รีวิว Abominable เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก
ผลงานล่าสุดจากดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น สตูดิโอผู้สร้าง How To Train Your Dragon ที่จะพาผู้ชมไปผจญภัยสุดยิ่งใหญ่บนเส้นทาง 2 พันไมล์ จากเซี่ยงไฮ้สู่เทือกเขาหิมาลัย ยี สาววัยรุ่น (โดลอี้ เบนเนทท์ จาก Marvel’s Agents of S.H.I.E.L.D. )
บังเอิญพบเยติบนหลังคาอพาร์ทเมนต์ของเธอในเซี่ยงไฮ้ เธอและเพื่อน ๆ จอมกวน ทั้ง จิน (เทนซิง นอร์เกย์ เทรนเนอร์) และเพ็ง(อัลเบิร์ต ซาย) ตั้งชื่อว่า “เอเวอเรสต์” และออกผจญภัย เพื่อพาเยติกลับไปพบกับครอบครัวที่จุดสูงสุดของโลก ทั้ง 3 คนต้องเผชิญหน้ากับเบอร์นิช (เอ็ดดี้ อิซซาร์ด) เศรษฐีที่ตั้งใจจะจับตัวเยติและนัสัตววิทยา ดร.ซาร่า (ซาร่าห์ พอลสัน)เพื่อช่วยเอเวอร์เรสต์กลับบ้าน รีวิว Abominable เอเวอเรสต์ และ ดูหนังชัด
เรื่องย่อ
หลังใช้ชีวิตอย่างเด็กแปลกแยกเพราะสูญเสียพ่อในที่สุด หยี่ (พากย์โดย โคลอี เบนเนต)ก็ได้พบมิตรภาพสุดแปลกประหลาดกับเอเวอเรสต์ เยติที่หลุดจากห้องทดลองของ เบอร์นิช (พากย์โดย เอดดี อิซซาร์ด) มหาเศรษฐีที่สะสมสัตว์แปลกๆ
หลังใช้ชีวิตอย่างเด็กแปลกแยกเพราะสูญเสียพ่อในที่สุด หยี่ (พากย์โดย โคลอี เบนเนต)ก็ได้พบมิตรภาพสุดแปลกประหลาดกับเอเวอเรสต์ เยติที่หลุดจากห้องทดลองของ เบอร์นิช (พากย์โดย เอดดี อิซซาร์ด) มหาเศรษฐีที่สะสมสัตว์แปลกๆ
จนกระทั่งเจ้าเอเวอเรสต์ถูกตามล่าภารกิจพาเพื่อนกลับบ้านสุดวายป่วงที่พ่วง จิน (พากย์โดย เทนซิง นอร์เกย์ เทรเนอร์)เพลย์บอยหนุ่มติดโซเชียล และ เผิง (พากย์โดย อัลเบิร์ต ไช่) หนุ่มตุ้ยนุ้ยที่ฝันอยากเป็นนักบาสเก็ตบอล งานนี้ทั้ง 2 หนุ่ม 1 สาวและเจ้าเยติจะได้เดินทางบนเส้นทางที่จะพิสูจน์มิตรภาพและความหมายของคำว่าครอบครัว
Abominable คือผลงานเต็มตัวเรื่องแรกของ Pearl Studio บริษัทร่วมทุนระหว่างดรีมเวิร์ค แอนิเมชัน กับ ซีเอ็มซี (CMC หรือ China Media Capital)ตั้งแต่ปี 2012 หลังจากทางดรีมเวิร์กได้พัฒนากำลังคนร่วมกับทางแอนิเมเตอร์ชาวจีนและได้ฝึกปรือฝีมือผ่านการช่วยงานส่วนเสริมในฉากต่างๆของแฟรนไชส์แอนิเมชันของดรีมเวิร์กมาช้านานอาทิ How to train your dragon 2 และ Kungfu Panda 3
และในเมื่อฝีมือและการทำงานทุกอย่างเข้าฝักแล้วโพรเจกต์ Abominable จึงกลายเป็นพื้นที่ปล่อยของทีมงานเพิร์ลอย่างแท้จริง เพียงแต่อยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของมืออาชีพวงการแอนิเมชันฮอลลีวูดนำโดย จิล คัลตัน ผู้กำกับสาวที่ผ่านการร่วมงานมาทั้งพิกซาร์ และ โซนี่ แอนิเมชันรับหน้าที่กำกับควบเขียนบท และ ทอดด์ วิลเดอร์แมน ในฐานะผู้กำกับร่วม
ซึ่งข้อดีสำคัญคืองานภาพที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามดูเป็นงานฮอลลีวูดมากกว่างานจีนที่ดูไม่น่าดึงดูดใจแบบ Legend of a Rabbit และยังทำให้การเล่าเรื่องดูเป็นสากลแต่สามารถสอดแทรกวัฒนธรรมและเนื้อหาส่งเสริมการท่องเที่ยวจีนตามใบสั่งได้อย่างไม่ขัดเขิน
ความบันเทิงที่ Abominable ให้คนดูแน่ๆคือการเล่าเรื่องที่ดูสนุก ฉากแอ็กชันแฟนตาซีตื่นตาและมุกตลกที่สอดแทรกมาแทบทั้งเรื่องพ่วงตัวขโมยซีนเรียกเสียงหัวเราะ (ที่คราวนี้มาเป็นงู ดูวู๊บ (ผลุบโผล่) ที่ได้ไปหลายฮาเหมือนกัน) เหมือนหนังแอนิเมชันของดรีมเวิร์กที่เราคุ้นเคย
ทั้งเรื่องการผจญภัยเพื่อพิสูจน์คุณค่าของตัวเองเหมือน How to train your dragon ความสำคัญของครอบครัวเหมือน Shrek หรือกระทั่งอัตลักษณ์ความเป็นจีนที่ดรีมเวิร์คเคยถ่ายทอดมาแล้วจากไตรภาค Kungfu Panda ซึ่งถือว่าส่งอิทธิพลและเป็นแรงต่อยอดไม่น้อยให้เกิดโพรเจกต์ Abominable นี้ ซึ่งแม้ทีม “หัว” จะเป็นฝรั่งแต่ในเมื่อต้องทำตามใบสั่ง เราจึงได้เห็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมจีนในระดับเข้มข้น เช่น การเรียกสรรพนามในครอบครัวก็ใช้คำจีนแทรกทั้ง หม่าม้า และ ไหน่ไน้ (อาม่า) หรือแม้แต่ชื่อนางเอกอย่าง หยี่ ที่พ้องเสียงได้ทั้งเลข 1(อี้)
เพื่อแทนความโดดเดี่ยวของตัวละคร และยังพ้องกับ ปลา (อวี๋)ในภาษาจีน ซึ่งกรณีหลังบทหนังยังจงใจเอาภาษิตจีนโบราณเกี่ยวกับปลาที่ว่ายทวนน้ำเพื่อกลับบ้านมาใช้เป็นบทสนทนาเพื่อให้บทเรียนนางเอกได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย และแน่นอนสิ่งที่จะขาดไม่ได้คือเนื้อหาส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ต้องยอมรับว่าดูแล้วอยากแพ็คกระเป๋าตีตั๋วไปเที่ยวทันทีเหมือนกันทั้งภูเขาหวงซาน แม่น้ำแยงซี และแน่นอนไฮไลต์ของเรื่องอย่างพระใหญ่เล่อซาน ที่นางเอกและเพื่อนๆได้ร่ายมนต์จนเกิดฉากสวยงามน่าประทับใจอีกด้วย
แต่ถึงจะออกแบบคาแรกเตอร์ได้ดูตี๋หมวยแค่ไหน แต่ทีมพากย์ก็ยังเน้นน้ำเสียงที่ให้อารมณ์ตัวละครเป็นสำคัญมากกว่าการแคสต์นักแสดงจีนมาพากย์ซึ่งถือเป็นข้อดีของหนังตั้งแต่ โคลอี เบนเนต ขวัญใจหนุ่มๆจากซีรีส์ Agents of Shield ที่มาให้เสียง หยี่ นางเอกสาวผู้แปลกแยกจากสังคม ส่วนตัวละครอื่นๆก็ได้ทั้งเสียงหล่อๆของ เทนซิง นอร์เกย์ เทรเนอร์ ในบท จิน และ อัลเบิร์ต ไช่ ในบทเผิง ตัวละครตุ้ยนุ้ยเรียกเสียงหัวเราะของเรื่อง
ถือเป็นไฮไลต์สำคัญคือการออกแบบเสียงของ เอเวอเรสต์ที่เลือกใช้เสียงเบสแบบการร้องประสานเสียงแทนการออกแบบให้ดูเป็นสัตว์ป่า ซึ่งหนังก็ได้เสียงของ โจเซฟ อิซโซ ที่ผ่านงานพากย์แอนิเมชันมาหลายเรื่องมาให้เสียงที่ถูกออกแบบให้กลมกลืนไปกับเสียงไวโอลินที่ หยี่ เล่นจนเกิดเสียงอันไพเราะน่าประทับใจ แถมยังไปกันได้ดีกับดนตรีประกอบของ รูเพิร์ต เกรกสัน วิลเลียมส์ จนทำให้งานเพลงประกอบของ Abominable ช่วยเสริมอารมณ์ให้เรื่องราวได้เป็นอย่างดี
Abominable ถือเป็นแอนิเมชันที่แสดงให้เห็นศักยภาพของจีนในการผลิตงานที่อาจส่งอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์ในอนาคต โดยแม้ว่าจะยังต้องอาศัยสตูดิโอฮอลลีวูดในด้านการคุมคอนเทนต์อยู่ แต่เชื่อว่าไม่นานเลย เราอาจเห็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดดของจีนในการเป็นผู้นำแอนิเมชันอย่างน้อยก็ในเอเซีย โดยหนังมีข้อติติงเพียงเล็กน้อยเรื่องบทที่อาจยังมีช่องโหว่อยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมถือเป็นแอนิเมชันที่จะทำให้คนดูหลงรักได้ไม่ยากเลยทีเดียว
สรุป
ถ้าหากว่าสุดสัปดาห์นี้ไม่รู้จะทำอะไรดี เว็บสตรีมหนัง แนะนำแวะมาดู Abominable เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เด็กๆ น่าจะชอบ ผู้ใหญ่ก็ดูได้ คิดว่ามาฟังเพลงเพราะๆ ดูภาพวิวทิวทัศน์สวยๆ ของเมืองจีนก็คุ้มแล้ว ที่สำคัญก็คือ วิธีเล่าเรื่องของ Abominable เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก ก็ทำออกมาได้ดี น่าติดตาม แถมยังมีจุดหักมุม จากคนดีเป็นคนร้าย คนที่คิดว่าจะร้ายกลับกลายเป็นคนดี ดูกันได้เพลินๆ ไม่รู้สึกเบื่อ หรือเกิด Dead Air ระหว่างดู ตอนจบก็โอเคเลยเดียว
อ่อ ขอเตือนไว้หน่อยว่าในฉากเอนด์เครดิตที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับซ่อนความฮาไว้ในภาพถ่ายได้อย่างแนบเนียนและเป็นการสรุปเรื่องให้สมบูรณ์ขึ้น อย่ารีบลุกกันนะจ๊ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น