รีวิว Resident Evil: Vendetta - ผีชีวะ ล้างบางเชื้อคลั่ง
หลังจากที่ประสปความสำเร็จกับ CG อนิเมชั่นของซีรี่ยส์ผีชีวะในภาค Degeneration และ ภาค Damnation เมื่อหลายปีมาแล้ว และนี่คือหนังอนิเมชั่นภาคใหม่ที่จะนำเอา 2 ตัวละครเอกยอดนิยมมาแท็กทีมกันเป็นครั้งแรก กับ CG อนิเมชั่นภาคที่ 3 ของซีรี่ยส์“Resident Evil: Vendetta” รีวิว Resident Evil: Vendetta
เรื่องย่อ
นี่คือภาคที่ได้สองตัวละครสุดหล่อจากเกมมาเจอกันบนจอหนังเป็นครั้งแรกอย่างคริส เรดฟิลด์และลีออน ในการทำภารกิจครั้งใหม่ ซึ่งอดีตสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. คริส เรดฟิลด์ ปัจจุบันได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของหน่วย BSAA ต้องนำทีมเข้าไปตรวจค้นคฤหาสน์ที่อาจจะมีการลักลอบซื้อขายอาวุธชีวภาพ แต่กลายเป็นว่า ณ ที่นั่นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไวรัสสายพันธ์ใหม่ ส่วน ดร. รีเบ็คก้า แชมเบอร์ อดีตรุ่นน้องหน่วย S.T.A.R.S. และผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์คฤหาสน์สเปนเซอร์ เมื่อปี 1998 (เกมภาคแรก) เธอได้พัฒนาวัคซีนรับมือไวรัสพันธุ์ใหม่แต่เธอก็โดนโจมตีจากผู้ก่อการร้าย จน DSO ได้ส่งเจ้าหน้าที่อย่างลีออนมาสืบคดี
คงไม่ใช่แค่ฝั่งหนังคนแสดงที่มี มิลลา โจโววิช แสดงนำเท่านั้นที่จะโม้สะบัดช่อได้ เพราะอนิเมชั่นที่สืบทอดมรดกโดยตรงจากจักรวาลเกมมา ก็ทวีความโม้ขั้นเทพขึ้นทุกภาค ๆ เช่นกัน ตั้งแต่ Resident Evil Degeneration (2008) และ Resident Evil: Damnation (2012) ซึ่งเน้นหนักไปที่เรื่องราวของตัวละคร ลีออน เอส เคนเนดี้ พระเอกตัวหลักจากเกมภาคที่ 2
ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดของแฟรนไชส์ด้วย โดยในภาค Degeneration ลีออนกับ แคลร์ เรดฟิลด์ ตัวหลักจากเกมภาค 2 ต้องเผชิญการก่อการร้ายสนามบินด้วย ที-ไวรัส ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เหตุการณ์เมืองแร็กคูนซิตี้ล่มสลาย และหนังเรื่องนี้ยังปูทางไปสู่ตัวเกมภาค 4 ที่ลีออนได้รับภารกิจต้องไปช่วยลูกสาวประธานาธิบดีจาก ลัทธิลอสอิลูมินาดอส ที่นำไวรัสไปพัฒนาต่อ
พอหนังภาคสอง Damnation เรื่องราวก็เชื่อมอยู่ระหว่างเกมภาค 5 และ 6 และนำตัวละคร เอด้า หว่อง(ที่กิ๊กกับลีออนในเกมภาค 2) กลับมาร่วมภารกิจกับลีออนในประเทศแถบยุโรปตะวันออก ซึ่งเราก็ได้เห็นความโลกาวินาศแบบเวิลด์ไวด์ไปในเกมภาคที่ 6 จนเกิดกระแสแอนตี้อย่างเบื่อหน่ายเบา ๆ จากแฟนเกมว่านี่มันจะกลายเป็นยอดมนุษย์กันหมดแล้วนะ! และทำให้ทีมพัฒนาเกมกลับมาทำอะไรที่ง่าย ๆ และเน้นบรรยากาศสยองแบบเดิม ๆ ในเกมภาค 7 ที่ไม่มีเหล่าตัวละครยอดมนุษย์อีกต่อไป ซึ่งออกมาขายตอนต้นปีนี้แทน
มาฉบับออริจินัลซีจีอนิเมชั่นมูฟวี่ภาคนี้ ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เช่นเดิม คือหนังไม่ได้เชื่อมโยงกับสองภาคก่อนหน้า แต่ดูหนังสดเล่าเหตุการณ์ข้ามมาในอนาคต (น่าจะราว ๆ หลังเกมภาค 6) ที่ ลีออน ได้สูญเสียทีมไปจากการหักหลังของสายข่าวคนหนึ่ง เขารู้สึกหมดอาลัยตายอยากกับวังวนการไล่ปราบองค์กรก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ที่องค์กรนี้ล่มก็มีองค์กรใหม่ขึ้นมาอีก (เราเข้าใจนายนะ แค่ดูหนังกับเล่นเกมเรายังเบื่อแทนเลย..ฮา) ก็เลยไปใช้ชีวิตฉ่ำสุราอยู่ในเมืองชนบทแทน
สำหรับคอเกม Resident Evil น่าจะพอรู้จักเวอร์ชั่นนี้กันอยู่บ้าง เพราะเส้นเรื่องของหนังค่อนข้างมีความเกี่ยวพันกับเวอร์ชั่นเกมพอสมควร จึงเกิดคำถามที่ว่า ถ้าหากคุณไม่ได้เล่นเกมนี้จะดูหนังรู้เรื่องไหม ขอตอบ ณ ตรงนี้ว่า “ดูรู้เรื่อง” แต่อาจจะไม่เกทในบางข้อมูลของหนัง บทความนี้อาจจะทำให้คุณเข้าใจเหตุการณ์ในหนังภาคนี้เพิ่มขึ้นคร่าวๆ
ลืมเวอร์ชั่นคนแสดงไปให้หมด
ในหนังเวอร์ชั่น CGI จะไม่มีตัวละครอลิซและแน่นอนว่าจะไม่มีประโยคสุดหลอนที่ว่า “My Name is Alice” ให้สะดุดหู และสิ่งหนึ่งที่คอเกมแฟรนชายส์ซอมบี้ชุดนี้คิดเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ก็คือ เวอร์ชั่นหนังมันพาเกมส์ Resident Evil ออกนอกลู่นอกทางไปไกลจนกู่ไม่กลับ (ซึ่งอันที่จริงแล้วเกมในภาคหลังๆ ก็เละเทะไม่แพ้กัน)
ไปหาภาค Resident Evil Degeneration มาดู
Resident Evil Degeneration คือหนังเวอร์ชั่น CGI ภาคแรกของ Resident Evil ซึ่งในประเทศไทยไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แต่วางจำหน่ายในรูปแบบดีวีดี บอกเล่าเรื่องราวหลังเหตุการณ์ที่เมืองแร็คคูนซิตี้ล่มสลายหลังจากที่รัฐบาลได้ยิงระเบิดทำลายล้างเมืองเพื่อกำจัด T-Virus ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ปี 1998 ลง ภายหลังจากนั้น 7 ที่สนามบินแห่งหนึ่งเกิดเหตุการณ์เครื่องบินพุ่งชนเข้ามายังเทอร์มินัลของผู้โดยสาร
ก่อนจะปรากฏร่างของผู้ติดเชื้อ T-Virus ออกไล่กัดผู้คนจนกลายเป็นซอมบี้ แคลร์ เรดฟิลด์ อยู่ที่สนามบินนั้นพอดี ทำให้เธอต้องเอาชีวิตรอดออกจากสนามบิน โชคดีที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากลีออน เคเนดี้ (ทั้งสองเคยเผชิญชะตากรรมร่วมกันมาก่อนในเกม Resident Evil 2) ทั้งสองมีเวลาแค่ 4 ชั่วโมงในการหยุดยั้งไวรัสนี้ไม่ให้ระบาด
เหตุการณ์ในหนังภาคนี้ทีมงานให้เหตุผลว่าต้องเป็นตัวละครแคลร์และลีออน เพราะทั้งสองคือตัวละครที่คอเกมรักที่สุด (เนื่องจากเกม Resident Evil 2 ได้รับความนิยมสูงสุดจากคนเล่นเกมทั่วโลก) แต่สิ่งหนึ่งที่ทีมผู้สร้างมองไว้เสมอคือต้องมีตัวละครที่ไม่ได้มาจากเกมเพื่อเชื่อมโยงให้คนที่ไม่ได้เล่นเกมจูนกับหนังติดเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นตัวหนังในภาคนี้ยังเป็น “บทนำ” ของเกม Resident Evil 4 อีกด้วย
ไปหาภาค Resident Evil: Damnation มาดูต่อ
เส้นเรื่องของหนังไม่ได้ต่อจากเว็บสตรีมหนัง Resident Evil Degeneration แต่เรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างเกมภาคที่ 5 และ 6 โดยเน้นไปที่ตัวละครลีออนและเอด้า หว่อง (สองตัวละครจากเกมภาค 2 อีกแล้ว) ลีออนต้องเดินทางไปสืบคดีเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายที่ใช้อาวุธชีวภาพที่ประเทศสลาฟ แต่ที่นั่นเกิดสงครามกลางเมืองจนเหตุการณ์ยืดเยื้อจนท้ายที่สุดมีการใช้อาวุธชีวภาพจนทุกอย่างลุกลามบานปลายไปหมด
ในหนังภาคนี้มีการนำตัวร้ายอย่างไทแรนซ์ (วายร้ายในเกมภาคแรก) กลับมาเป็นตัวละครที่ลีออนต้องปะทะด้วย ยังไม่รวมถึงมอนสเตอร์อย่างลิกเกอร์ที่มีขนาดตัวมหึมากว่าในเวอร์ชั่นเกม
การกำกับด้วยการใช้เทคนิคโมชั่นแคปเจอร์
ตลอดการสร้าง Resident Evil ในเวอร์ชั่น CGI หนังยังใช้เทคนิคพิเศษแบบโมชั่นแคปเจอร์ด้วยการให้มนุษย์จริงๆมาจำลองวิธีการเคลื่อนไหว ก่อนนำไปทำเป็นภาพกราฟฟิคในภายหลัง ซึ่งทีมงานก็ต้องแคสติ้งบรรดานักแสดงมารับบทเป็นตัวละครต่างๆ ซึ่งในภาค Resident Evil: Vendetta มีเจสัน ฟลอนท์ มารับบทแสดงเป็นโมชั่นแคปชั่นให้ตัวละครลีออน
เกิดอะไรขึ้นในหนังภาค Resident Evil: Vendetta
นี่คือภาคที่ได้สองตัวละครสุดหล่อจากเกมมาเจอกันบนจอหนังเป็นครั้งแรกอย่างคริส เรดฟิลด์และลีออน ในการทำภารกิจครั้งใหม่ ซึ่งอดีตสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. คริส เรดฟิลด์ ปัจจุบันได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของหน่วย BSAA ต้องนำทีมเข้าไปตรวจค้นคฤหาสน์ที่อาจจะมีการลักลอบซื้อขายอาวุธชีวภาพ แต่กลายเป็นว่า ณ ที่นั่นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไวรัสสายพันธ์ใหม่ ส่วน ดร. รีเบ็คก้า แชมเบอร์ อดีตรุ่นน้องหน่วย S.T.A.R.S. และผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์คฤหาสน์สเปนเซอร์ เมื่อปี 1998 (เกมภาคแรก) เธอได้พัฒนาวัคซีนรับมือไวรัสพันธุ์ใหม่แต่เธอก็โดนโจมตีจากผู้ก่อการร้าย จน DSO ได้ส่งเจ้าหน้าที่อย่างลีออนมาสืบคดี
สรุป
ตอนดูจบมันมีอารมณ์หลายอย่างมาก คือดีใจที่ผีชีวะในฉบับตามจักรวาลเกมได้นำตัวละครหลักมารวมกันให้ได้หายคิดถึงอย่างที่หนังคนแสดงทำไม่ได้ ส่วนอีกอารมณ์ก็ออกจะ WTF กับความโม้แหลกของพระเอกและชาวคณะ เพราะในขณะที่เกมภาค 7 ยอมรับความจริงและเลิกทวีความโม้ในแบบภาค 5-6 ลงมาจับความสยองที่คนธรรมดาสัมผัสได้แทน หนังอนิเมชั่นนี้ดันทำตัวเป็นเกมผีชีวะภาค 6.5 ที่ไม่สนใจเลยว่าแฟน ๆ เขาเอือมมันขนาดไหนแล้ว แต่ถ้ามองแบบคนดูหนังทั่วไปหนังก็โม้ได้เว่อแอ๊กชั่นรัว ๆ โคตรบันเทิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น