รีวิว The Naked Director - โป๊ บ้า กล้า รวย
นี่คือหนังย้อนยุคไปยังสมัยแรกเริ่มที่มีสื่อความบันเทิง อย่างเทปคาสเซ็ต หนังสือห่อถุงพลาสติค ที่เรียกว่าเป็นการตลาดสุดเจ๋งในยุคนั้น ก่อนจะถึงการมาของเครื่องเล่นวิดีโอเทป แต่อย่าพึ่งคิดว่าหนังจะดูเก่าๆ เชยๆ นะครับ เพราะแค่แรกเริ่มเปิดเพลงไตเติลมา รับรองความคิดที่ว่าจะหายวับไปทันที รีวิว The Naked Director
เรื่องย่อ
ช่วงเวลาที่สื่อปลุกใจเสือป่ากำลังเบ่งบานและเป็นที่ถกเถียงกันในเชิงกฎหมาย โทรุ มุรานิชิ (ทาคายูกิ ยามาดะ)อดีตเซลล์แมนขายสารานุกรมภาษาอังกฤษได้พลิกโฉมหน้าสื่อสยิวของญี่ปุ่นตั้งแต่หนังสือโป๊ไปยันหนังโป๊ ท่ามกลางอุปสรรคสำคัญคือทัศนคติทางเพศของสังคม กฎหมายและอิทธิพลมืด โชคชะตาได้พาเขาไปพบกับผู้ร่วมอุดมการณ์มากมายโดยหนึ่งในนั้นได้แก่ เมกูมิ (มิซาโตะ มอริตะ) เด็กสาวที่หนีความอึดอัดของครอบครัวสู่นางเอกเอวีคู่บุญ
ต้องยอมรับว่าแว่บแรกที่เห็นตัวอย่างซีรีส์เรื่องนี้ก็กระตุ้นต่อมความสนใจของคนดูได้อย่างชะงัดนัก เพราะต่อให้เราจะเติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูแบบไหน แต่เชื่อว่าซักครั้งหนึ่งในชีวิตย่อมต้องเคยมีประสบการณ์แอบดูหนังโป๊ที่ฝั่งอนุรักษ์นิยมมักตีตราคำว่าสื่อลามกและอยากให้เราหลีกเลี่ยง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนังโป๊มีบทบาทในการเรียนรู้เรื่องเพศของทุกคน
เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เราค้นพบความใคร่และรสนิยมทางเพศในตัวเอง และสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนอย่างที่มาของหนังเอวีญี่ปุ่นที่หนุ่มๆชอบดูนั้นกลับเคลือบแฝงด้วยที่มาของธุรกิจทั้งด้านมืดด้านสว่างและประวัติศาสตร์การต่อสู้กับอคติทางเพศในสังคมญี่ปุ่นอย่างดุเดือด ซึ่งในซีรีส์ The Naked Director ได้บอกเล่าที่มาที่ไปและเรื่องราวที่เราไม่เคยรู้ได้อย่างน่าสนใจทั้ง 8 ตอนเลยล่ะ
The Naked Director โป๊ บ้า กล้า รวย หนังซีรีส์ญี่ปุ่น Original Netflix ที่อ้างอิงจากเรื่องจริงของผู้กำกับดูหนังสด AV รุ่นบุกเบิก “โทรุ มุรานิชิ” ที่กล้าท้าทายกฎหมายและค่านิยมของสังคมญี่ปุ่นในสมัยที่พึ่งเริ่มมีธุรกิจหนังโป๊ในยุคแรก ซึ่งที่เราเห็นวงการหนัง AV ในญี่ปุ่นรุ่งเรืองในปัจจุบัน นั่นก็มาจากการบุกเบิกแนวทางใหม่ๆ ของผู้กำกับคนนี้นี่แหละครับ นี่ไม่ใช่แค่หนังเบื้องหลังวงการหนังโป๊ที่ละเอียดลึกซึ้ง (ถึงขนกันเลย)
แต่ยังเป็นหนังที่พาคนดูไปพบเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ร่วมสมัยหลายอย่าง เช่น เหตุการณ์ในยุคสมัยโชวะก่อนพระจักรพรรดิญี่ปุ่นสิ้นพระชนม์ รวมไปถึงสงครามเครื่องเล่นวิดีโอเทป Betamax vs. Video Home System (VHS) วงการยากูซ่า การเรียกร้องสิทธิสตรี และไปไกลถึงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกากันขนาดนั้นเลย ซึ่งทุกเรื่องเกี่ยวพันกับวงการหนัง AV ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ด้านเนื้อเรื่อง
นี่คือหนังย้อนยุคไปยังสมัยแรกเริ่มที่มีสื่อความบันเทิง อย่างเทปคาสเซ็ต หนังสือห่อถุงพลาสติค ที่เรียกว่าเป็นการตลาดสุดเจ๋งในยุคนั้น ก่อนจะถึงการมาของเครื่องเล่นวิดีโอเทป แต่อย่าพึ่งคิดว่าหนังจะดูเก่าๆ เชยๆ นะครับ เพราะแค่แรกเริ่มเปิดเพลงไตเติลมา รับรองความคิดที่ว่าจะหายวับไปทันที เพราะนี่คือหนังที่สร้างออกมาได้เก๋ไก๋มากทุกองค์ประกอบ
หนังมีสีสันทุกช่วงเวลา แทบไม่มีจังหวะหาวน่าเบื่อหรือยืดเยื้อแบบซีรีส์ตะวันตกเลยสักช่วง บทหนังผูกเรื่องราวของวงการ AV เข้ากับประเด็นต่างๆ ในสังคมได้อย่างน่าสนใจ ทำให้เราเห็นการวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ไม่ใช่แค่มุมของหนังโป๊ แต่ทำให้เห็นว่านี่เป็นเรื่องของเสรีภาพทางความคิด และการเปิดเผยตัวตนของคนที่เชื่อว่า เรื่องธรรมชาติของมนุษย์ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ซึ่งตัวเอกผู้กำกับ “โทรุ มุรานิชิ” ผู้ที่เคยเป็นแค่พนักงานขายดิคชันนารีอังกฤษตามบ้าน จากเซลล์ต๋อกต๋อยกลับกลายมาเป็นนักการตลาดและนักขายชั้นยอดได้กับทุกเรื่อง
แค่เขาเลือกเส้นทางขาย “ความใคร่ของมนุษย์” ที่ดูเป็นเรื่องปกปิดน่าอาย แต่เขากลับนำมันขึ้นมาเปิดเผย ตรงไปตรงมากับความต้องการของมนุษย์ผู้ชายทุกคนที่อยากมี อยากดู อยากฟังในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งสมัยนั้นในวงการยังพึ่งเริ่มจากการอัดเสียงเสียวลงเทปคาสเซ็ตขาย ซึ่งตัวมุรานิชิก็ไม่ได้ขายแบบธรรมดา แต่เขาแปะป้ายขายเรื่องให้โลดโผนไปกว่าที่เป็นจริง
เป็นพรสวรรค์ของมุรานิชิที่มีลูกบ้าเกินคนธรรมดามาก นั่นช่วยทำให้งานขายความใคร่+จินตนาการของเขาสำเร็จตั้งแต่แรกเริ่มเทปเสียว จวบจนมาถึงวงการหนังสือโป๊ที่ต้องห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติค พร้อมกับมีโมเสกเซ็นเซอร์ปิดอวัยวะเพศไว้ตามกฎหมาย ขนาดที่ต้องวัดกันเป็นมิลลิเมตรว่ามีอะไรแพลมๆ ออกมาบ้างไหม ซึ่งมุรานิชิก็หาทางออกซิกแซกกฎหมาย ยกระดับวงการหนังสือโป๊ให้กลายเป็นแฟรนไชส์ทำรายได้ให้เขาอย่างงดงาม
แต่ใช่ว่าเส้นทางของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ในวงการก็มีเจ้าถิ่น มีนายทุนเงินหนาอย่าง “โพไซดอนโปรดักชั่น” ที่เติบโตมาในยุคแรกๆ พร้อมกัน และใช้นายตำรวจกังฉินมาขัดแข้งขัดขาในรูปแบบที่หลับตาข้างหนึ่งให้โปเซดอน แต่เตะตัดขาเล่นงานบริษัทของมุรานิชิด้วยวิธีทางกฎหมายทุกทาง ซึ่งในยุคนั้นกฎหมายเกี่ยวกับการเซนเซอร์ด้วยโมเสกเป็นอะไรที่เข้มงวดมากๆ การเปิดเผยให้เห็นอวัยวะเพศผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง นั่นทำให้ลูกบ้าของมุรานิชิที่ต้องเล่นจริง เปิดจริง เสียบจริง เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายเต็มๆ แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่าเขาอยากผิดกฎหมาย แต่ด้วยความเชื่อในเรื่องการเปิดเผยทางเพศของเขามันไม่สอดคล้องกับสังคมญี่ปุ่นในยุคนั้น
ซึ่งต่อมาภายหลังเราก็ได้รู้แล้วว่าสังคมญี่ปุ่นเปิดเผยก้าวล้ำในเรื่องนี้แค่ไหน ก็ต้องนับว่าได้เขาคนนี้แหละที่ยอมเอาตัวเข้าแลกเสี่ยงคุกตะราง ซึ่งไม่ใช่แค่กำกับ แต่ลงทุนเล่นเองถ่ายเอง เปิดเผยตัวตนจนถึงขนตูด (ในเรื่องแกบอกแบบนี้จริงๆ) จนทำให้สังคมญี่ปุ่นเปิดกว้างยอมรับในเรื่องเหล่านี้ได้ในที่สุด
The Naked Directorไม่ใช่เรื่องราวของผู้กำกับมุรานิชิเพียงคนเดียว แต่การที่ญี่ปุ่นเปิดเผยในเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจากพลังเรียกร้องทางสังคมของ “คาโอรุ คุโรกิ” นางเอก AV คนแรกที่โด่งดังจากการไว้ “ขนรักแร้” อย่าพึ่งงงว่าขนรักแร้มาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เพราะมันเกี่ยวเต็มๆ และเกี่ยวอย่างไม่น่าเชื่อกับการปฏิวัติภาพลักษณ์ของนักแสดง AV สมัยก่อนต้องแอบซ่อนตัวตนไม่เปิดเผย ไม่มีการโชว์ตัวเดินสายแจกลายเซ็นต์อะไรแบบปัจจุบัน
ซึ่งคุโรกิที่มาจากบ้านคุณหนูเรียบร้อย เคร่งจารีตประเพณี กลับกลายเป็นเด็กเก็บกดทางเพศที่โตมาจนต้องมาระเบิดความหิว SEX ผ่านหนังของมุรานิชิที่บ้าพอกัน จนกลายมาคู่ขวัญในวงการทั้งผู้กำกับและนักแสดง ทำเอาวงการหนังโป๊ปลอม (มีเทปปิดอวัยวะเพศ) ต้องยอมเปิดจริงเล่นจริงตามกันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะผิดกฎหมายแต่ก็จ่ายหนักให้ตำรวจแลกกันไป หรืออีกทางก็คือลงใต้ดินผ่านยากูซ่า ซึ่งหนังก็พาไปให้เห็นโลกใต้ดินของวงการหนังโป๊อีกทาง ที่ไม่แคร์ว่าจะทำลายใครก็ได้ ขอแค่ให้ได้เงินมาเป็นพอ
ด้านการดำเนินเรื่อง
นี่เป็นหนังที่เดินเรื่องได้อย่างสนุกทุกจังหวะ การแสดงถึงลูกถึงขน เร่งเร้าเรื่องเดินไปข้างหน้า แทบไม่มีจังหวะอืดยืิดยาดให้เห็นเลย ทุกย่างก้าวของเรื่องจะพาผู้ชมไปพบกับเรื่องราวและมุมมองใหม่ๆ ที่แม้แต่ในยุคนี้ก็ต้องยอมซูฮกกับไอเดียบรรเจิดของผู้กำกับในเรื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่การขายเนื้อหนังมังสาแล้วจะไปรอดได้ เรายังได้เห็นเรื่องราวกลยุทธ์การตลาดที่แพรวพราวหลายอย่างในเรื่องอีกด้วย หนังเดินเรื่องด้วยกลเม็ดทีเด็ดบ้าๆ แบบเดาไม่ออก เหมือนกับที่ลูกทีมของมุรานิชิยอมทำงานกับเขา ก็เพราะความบ้าเกินจนเดาไม่ออกทำให้ทำเงินได้นี่แหละ สมกับชื่อเรื่อง โป๊ บ้า กล้า รวย เพราะนี่เป็นพรสวรรค์ทางธุรกิจในระดับสุดยอดเกินคนปกติจริงๆ
แต่หนังก็ไม่ได้มีแค่ด้านรุ่งเรืองของเขา หนังยังพาไปยังจุดต่ำสุดของเขาด้วยเช่นกัน ซึ่งก็กลายมาเป็นประเด็นฉาวข้ามโลกไปถึงอเมริกา หรือแม้แต่การเล่มสลายของอาณาจักรผู้จัดจำหน่ายหนังโป๊จากกรณีพระจักรพรรดิญี่ปุ่นก่อนสิ้นพระชนม์ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกี่ยวกันได้ แต่ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นเป็นสัจธรรมที่ว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรือทำธุรกิจได้รุ่งเรืองตลอดไป หนังเก็บรายละเอียดเรื่องราวของยุคสมัยโชวะถึงเฮเซ (ยุค 70s – 80s) มาร้อยเรียงกับประวัติศาสตร์หนัง AV ได้อย่างแนบเนียน สนุกสนาน เหลือเชื่อว่าจะไปกันได้ดีจริงๆ ครับ
โดยรวม
สำหรับคนที่คิดว่าจะดูหนังเรื่องนี้ในแบบแนวเสียวก็บอกเลยว่า หนังเปิดเผยเรือนร่างกันเกือบหมด เรียกว่าถ้าจะดูแนะนำว่าต้องอยู่บ้านคนเดียว ลดเสียงลงมาจะดีกว่าครับ เพราะหนังทุกตอนจะต้องมีเสียวเกี่ยวกับฉาก Sex ครางลั่นกันทุกตอน แถมยังเน้นบิ้วอารมณ์จนซีรีส์เรื่องนี้ถูกจัดหมวดกลายเป็นหนังโป๊เลยก็ยังได้
แต่ว่าเป็นหนังโป๊ที่มีกึ๋นในการเล่าเรื่องราวพร้อมดูหนังผ่านเน็ตกับฉาก SEX ไปพร้อมกัน แบบละสายตาไม่ได้ แถมยังตลกได้ใจอีกต่างหาก และก็ไม่ได้มีฉากที่ใส่มาแบบยัดเยียดแต่อย่างใด ทุกอย่างมีที่มาที่ไปหมดแม้แต่เสียงครางเบาครางหนัก หรือนิ้วนางเอก AV ในเรื่องก็แสดงออกเพื่อใช้บ่งบอกอารมณ์เสียวได้เป็นอย่างดี
สรุป
สำหรับเรื่องนี้ไม่รู้จะตำหนิหรือติอะไรได้เลยจริงๆ 5555 เพราะหนังทำได้สุดทางในแนวทางของเรื่องจริงๆ แต่อาจจะมีบางประเด็นจบแบบค้างนิดๆ หรือคนดูนั่นเองที่ยังอยากให้มีซีซั่นต่อไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้อเสีย แค่คนดูรู้สึกยังจบไม่ลงจริงๆ กับการผจญภัยแบบบ้าสุดๆ ในโลกหนังโป๊ของผู้กำกับ “โทรุ มุรานิชิ” คนนี้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น