหาทางยึดอำนาจ หรือการสอบสวนคดีฆาตกรรมที่จบลงด้วยความน่ากังขาแต่ซีรีส์ก็กลับทิ้งมันไปดื้อๆ ให้เป็นเพียงคำถามถึงความยุติธรรมของศาลที่พวกเขาพยายามจัดตั้งขึ้น ซึ่งใครสนใจชมก็คงต้องทำใจนิดนึงว่าซีรีส์จะเต็มไปด้วยช่องโหว่เต็มไปหมด แต่ในเรื่องความสนุกรับรองไม่ผิดหวังเลย

ด้านนักแสดง

อีกจุดที่น่าพูดถึงสำหรับ The Society คือเหล่าตัวละครที่เหมือนยกประเภทของเผ่าพันธ์ุวัยรุ่นชาวไฮสคูลมาจัดตั้งเป็นกลุ่มก้อนทางสังคมได้อย่างน่าสนใจ เช่นเหล่านักฟุตบอลของโรงเรียนก็กลายเป็นเหมือนทหาร มีเด็กสาวเคร่งศาสนามาทำหน้าที่เป็นเหมือนนักเทศน์ มีสาวสังคมที่พยายามจัดปาร์ตี้รวมคนขึ้นมา หรือกระทั่งนักกิจกรรมที่พยายามตั้งคำถามถึงการปกครองตนเองของผู้นำผ่านละครเสียดสีการเมือง

รีวิว The Society

ซึ่งไอเดียสิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้ตัวละครในซีรีส์ดูน่าสนใจ รวมถึงการพยายามสร้างกิจกรรมการเมืองที่ล้อกับโลกผู้ใหญ่ทั้งการเลือกตั้ง (รวมไปถึงการทำรัฐประหารที่แอบสะอึกไม่น้อยประหนึ่งมาเอาเรื่องราวการเมืองไทยไปเสียดสีเลยทีเดียว 555) แถมแนวคิดของเด็กๆในเรื่องบางคนก็สะท้อนถึงผู้นำที่มีความคิดเผด็จการเมื่ออำนาจอยู่ในมือ ซึ่งก็ทำให้เห็นถึงความละเอียดละออในการสร้างตัวละครของทีมเขียนบทไม่น้อยเลยทีเดียว

ในด้านนักแสดงแต่ละคนอาจไม่คุ้นหน้าคุ้นตานัก แต่ก็มีบางคนที่อาจจะได้เคยเห็นมาบ้าง เช่น แอลลี่ เพรซแมน รับบทโดย Kathryn Newton จากภาพยนตร์หนังออนไลน์เรื่อง Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ภาพยนตร์เรื่อง Pokemon Detective Pikachu ทีวีซีรีส์ เรื่อง Big Little Lies และแอลล์ ทอมกินส์ จากภาพยนตร์เรื่อง The Visit

พูดถึงเหล่าบรรดานักแสดงในเรื่องก็เต็มไปด้วยวัยรุ่นหน้าตาดีๆ ตั้งแต่ แคตเธอรีน นิวตัน ที่เพิ่งมีผลงาน Pokemon Detective Pikachu ไปหมาดๆก็มารับบท อัลลี สาวน้อยที่จำใจต้องมารับหน้าที่ผู้นำและต้องเผชิญความโหดร้ายของเกมการเมือง ฌาคส์ โคลิมอง หนุ่มลูกครึ่งเฮติอเมริกันสุดหล่อที่รับบท วิล หนุ่มหล่อที่ อัลลี หลงรักแต่ต้องเจอกับสถานการณ์เฟรนด์โซน  คริสทีน โฟรเซธ สาวสวยหน้าเก๋จากหนัง Netflix อย่าง Sierra Burgess is a loser ก็มารับบทเคลลี สาวสุดฮอตที่วิลแอบชอบ

แต่สาวสวยที่ผมอยากแนะนำคงหนีไม่พ้น นาตาชา ลุย โบดิซซา สาวสวยลูกครึ่งจีนอิตาเลียน ที่เราเคยเห็นผ่านๆตาจาก The Greatest Showman และเคยเล่นหนังกำลังภายในภาคต่อที่ Netflix สร้างเองอย่าง Netflix Original Crouching Tiger, Hidden Dragon : Sword of Destiny ด้วยใบหน้าสวยคมแบบหมวยอินเตอร์ที่เราเชื่อว่าจะถูกใจหนุ่มๆแน่นอน

โดยรวม

ในซีซั่นแรกนี้จะเน้นหนักไปในเรื่องปูให้ผู้ชมรู้จักตัวละครแต่ละตัว การปะทะทางความคิดในประเด็นเรื่องการปกครอง และการใช้ชีวิตในแบบของผู้ใหญ่จริง ๆ เสียมากกว่า ส่วนในด้านปริศนาเรื่องที่ว่าที่ที่พวกเด็ก ๆ อยู่นั้นคือที่ไหนและมาได้อย่างไร ทุกคนหายไปไหน และวิธีพวกเขาจะกลับไปเมือง ๆ เดิมได้อย่างไรนั้นยังไม่มีการเปิดเผยอะไรออกมามากนัก แต่ตัวซีรีส์ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนุกและชวนให้ติดตามทีเดียว และข่าวดีสำหรับคนที่ชอบก็คือตัวซีซั่น 2 จะถูกปล่อยให้มาให้ชมกันต่อในปี 2020 นี้เอง

สรุป

ในด้านไอเดียแม้จะดูไม่ใหม่นักกับการเอาชีวิตรอดของกลุ่มคนในเมืองร้าง แต่ประเด็นต่าง ๆ ในเรื่องก็ทำออกมาได้สนุกทีเดียว ทั้งประเด็นเรื่องระบบการปกครอง และการจำลองชีวิตในสังคมแบบผู้ใหญ่ของกลุ่มวัยรุ่น

รีวิว Narcos Mexico Season 2 - นาร์โคส เม็กซิโก

ดูหนังฟรี

รีวิว Narcos Mexico Season 2 - นาร์โคส เม็กซิโก

Narcos ซีรีส์เกี่ยวกับการองค์กรค้ายา ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดิบ โหด และหักเหลี่ยม เฉือนคม จนทำให้หลายต่อๆหลายตัดสินใจสมัคร Netflix เพื่อที่จะได้ดูมัน ที่ผ่านมา Narcos เคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้แล้ว 3 ซีซัน โดยเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่การเครือข่ายค้ายาใน โคลอมเบีย ทั้งจากเหล่าพันธมิตรเมเดยีนของ ปาโบล เอสโคบาร์ ในซีซัน 1-2 และแกงค์กาลี ในซีซัน 3 รีวิว Narcos Mexico Season 2

เรื่องย่อ

เรื่องเริ่มจาก ‘ปฏิบัติการเลเยนดา’ ในตอนจบซีซั่นแรก ในซีซั่นนี้เป็นการรวมทีมใหม่ของ DEA ที่หวังชำระล้างคดีลักพาตัวของกิกิให้สะอาด นำผู้ร้ายตัวจริงมาลงโทษ หลังจากที่รัฐบาลเม็กซิโกปิดคดีแบบไม่แคร์สหรัฐ โดยเริ่มจาก ‘วอลต์’ หัวหน้าทีมปฏิบัติการเลเยนดากับลูกทีมเม็กซิโกที่เขาคัดมาเอง ทำภารกิจลับฉกตัวร้ายในคดีที่ยังลอยนวล หวังสาวกลับไปให้ถึงเฟลิกซ์ที่อยู่บนสุด ในขณะที่เฟลิกซ์เองก็โดนผลกระทบจากคดีลักพาตัวกิกิตามรบกวนชีวิตว่าอเมริกาหมายหัวเขาไว้ เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขาเริ่มสูญเสียอำนาจการปกครองพลาซ่าต่างๆ ทำให้เขาต้องคิดแผนการค้าโคเคนแบบใหม่ครั้งใหญ่ขึ้นมา เพื่อเป็นตัวการันตีชีวิตการเป็นเจ้าพ่อค้ายาใหญ่สุดในประเทศนี้แต่เพียงผู้เดียวให้ได้


Narcos ซีรีส์เกี่ยวกับการองค์กรค้ายา ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดิบ โหด และหักเหลี่ยม เฉือนคม จนทำให้หลายต่อๆหลายตัดสินใจสมัคร Netflix เพื่อที่จะได้ดูมัน ที่ผ่านมา Narcos เคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้แล้ว 3 ซีซัน โดยเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่การเครือข่ายค้ายาใน โคลอมเบีย ทั้งจากเหล่าพันธมิตรเมเดยีนของ ปาโบล เอสโคบาร์ ในซีซัน 1-2 และแกงค์กาลี ในซีซัน 3
 
หลังจากจบซีซัน 3 Narcos เริ่ม Spin off สร้าง Narcos Mexico ออกมา ซึ่งในช่วงแรกก็มีกระแสต่อต้านออกมาประปราย รวมถึงการตั้งคำถามว่ามันจะทำได้ดีเหมือนการเล่าเรื่องสุดโหดของฝั่งโคลอมเบีย จริงหรือ แต่เมื่อปล่อยออกไปแล้วแน่นอน กระแสตอบรับดีมากไม่แพ้ 3 ซีซันแรกเลย
Narcos Mexico เล่าเรื่องของเครือข่ายค้ายาเสพติดของเจ้าพ่อคนดังอย่าง มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด (Diego Luna) แห่งแม๊กซิโก ที่เริ่มต้นจากการสร้างอาณาจักรกัญชา และด้วยความฉลาดหลักแหลมของเขา เขาจึงสามารถรวบรวมแกงค์อาชญากรรมในประเทศจนเป็นปึกแผ่น และพัฒนาไปสู่การขายโคเคนข้ามชาติกับแกงค์เมเดยีนของ ปาโบล เอสโคบาร์ (Wagner Moura)
 
นอกจากนี้ในเรื่องยังมีการเล่าเรื่องของ กิกิ กามาเรนา (Michael Peña) DEA ของเม็กซิโก ที่ถูกลักพาตัวไปทรมาน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น และเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการเลเยนดา ที่จะมีการพูดถึงในซีซัน 2

เนื้อเรื่อง

หลังจากจบซีซั่นแรกกับการเปิดตัวทีมเลเยนดา คนดูทุกคนก็คงคาดหวังว่าซีซั่น 2 จะกลับมาโหดดิบระห่ำแบบที่เคยเป็นจุดเด่นของซีรีส์ Narcos มาตั้งแต่แรก แต่แล้วกลายเป็นว่าก็ยังไม่สามารถนำจุดเด่นตรงนั้นกลับมาได้ในระดับเดิมที่เคยทำไว้ได้ แม้ว่าจะเทียบกับช่วงซีซั่น 3 กาลี อาจจะลดลงไปเยอะ แต่นั่นก็คือตัวเนื้อเรื่องวางไว้แล้วกาลีมีลักษณะเฉพาะแบบนั้น และก็มาในแนวทางเฉือนคมด้วยไหวพริบจากสายลับสองหน้าที่ทำได้ลุ้นระทึกไปอีกแบบ แต่ Narcos Mexico แม้จะมาถึงซีซั่น 2 แล้ว ก็ยังไม่สามารถพาเรื่องทั้งจากฝั่ง DEA กับฝั่งเจ้าพ่อยาเสพติด ให้รู้สึกว่าดีถึงจุดที่เคยทำไว้ได้เท่าเดิมเลย

อย่างเรื่องแม้จะเริ่มมาเป็นปฏิบัติการเอาคืนของอเมริกา ที่มาแนวลักพาตัว ซ้อม ข่มขู่ คนเม็กซิโกที่เกี่ยวข้องกับคดีกิกิ ซึ่งละเมิดอำนาจรัฐของเม็กซิโกอย่างชัดเจน แต่ความโหดของตัวละคร ‘วอลต์’ เองกลับดูสวนทางกับเรื่อง แถมดูแล้วจืดๆ ไม่ได้มีพลังผลักดันการทำงานอะไรมากนัก เทียบไม่ได้เลยกับยุคของปาโบล เอสโคบาร์เลยที่ทาง DEA มีตัวละคร ‘เปนญ่า’ ขาโหดที่เล่นนอกกติกาเหมือนกัน แถมยังฉลาดกว่าวอลต์มาก

แต่ช่วงการลักพาตัวคนร้ายในคดีก็ยังมีความน่าติดตามมากกว่าการเดินเรื่องอีกด้านของเฟลิกซ์ช่วงแรก ที่ตัดสลับกันไปมา และดูอืดๆ เนือยๆ ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ นอกจากการปูเรื่องความวิตกกังวลกับอำนาจการปกครองของเขา ก่อนที่ช่วงหลังของทีม DEA เลเยนดาเองกลับแผ่วลงไปเรื่อยๆ กลายเป็นการสืบติดตามแบบพื้นๆ ไม่มีเรื่องแนวโหดๆ ดิบๆ แบบที่เปิดมาตอนแรก จนแม้แต่จุดพีคของเรื่องราวฝั่ง DEA ก็ยังธรรมดามากจนน่าผิดหวัง แต่ก็คงเพราะต้องทำตามขอบเขตเรื่องราวจริงในคดีที่เป็นเหตุการณ์ช่วงนี้ ที่ทีม DEA ยังไม่กล้าเล่นนอกกฏมากเมื่อเทียบกับดูหนังฟรีซีซั่น 1-3 ที่ฝั่ง DEA ดูมีกึ๋นและเน้นบู๊โหดๆ มากกว่าเยอะ

กลับกันช่วงหลังเนื้อเรื่องของเฟลิกซ์กลับค่อยๆ น่าสนใจขึ้นมาเรื่อยๆ จากการคิดการใหญ่หวังเปลี่ยนตัวเองมาเป็นคนค้าโคเคนข้ามชาติเทียบชั้นแก๊งกาลีของโคลอมเบีย และยังมีเรื่องเกมการเมืองหาทางหนุนหลังประธานาธิบดีคนต่อไปให้เป็นพวก จนไปถึงเหตุการณ์จริงที่เกี่ยวกับการโกงผลการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของเม็กซิโก ที่เป็นตัวชี้เป็นชี้ตายอนาคตของเขาเช่นกัน ทำให้เฟลิกซ์ในซีซั่นนี้ต้องรับศึกหนักตลอดเวลา แบบที่ดูแล้วเหนื่อยแทน อันเกิดจากความทะเยอทะยานเกินตัวขึ้นเรื่อยๆ ของเขา เพื่อสร้างราคาให้ตัวเองมีอำนาจต่อรองมากที่สุด โดยหวังใช้เป็นใบรับประกันชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของเขาในซีซั่นนี้

จุดเริ่มการขุดอุโมงค์ส่งยา

นอกจากเรื่องราวของเฟลิกซ์แล้ว ซีซั่นนี้ยังแตกแขนงเรื่องราวไปยังจุดเริ่มการขุดอุโมงค์ส่งยาของเอล ชาโป ที่ซีซั่นก่อนปูตัวละครนี้ไว้นิดหน่อย ตอนนี้จะเริ่มให้เห็นอะไรๆ มากขึ้น ซึ่งตรงนี้ทำได้น่าสนใจตรงนิสัยใจคอของ เอล ชาโป แตกต่างออกไปจากเจ้าพ่อรายอื่นๆ ที่มีมาใน Narcos เลย โดยเขามีทั้งความเป็นเด็กหน้าใหม่ เรียนน้อยจบแค่ประถม 3

แต่ก็มีไอเดียล้ำเลิศเกินตัว นอบน้อมนิสัยดี ดูไม่ได้เป็นคนที่คิดหาเรื่องใดๆ กับใคร หรือมีความทะเยอทะยานอะไรมากแบบคนอื่นๆ ในตอนนี้ ซึ่งเรื่องราวของ เอล ชาโป จะมาแบบบางๆ ซ้อนทับกับเรื่องหลักของเฟลิกซ์ที่ยังคงเป็นเมนหลักอยู่ และก็เป็นการท้าทายอำนาจของเฟลิกซ์ครั้งแรก โดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตตามมา

รีวิว Narcos Mexico Season 2

อีกเรื่องราวหนึ่งที่แตกไลน์เพิ่มคือ การขึ้นมามีอำนาจของผู้หญิงในวงการค้ายาเสพติด ที่ตรงนี้มีปูไว้แล้วในซีซั่นก่อนผ่านตัวละครอิซาเบลลา (Isabella Bautista) ที่พยายามยึดอำนาจเฟลิกซ์ในตอนจบซีซั่นแรก แต่เธอก็ยังไม่ละความพยายามนำโคเคนเข้ามานอกระบบของเฟลิกซ์ และก็ได้พบกับตัวละครผู้หญิงคนใหม่ที่เป็นหนึ่งในพี่น้องของหัวหน้าพลาซ่า ที่พยายามหาโคเคนนอกระบบเข้ามาเช่นกัน ซึ่งตรงนี้เป็นความพยายามเปิดเรื่องราวไปทิศทางใหม่ๆ ให้เห็นการไต่เต้าขึ้นมามีอำนาจในวงการค้ายาเสพติดฝั่งผู้หญิง ซึ่งที่ผ่านมา Narcos เน้นแต่ผู้ชาย แม้จะเคยมีตัวละครผู้หญิงที่กุมอำนาจมาบ้าง แต่ก็เป็นจุดที่อยู่บนๆ แล้ว ยังไม่ใช่การเริ่มต้นแบบในซีซั่นนี้

จุดที่ชอบ

ในซีซันนี้ คงต้องยอมรับว่าไม่ได้มีฉากเลือดสาดเยอะเหมือนในซีซันที่ผ่านๆมา แต่เราจะได้เห็นมุมมอง ความคิดของตัวละครแต่ละตัวมากยิ่งขึ้น หลายครั้งเราได้เห็นมุมมองความเป็นมนุษย์ของหลายตัวละครมากยิ่งขึ้น ที่มีความกลัว ความรัก และความอ่อนแอ

สิ่งที่ทำได้ค่อนข้างดีสำหรับหนังถ่ายทอดสด Narcos Mexico ซีซัน 2 คงเป็นการวางแผน หักเหลี่ยมเฉือนคม ที่ทำให้เรารู้สึกลุ้นตามกันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีมุกตลก ความบ้าบอ ของหลายๆตัวละครที่ทำให้เรายิ้ม และหัวเราะแบบแห้งๆตามได้เป็นระยะเช่นเดิม

นอกจากนี้ เรายังได้เห็นการฉายแววของ เอล ชาโป กุซแมน (Alejandro Edda) ที่ไต่เต้าจากการเป็นคนขับรถ จนขึ้นมาเป็นมือขวาในการคุมพลาซ่า อีกทั้งยังได้พบกับผลงานอันลือลั่นของเขา อย่างการขุดอุโมงค์ข้ามไปยังอเมริกาอีกด้วย อาจเรียกว่า Narcos Mexico ซีซัน 2 สามารถช่วยเติมเต็ม ช่องว่างบางจุดของหนังในตระกูล Narcos และ El Chapo ให้เห็นอะไรได้ครบมากยิ่งขึ้น

สรุป

โดยรวม Narcos Mexico ss2 นี้เรื่องราวฝั่ง DEA แผ่วลงมาก ไม่ค่อยมีความกดดันหรือตื่นเต้นอะไรมากเท่ากับภาคโคลอมเบีย หรือกับเม็กซิโกซีซั่น 1 เองก็มีจุดพีคของเรื่องราวกิกิกับแอ็กชั่นของอเมริกาน่าติดตามกว่า ส่วนฝั่งพ่อค้ายาทั้งเฟลิกซ์และคนอื่นๆ เรื่องราวยังคงพอรักษาระดับความน่าสนใจไว้ได้อยู่ในช่วงหลัง ซึ่งหลายๆ อย่างขมวดเข้าหากันได้อย่างน่าติดตาม เพียงแต่ตอนสุดท้ายของเรื่องราวดูจบได้ธรรมดาไปหน่อย ไม่สมกับที่ปูมาเหมือนว่าจะมีสงครามพลาซ่าอย่างทีเซอร์ที่ปล่อยออกมา (ดูในคลิปด้านล่างครับ) แล้วก็ทดเรื่องราวตรงนี้ไปไว้ซีซั่นต่อไป ซึ่งดูแล้วยืดยาวเกินไปสักหน่อยถ้ามองว่าเมื่อไหร่เนื้อเรื่องหลักจะเป็นตัว ‘เอล ชาโป’ สักที

Series netflix 18+

ดูหนังออนไลน์

Series netflix 18+

หลังจากที่โลกได้รู้จัก Netflix ก็ทำให้เราสามารถมีภาพยนตร์ หรือซีรีย์ติดเรท 18+  ดูได้ในบ้านโดยไม่จำเป็นต้องออกไปเขินๆ ซื้อแผ่น หรือไปดูที่โรงหนัง วันนี้ The Macho ก็รวบรวมซีรีย์จาก Netflix ที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ชอบดูหนังเฉพาะกลุ่มที่โตขึ้นมาหน่อย มีเรื่องอะไรมาดูกันเลย รีวิว Series netflix 18+


ขอบอกตรงนี้ก่อนว่าคำที่ว่าดูหนังออนไลน์ Netflix 18+ เนี่ย ไม่ใช่ซีรีส์โป๊หรือหนังโป๊ แต่อย่างใดนะจ้ะ แต่เป็นซีรีส์ที่มีเนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ความรัก การเมือง การให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศ นำมาให้ทุกแนว แต่ละเรื่องที่นำมาฝากนั้นการันตีความสนุก ใครได้ดูจะต้องติดงอมแงม ดูกันยันหว่างแน่นอน รับประกันได้เลย เพราะดูมาทุกเรื่องแล้วจ้า


SENSE8

sense8

มันเป็นธรรมเนียมของซีรี่ส์อเมริกันว่าถ้าไม่ใช่ฟรีทีวีจำเป็นต้องมีฉาก rate R เพื่อดึงดูดคนดูด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ก็มีฉากแรง ๆ เช่น ฉากเซ็กซ์ของเลสเบี้ยน เปิดนม และฉากโชว์งวงน้อยที่เห็นชัดเจนมาก หรือฉาก orgy (เซ็กส์หมู่) ที่ตอนดูก็อึ้งเลยไม่นึกว่าจะได้เห็น รวมไปถึงมีฉากโหด ชนิดฆ่ากันเลือดสาดอยู่บ้าง

โดยเนื้อเรื่องเล่าถึงกลุ่มมนุษย์พิเศษที่เรียกว่า sensate เป็นพวกที่สามารถสื่อจิตถึงกันได้ สามารถแชร์ความสามารถของคนอื่นๆ ในกลุ่มได้ เรื่องราวในเรื่องทั้งหมดก็เล่าถึงชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป เจอปัญหาคนละอย่าง และก็ต้องมาแชร์ปัญหาร่วมกันในตอนท้าย ๆ


365 DNI

 Series netflix 18+

ภาพยนตร์เผ็ดร้อนจากโปแลนด์ที่ต้องบอกว่าเร่าร้อนจริงๆ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวพระเอกเป็นมาเฟียมีอิทธิพลที่หลงรักนางเอก แต่เนื่องด้วยพระเอกเป็นมาเฟียการบอกชอบหรือบอกรักแบบธรรมดามันไม่เวิร์ค เลยลักพาตัวนางเอกมา พร้อมกับประโยคที่ว่า “ผมจะให้โอกาสคุณตกหลุมรักผมภายใน 365 วัน ผมจะไม่แตะต้องคุณถ้าคุณไม่ยินยอม แต่อย่ามายั่วผมก็แล้วกันเพราะผมอ่อนโยนไม่เป็นหรอกนะ” บอกเลยว่าต้องติดตาม


SPARTACUS

  Spartacus

สำหรับใครที่ชื่นชอบหนังแนวกลาดิเอเตอร์นักรบแห่งโรม ไม่ควรพลาด Spartacus ถึงแม้จะเป็นซีรีย์ที่ออกมาสักพักหนังแล้ว ลากมาถึง 3 ซีซั่น เป็นเรื่องราวของทาสที่ถูกขายไปยังโรงฝึกนักสู้แห่งหนึ่ง เขาต่อสู้สุดหัวใจเพื่อหวังว่าวันหนึ่งจะได้เป็นอิสระ และกลับไปพบกับคนรัก เนื้อเรื่องเข้มข้น เนื้อหารุนแรงประกอบไปด้วยฉากต่อสู้ที่ดุเดือด และ Sex ที่ร้อนแรงระหว่างนายทาส และเหล่านักรบทาส


Sex Education

 

ดูหนัง HD

ชื่อเรื่องนี้อาจจะดูลามกไปหน่อย แต่ขอบอกเลยว่าใครที่ได้ดูจะได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศควบคู่ไปในตัว เลยทำให้ได้เรท 18+ มานั่นเอง ยิ่งเป็นวัยรุ่นยิ่งต้องดู แนะนำสุดๆ แถมเนื้อเรื่องยังสนุกมากๆ อีกด้วย ได้ทั้งความสนุกและความรู้แบบนี้ไม่ได้ดูไม่ได้เลยน้า

คือหนังเรื่องนี้จะเน้นที่ปัญหาเซ็กส์ในวัยรุ่นเป็นหลัก คือฝรั่งเขาเนี่ยอย่างที่เรารู้เขาจะคุยเรื่องนี้กันโฉ่งฉ่างมาก คือมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติอ่ะ ซึ่งเปิดมา EP แรกโอ้วแม่เจ้าาาาา สตั้นไป 5 วิ เดี๋ยวนะหนังวัยรุ่นมันยิ่งกว่าจันทร์ดาราอีก 555555 (แต่เทียบกันไม่ได้นะ มันคนละแบบจันทร์ดารามันอีโรติกกว่า) มาครบลีลา ท่าทาง ตามสไตล์ฝรั่งอะนะ

อันนี้นมเป็นนม ปู๋เป็นปู๋เลยละทุกอย่าง คุยแบบตรง ! ชัดเจน! เห็นภาพ ไม่อ้อมค้อมใดๆ ในแต่ละตอนก็จะเน้นไปที่ปัญหาเซ็กส์ของแต่ละคนที่มาบำบัด ซึ่งเว็บดูหนังเราชอบนะซีรี่ย์ตรงๆแบบนี้ในบ้านเราแทบไม่มี คือซีรีย์นี้ทำออกมาหมดเปลือกแต่ทุกอย่างมันดูน่ารัก ดูเพลิน มันไม่ได้ดูลามกอ่ะ ตัวละครเล่นออกมาได้ดี เคมีก็เข้ากัน แต่ในหนังก็ไม่ใช่ว่าจะเล่นแค่ในแง่เซ็กส์บนเตียงนะ ก็มีแง่อื่นๆตามมา อย่างประเด็นเรื่องเพศทางเลือกที่บางคนยังไม่กล้าแสดงออก หรือในไง่ของครอบครัวซีรี่ย์ก็มีประเด็นนี้เข้ามาด้วย
ซึ่งเราว่ามันดีอ่ะ มันเข้าใจง่าย แปปๆ 8 ตอนรวดเดียวจบละ บางตอนนี้บอกเลยบางคนมีน้ำตาไหลอ่ะจริงๆ


Orange Is the New Black

Orange Is the New Black

เป็นเรื่องราวของเหล่านักโทษผู้หญิงในเรือนจำ ที่เสนอด้านมืดของผู้หญิงในแต่ละเรื่อง ที่ซีรีส์เรื่องนี้ติดเรท 18+ ก็เพราะว่าเนื้อหาบางตอนที่มีความรุนแรงในเรือนจำ เช่น การใช้ยาเสพติด และมีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้องเต็มๆ แต่รับรองว่าสนุก ดูเพลิน ไม่มีเบื่อแน่นอน

Orange is the new black เป็นซีรีส์ออริจินัล สร้างโดย Netflix ที่มีที่มาจากหนังสือเล่าประสบการณ์ชีวิตจริงในเรือนจำชองผู้เขียนหนังสือ Orange Is the New Black: My Year in a Women’s Prison Piper Kerman ที่เขียนหนังสือเล่าประสบการณ์ 1 ปีภายในเรือนจำ  สู่การดัดแปลงลงจอซีรีส์ Netflix ที่บอกเล่าเรื่อรางของ Piper Chapman ตัวละครที่มีที่มาจากผู้เขียน ที่ต้องถูกจองจำในเรือนจำ ลิทซ์ฟิล[ Litchfield ] เป็นเวลา 13 เดือน หรือ 1 ปีกว่าๆ

ว่าเธอต้องพบเจอกับอะไรบ้างในเรือนจำ ชีวิตแต่ล่ะวันของเธอเป็นอย่างไร ในเรือนจำจริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร และมันได้เปลี่ยนเธออย่างไรบ้าง หลังจากออกอากาศได้เพียง 1 ซีซั่น ซีรีส์เรื่องนี้ก็ดังผลุแตกมากๆ มีแฟนๆทั่วโลกเยอะสุดๆ และกระแสก็ยังแรงขึ้นดีขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนนี่ได้มีการสั่งทำถึงซีซั่นที่ 7 ในปีนี้ฉายซีซั่นที่ 5 ที่นี่มาดูเหตุผลกันว่าทำไมซีรีส์เรื่องนี้มันถึงเป็นซีรีส์ที่ครบรสสุดๆกัน  และทำไมมันถึงมีดังสุดๆด้วย


NARCOS

NARCOS

ซีรีส์เกี่ยวกับเรื่องราวของตำรวจชาวอเมริกันที่เข้าไปทำการสืบสวนกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดโคลัมเบียที่มีอำจาจมากที่สุดในปี 1989 แค่บอกว่าพ่อค้ายาเสพติดก็เหมาะกับ Netflix 18+ แล้ว แถมยังทำมาจากเค้าโครงเรื่องจริงอีกด้วย ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้สนุกมากๆ ใครชอบแนวสืบสวน ต้องไม่พลาดเรื่องนี้

ซึ่งหลังสร้างกระแสจากป้ายเซ็นเซอร์โมเสกจนเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ก็ได้เวลาที่เราจะมาพิสูจน์กันกับซีรีส์ Narcos Mexico ซีรีส์ที่ต่อยอดมาจาก Narcos ซีรีส์อาชญากรรมอิงประวัติศาสตร์การปราบปรามยาเสพย์ติดข้ามชาติที่สร้างติดต่อกันถึง 3 ซีซันและแน่นอนหลังจากปิดบัญชีแก๊งกาลีในซีซัน 3 ผู้สร้างก็ขอหาเรื่องราวใหม่แต่เป็นยุคสมัยที่มีความซ้อนทับกันคือการขนส่งกัญชาข้ามชายแดนเม็กซิโกมายังสหรัฐในสมัยรัฐบาล โรนัลด์ เรแกน อันมีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมืองที่มาเกี่ยวโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ


Elite

Elite

Elite เป็นซีรีส์ภาษาสเปน ที่เกี่ยวกับ high school ดาร์คๆ ที่มีการแบ่งชนชั้นระหว่างไฮโซ กับเด็กทุน มีการโดนเหยียดชนชั้น รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับศาสนา และยังมีการฆาตรกรรมเกิดขึ้นอีก ฉากเซ็กส์ 18+ ก็มี แต่ขอบอกว่าสนุกมากๆ หลายคนติดงอมแงมเลย


 

Narcos Mexico - นาร์โคส เม็กซิโก

ดูหนังออนไลน์

รีวิว Narcos Mexico - นาร์โคส เม็กซิโก

จุดเริ่มต้นใหม่ของซีรีส์ที่ย้ายจากโคลอมเบียมายังเม็กซิโกที่มีปัญหายาเสพติดหนักหน่วงเหมือนกัน เรื่องราวเริ่มต้นจากเจ้าพ่อค้ายาชื่อดังสุด “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” รุ่นก่อนหน้า เอล ชาโป โดยยังมีความเกี่ยวพันถึงแก๊งกาลีในโคลอมเบียรวมอยู่ด้วย รีวิว Narcos Mexico

เรื่องย่อ

เล่าถึงตำรวจที่ตามสืบคดียาเสพย์ติดโคเคน และเรียกได้ว่าผู้ร้ายรายนี้ไม่ธรรมดา เพราะเขาคือ พาโบล เอสโคบาร์ พ่อค้าโคเคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโคลัมเบียและของโลกเลยก็ว่าได้ แถมพาโบลนี้ยังรวยเป็นอันดับ 7 ของโลกในสมัยนั้นอีกต่างหาก หากคุณอยากรู้ว่าตำรวจจะจับเขาได้อย่างไรต้องติดตามซีรีส์เรื่องนี้


หลังสร้างกระแสจากป้ายเซ็นเซอร์โมเสกจนเป็นทีีฮือฮาในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ก็ได้เวลาที่เราจะมาพิสูจน์กันกับซีรีส์ Narcos Mexico ซีรีส์ที่ต่อยอดมาจาก Narcos ซีรีส์อาชญากรรมอิงประวัติศาสตร์การปราบปรามยาเสพย์ติดข้ามชาติที่สร้างติดต่อกันถึง 3 ซีซันและแน่นอนหลังจากปิดบัญชีแก๊งกาลีในซีซัน 3 ผู้สร้างก็ขอหาเรื่องราวใหม่แต่เป็นยุคสมัยที่มีความซ้อนทับกันคือการขนส่งกัญชาข้ามชายแดนเม็กซิโกมายังสหรัฐในสมัยรัฐบาล โรนัลด์ เรแกน อันมีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมืองที่มาเกี่ยวโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ

Narcos Mexico คือ ซีรีย์ที่พูดถึงจุดเริ่มต้นของพ่อค้ายาชื่อดังอย่าง “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” หรือที่ในเรื่องเรียกกันสั้นๆว่า “เฟลิกซ์” ย้อนไปในช่วยเริ่มแรกเดียวกับแก๊งกาลีในโคลัมเบีย แต่เป็นธุรกิจยาเสพติดอย่างกัญชา ที่มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมากอยู่ในแม๊กซิโกหรือชายแดนอเมริกา แต่ด้วยในตอนนั้นกฎหมายกัญชาไม่ได้ร้ายแรงเท่าไรนัก ทำให้พ่อค้ากัญชาเกิดใหม่ขึ้นมากมาย

แต่ เฟลิกซ์ เป็นพ่อค้าที่นำเอากัญชาสายพันธุ์ใหม่จนทำให้มียอดขายสูงจนไม่เคยมีมาก่อน ในระหว่างทางต้องมีการจ่ายค่าสินบน ทำธุรกิจสายเทาใต้ดิน และสร้างแก๊งให้มีความเข้มแข็ง จนกลายเป็นพ่อค้ายาที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเม็กซิโก และเข้าไปเกี่ยวพันกับโคเคนจนนำไปสู่ความสัมพันธ์กับ พาโบล เอสโคบาร์ ในภาคเก่านั่นเอง

ใน Narcos Mexico อาจจะไม่ได้มีความโหด ดิบ หรือแอคชั่นเทียบเท่ากับภาคก่อนมากนัก แต่สิ่งที่ซีรีย์ต้องการนำเสนอเรื่องของ กัญชา เป็นหลัก เรียกได้ว่าเข้ามาดูเรื่องนี้ได้ความรู้เพียบแน่นอน  หรือขั้นตอนเก็บเกี่ยวจนมาบรรจุขาย เห็นถึงการปกครองของแก๊งต่าง ๆ ในแม็กซิโก

ซึ่งแตกต่างกับแก๊งในโคลัมเบียอย่างมาก มีการกระจายกลุ่มกับดูแลโดยไม่มีการกินเส้นกัน แต่ตัวพระเอกมีความต้องการอย่างรวมเอากลุ่มนี้มาอยู่ในการปกครองของเขาให้ได้ ตัวละครไม่ได้มีจำนวนมากแต่คุณจะสนกไปกับการดำเนินเรื่องของตัวละครหลัก ทำให้คุณเข้าใจและรู้สึกอินได้มากยิงขึ้น

เนื้อเรื่อง

โดยคราวนี้เราจะได้ติดตาม กิกิ กามาเรนา (ไมเคิล เพนยา) เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพย์ติดชั้นผู้น้อยชาวฮิสแปนิกที่ย้ายมาประจำเม็กซิโก กับภารกิจโค่น ฟีลิกซ์ กัลลาร์โด (ดิเอโก ลูนา) ตำรวจกังฉินที่ร่วมมือกับ ราฟาเอล (เตโนช ฮูเออร์ต้า) ชาวไร่สายเขียวพัฒนากัญชาเกรดใหม่และวางแผนสร้างเครือข่ายธุรกิจส่งออกกัญชาไปยังสหรัฐอเมริกาโดยอาศัยช่องทางการคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ งานนี้ กิกิ จะขวางทาง ฟีลิกซ์สำเร็จหรือไม่ต้องติดตาม

‘กิกิ กามาเรนา’ คือตัวเอกฝั่ง DEA ที่ประจำเม็กซิโกในภาคนี้ที่แยกขาดออกมาจากซีซั่น 1-3 ในโคลอมเบีย แล้วก็เริ่มด้วยกัญชาไม่ใช่โคเคนอย่างในโคลอมเบีย ซีรีส์เริ่มเปิดเรื่องก็คือเหตุการณ์ตอนเกือบจบของซีซั่นเม็กซิโก เป็นเหตุการณ์ที่กิกิถูกลักพาตัวไปทรมานโดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” หัวหน้าองค์กรอาชญากรรมใหม่ในเม็กซิโกซิตี้ ที่ขึ้นไต่เต้าขึ้นมาจากระดับล่างในเวลาไม่นานด้วยมันสมองอัจฉริยะ และสามารถรวบรวมแก๊งอาชญากรรมในเม็กซิโกหลายๆ เขตให้มาขึ้นรวมกันเป็นองกรค์ค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ระดับครองประเทศได้สำเร็จ

ในซีซั่นนี้เราจะได้เห็นจุดเริ่มของการขายกัญชาระดับโลกที่มาก่อนโคเคน ผ่านไร่กัญชาใหญ่ที่สุดในโลกของ “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” (เรียกสั้นๆ ว่า เฟลิกซ์) ซึ่งเป็นการเปิดฉากใหม่ แต่ย้อนอดีตไปไกลในยุคสมัยเดียวกับโคเคนพึ่งเริ่มมา โดยเป็นธุรกิจยาเสพติดอีกแบบที่มีกลุ่มเป้าหมายลูกค้าต่างกัน

แต่ความน่ากลัวของกัญชาน้อยกว่าโคเคนมากหลายเท่า ทำให้ไม่ถูกทางอเมริกาหรือทางการเม็กซิโกจับตามาก ซึ่งผู้ค้ากัญชามีเกลื่อนตลาด  แต่การมาของกัญชาเฟลิกซ์เป็นพันธ์พิเศษให้ผลผลิตดีกว่าทุกชนิดที่ขายกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เฟลิกซ์เติบโตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการติดสินบนและทำธุรกิจใต้ดินคู่ไปกับคนในรัฐบาลเม็กซิโก

โดยมีหน่วยตำรวจลับ DFS ของรัฐบาลคุ้มครองอีกที แล้วดูหนังออนไลน์ก็มีแผนการใหญ่ทำเครือข่ายแก๊งต่างๆ ในเม็กซิโกให้กลายมาเป็นพันธมิตรกัญชากับเขา จนในที่สุดก็กลายเป็นพ่อค้ายาที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเม็กซิโก แล้วก็เริ่มขยายธุรกิจมายังโคเคน ทำให้นาโคสเม็กซิโกเป็นจุดเริ่มของการดึงตัวละครเก่ากลับมาใหม่ครั้งแรก และกลายเป็นเรื่องเดียวกันกับซีซั่น 1-3 เพียงแต่แยกชื่อภาคออกมาเป็นประเทศเม็กซิโกเท่านั้น

การดำเนินเรื่อง

ว่ากันตามตรงเลยคงต้องบอกว่า Narcos Mexico ยึดการดำเนินเรื่องแบบเดียว Narcos 3 ซีซันแบบเป๊ะๆ ทั้งการให้ข้อมูลเชิงสารคดีที่น่าสนใจโดยปนความคิดเห็นของคนเขียนบทเพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวที่เป็นเรื่องแต่งเข้ากับประวัติศาสตร์การเมืองที่สหรัฐอเมริกาเคยมีเอี่ยวกับการแทรกแซงกิจการภายในประเทศแถบอเมริกาใต้ได้อย่างแนบเนียน ง

แต่ในทางกลับกันใครที่อยากหาความบันเทิงจากซีรีส์โดยหวังว่ามันจะแอ็คชั่นระเบิดระเบ้อก็อาจผิดหวังได้ เพราะซีรีส์แต่ละตอนเลือกบอกเล่าเรื่องราวแบบละเอียดปูหมดกระทั่งว่า ฟีลิกซ์ ต้องติดต่อใครบ้างกว่าจะได้เส้นสายในการขนส่งกัญชาจนบางทีหากร่างกายไม่พร้อมนี่มีหลับคาจอได้เลย

แต่สิ่งที่ผิดแผกออกไปและดูเหมือนว่ามีผลต่อการชมไม่น้อย นั่นคือการสร้างตัวละครที่ดูขาวจัดอย่าง กิกิ ที่หนังทั้งปูเรื่องครอบครัวและเพิ่มคะแนนสงสารด้วยฉากโดนตำรวจดูถูกในตอนเปิดเรื่อง ส่วนผู้ร้ายอย่าง ฟีลิกซ์ ก็มุ่งแต่จะค้ายาโดยไม่สนเครื่องแบบและหน้าที่ตำรวจแม้แต่น้อย

ซึ่งทำให้เสน่ห์แบบ Narcos ที่ตัวละครทั้ง 2 ฝ่ายมีความเป็นสีเทาไม่มีใครดีหรือชั่วแบบสุดขั้วเลยถูกลดทอนลงอย่างน่าเสียดาย โดยยังคงไว้ซึ่งฉากแอ็คชั่นที่มีความโหดแต่เพิ่มระดับความวินาศสันตะโรมากขึ้นและแถมสาวๆสวยๆที่พร้อมโชว์เรือนร่างเป็นอาหารตาหนุ่มๆเหมือนเดิม

ในส่วนของซีซั่นนี้ DEA ยังเป็นแค่หน่วยงานใหม่ที่ไม่ได้มีตัวช่วยพิเศษมากแบบในซีซั่น 1-3 ที่มีพร้อมทั้งอุปกรณ์และกำลังคน จึงทำให้ภาคนี้การทำงานดูเรียบๆ ไม่ได้ดุดันหวือหวามีอำนาจสู้กันแบบในซีซั่นก่อนๆ แล้วก็โฟกัสไปที่เรื่องของ ‘กิกิ” กามาเรนา’ เป็นหลักเท่านั้น โดยเปิดเรื่องมาก็เห็นเลยว่าโดนลักพาตัวไปแล้ว

ซึ่งหนังแฟลชแบ็คเล่าเรื่องราวเขาย้อนกลับมาตั้งแต่แรกคู่กับเฟลิกซ์ที่พึ่งเริ่มไต่เต้าจากระดับขึ้นมาเช่นกัน ซีซั่นนี้จึงไม่ได้มีแอ็กชั่นดุเดือดอะไรนักเพราะพึ่งเป็นจุดเริ่มของทั้ง DEA กับเจ้าพ่อยาเสพติดคนใหม่ ยังไม่ถึงขนาดเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นแบบในซีซั่น 1-3 แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ประวัติศาสตร์วงการค้ายาเสพติดในเม็กซิโกเปลี่ยนไปกลายเป็นปัญหาระดับชาติจนถึงปัจจุบัน

แม้เรื่องราวจะไม่ดิบเถื่อนมาก แต่ก็สิ่งที่โดดเด่นกว่าซีซั่นก่อน คือการนำเสนอโลกของกัญชาตั้งแต่เริ่มปลูกและผสมพันธ์ละเอียดยิบในแบบที่โคเคนไม่มี รวมถึงการปกครองของเฟลิกซ์ที่ไม่เหมือนทั้งปาโบล เอสโคบาร์กับแก๊งกาลีเลยแม้แต่น้อย แม้จะไม่หวือหวาเร้าใจเท่า

แต่ก็เป็นแนวทางจากเรื่องจริงของเม็กซิโกที่แก๊งต่างๆ กระจายเขตคุมไม่ล้ำเส้นกัน แล้วเฟลิกซ์ต้องคิดหาทางทำให้พวกนี้มาอยู่ใต้องค์กรในความปกครองของเขาให้ได้ ซึ่งภาคเม็กซิโกนี้มีตัวละครหลักวางไว้เยอะกว่าภาคก่อนๆ มาก และมีความสำคัญกับเรื่องหลักทุกตัวละคร ยาวไปจนจบซีซั่นสองก็ยังเคลียร์เรื่องราวไม่หมด

รีวิว Narcos Mexico

ด้านนักแสดง

ว่ากันถึงนักแสดงที่คราวนี้หนังใช้ดาราเชื้อสายอเมริกาใต้คนดังทั้ง ไมเคิล เพนยา จาก Antman และ ดิเอโก ลูนา จาก Rouge One A Star Wars Story ซึ่งก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีประมาณหนึ่งเพียงแต่สถานะดาราของพวกเขา หลายครั้งก็ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังดูเรื่องแต่งมากกว่าเรื่องราวเชิงสารคดีโปรแกรมหนังหรือ Docudrama แบบ Narcos ทั้ง 3 ซีซันไปอย่างน่าเสียดาย

โดยรวม

โดยรวมซีซั่นนี้ลดดรีความโหดดิบเถื่อนลงไปเยอะ แต่เข้าใจว่าเป็นการปูเริ่มเรื่องใหม่ก็ต้องใช้เวลาในการปูเรื่องพอสมควร และด้วยบุคลิกของเฟลิกซ์เองก็เป็นแนวเก็บตัวเงียบๆ เน้นติดสินบนกับฝ่ายการเมืองเม็กซิโก หลีกเลี่ยงไม่อยากมีปัญหากับ DEA โดยตรง ก็เลยทำให้เรื่องราวไม่ค่อยมีการปะทะหรือฉากแอ็กชั่นอะไรนัก แต่จะค่อยๆ ไต่ระดับไปจนถึงจุดหักเหของเรื่องที่ทำให้กิกิเจ้าหน้าที่ DEA ถูกลักพาตัว จนทำให้เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตตามมา และตอนจบของซีซั่นนี้คือจุดเริ่มของเรื่องจริงในชื่อ ‘ปฏิบัติการเลเยนดา’ ซึ่งเป็นการเล่นนอกกติกาครั้งใหญ่ของ DEA ในยุคแรกของการปราบยาเสพติดข้ามชาติใหญ่โตแบบนี้

สรุป

ซีซั่นแรกของภาคเม็กซิโกเปิดเรื่องใหม่และไต่ระดับความน่าสนใจทำได้ดี แต่ความดุเดือดรุนแรงเบาลงไปมากเมื่อเทียบกับภาคโคลอมเบีย โดยทิ้งท้ายไว้ว่าซีซั่น 2 จะดุเดือดแน่ๆ แต่ซีซั่น 2 เรื่องราวกลับลดระดับความน่าสนใจลงไป รวมถึงแอ็กชั่นและความโหดดุเดือดก็น้อยกว่าซีซั่นแรกซะอีก แถมช่วงท้ายสุดก็ยังไปไม่ถึงเรื่องราวหลักของ ‘เอล ชาโป’ จนดูแล้วน่าจะยืดเยื้อยาวกว่าภาคโคลอมเบียที่ทำได้กระชับและจบลงตัวได้ดีกว่ามาก

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

Sausage Party - ปาร์ตี้ไส้กรอก

ดูหนังสด

รีวิว Sausage Party - ปาร์ตี้ไส้กรอก

คำเตือนคือ Sausage Partyเป็นการ์ตูนอะนิเมชั่น 18+ สำหรับผู้ใหญ่ ไม่เหมาะกับเด็กด้วยประการทั้งปวง เพราะการนำเสนอและเนื้อหาส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเซ็กส์อย่างโจ๋งครึ่มทั้งภาพ เสียง และภาษา ควรใช้วิจารณญาณอย่างแรงกล้าในการรับชม มุกแต่ละสิ่งอย่างของเค้า เราบอกเลยว่า #ร้องเหี้ยหนักมาก รีวิว Sausage Party

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ Sausage Partyเกิดในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง อาหารและสินค้าต่าง ๆ ในนั้นมีชีวิตและรอวันที่นักช้อป (ซึ่งพวกเขาเรียกว่า “พระเจ้า” หรือ “ทวยเทพ”) มาหยิบเขาใส่ตะกร้าและพาเขาไปนอกซูเปอร์ฯ (ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามันคือ “สวรรค์”) ความเชื่อนี้ถูกปรุงแต่งโดยบรรพบุรุษอินเดียนที่แต่งเรื่องขึ้นเพื่อให้ทุกคนไม่ panic

Resident Evil: Vendetta - ผีชีวะ ล้างบางเชื้อคลั่ง

ดูหนังสด

รีวิว Resident Evil: Vendetta - ผีชีวะ ล้างบางเชื้อคลั่ง

หลังจากที่ประสปความสำเร็จกับ CG อนิเมชั่นของซีรี่ยส์ผีชีวะในภาค Degeneration และ ภาค Damnation เมื่อหลายปีมาแล้ว และนี่คือหนังอนิเมชั่นภาคใหม่ที่จะนำเอา 2 ตัวละครเอกยอดนิยมมาแท็กทีมกันเป็นครั้งแรก กับ CG อนิเมชั่นภาคที่ 3 ของซีรี่ยส์“Resident Evil: Vendetta” รีวิว Resident Evil: Vendetta

เรื่องย่อ

นี่คือภาคที่ได้สองตัวละครสุดหล่อจากเกมมาเจอกันบนจอหนังเป็นครั้งแรกอย่างคริส เรดฟิลด์และลีออน ในการทำภารกิจครั้งใหม่ ซึ่งอดีตสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. คริส เรดฟิลด์ ปัจจุบันได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของหน่วย BSAA ต้องนำทีมเข้าไปตรวจค้นคฤหาสน์ที่อาจจะมีการลักลอบซื้อขายอาวุธชีวภาพ แต่กลายเป็นว่า ณ ที่นั่นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไวรัสสายพันธ์ใหม่ ส่วน ดร. รีเบ็คก้า แชมเบอร์ อดีตรุ่นน้องหน่วย S.T.A.R.S. และผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์คฤหาสน์สเปนเซอร์ เมื่อปี 1998 (เกมภาคแรก) เธอได้พัฒนาวัคซีนรับมือไวรัสพันธุ์ใหม่แต่เธอก็โดนโจมตีจากผู้ก่อการร้าย จน DSO ได้ส่งเจ้าหน้าที่อย่างลีออนมาสืบคดี

My Hero Academia - การ์ตูนแนวฮีโร่ที่สนุก

ดูหนังฟรี

รีวิว My Hero Academia - การ์ตูนแนวฮีโร่ที่สนุก และมันส์สุดๆ

ถ้าหากคุณกำลังเบื่อกับการอยู่ในช่วงกักตัวผมมีอนิเมะมาเเนะนำดูฆ่าเวลากันน่ะก่อนอื่นขอถามก่อนว่าครับมีใครชอบอนิเมะเเนวต่อสู้มัน ๆ บ้างครับที่มีชื่อว่า my hero academia ผู้เขียนเรื่องนี้ ' โคเฮย์ โฮริโคชิ 'ผู้เขียนอนิเมะมาอย่างยาวนานถ้าหากคุณชอบ เราของเชิญทางนี้ครับเราจะมาเริ่มการเเนะนำเลยครับ รีวิว My Hero Academia

เรื่องย่อ

ในปัจจุบันประชากรในโลกกว่า 80 เปอร์เซนต์ เกิดมาพร้อมกับ อัตลักษณ์พิเศษ หรือให้พูดเข้าใจง่ายๆ ก็คือพลังพิเศษนั่นเอง  ทำให้ในโลกมีการก่ออาชญากรรมขึ้นมากมายบุคคลเหล่านั้นถูกเรียกว่า วินเลิน ส่วนคนที่จะต่อกรกับคนเหล่านี้จะถูกเรียกว่า “ฮีโร่” ทำให้อาชีพ ฮีโร่เป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คนในปัจจุบัน มิโดริยะ อิซึคุ ในวัยเด็กเองก็เป็นหนึ่งคนที่ฝันอยากจะเป็นฮีโร่ช่วยเหลือคนอื่น

Dragon Quest Your Story - ดรากอนเควสต์ ชี้ชะตา

ดูหนังฟรี

รีวิว Dragon Quest Your Story - ดรากอนเควสต์ ชี้ชะตา

Dragon Quest Your Story (Netflix) ดรากอนเควสต์ ชี้ชะตา ดัดแปลงจากเกมให้ชวนคิดถึง เข้าใจว่านี่คือสารจากทีมสร้างถึงแฟนๆ แต่หลายอย่างโดยเฉพาะตอนจบอาจไม่ถูกใจ ที่จริงแล้วอนิเมชั่นเรื่องนี้ มีคุณภาพดี การดัดแปลงในช่วงเปิดเรื่องยอดเยี่ยมมาก แฟนเกมชอบแน่นอน ระหว่างเรื่องราวก็โอเคอยู่ แต่ตอนท้ายไปตัดบทตัวละครบางตัวออก แล้วดันไปทำหักมุมตอนสุดท้ายที่หลายคนอาจจะไม่ชอบเอาเลย ซึ่งผลก็ออกมาว่าโดนวิจารณ์ไว้เละพอสมควรครับ รีวิว Dragon Quest Your Story

เรื่องย่อ

จากเกม RPG ชื่อดังของญี่ปุ่นมาสู่แอนิเมชันเรื่องยาว ที่เปิดตำนานผู้กล้าคนใหม่นามว่า ริวกะ ที่จะออกผจญภัยตามคำทำนายในโลกแฟนตาซีในแบบฉบับ ดรากอนเควสต์ ที่เราคุ้นเคย