วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

The Peanut Butter Falcon

รีวิว The Peanut Butter Falcon คู่ซ่าบ้าล่าฝัน

ถือเป็นหนัง Road Movie ม้ามืดที่ถูกจับตามองอย่างมาก โดยเฉพาะการเป็นโพรเจ็กต์ที่นำนักแสดงดาวน์ซินโดรมจริง ๆ มาเป็นตัวละครหลัก โดยมีที่มาจากการที่สองผู้กำกับอย่าง Tyler Nilson และ Michael Schwartz ไปค้นพบ Zack Gottsagen จากการเข้าค่ายนักแสดงพิการ ซึ่งหนุ่ม Zack มีไฟอยากเป็นนักแสดงมาก ถือเป็นโจทย์ท้าทายและเรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจหลัก ๆ ที่หนังเรื่องนี้เกิดขึ้นได้เลย รีวิว The Peanut Butter Falcon  ดูหนังชัด

เรื่องย่อ
หนัง The Peanut Butter Falcon หรือชื่อไทยว่า คู่ซ่าบ้าล่าฝัน ทายเลอร์คนจรหมอนหมิ่นที่หนีคดีความมา และได้พบกับเด็กหนุ่มดาวน์ซินโดรมที่หนีออกจากสถานดูแล เพราะใฝ่ฝันอยากเป็นนักมวยปล้ำอาชีพที่มีชื่อเสียง ทำให้ทั้งคู่ได้ออกผจญภัยร่วมกัน ระหว่างทางทั้งคู่ได้พบกับพยาบาลสาวแสนน่ารักชื่ออีเล็นเนอร์ ที่พยายามตามหาเด็กหนุ่มให้กลับไปยังสถานดูแลผู้ป่วย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอต้องออกร่วมผจญภัยไปกับทั้งคู่บนแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ด้วยกัน เพื่อไปยังโรงเรียนสอนมวยปล้ำที่ดูแลโดยอดีตนักมวยปล้ำตามที่เด็กดาวน์ซินโดรมตั้งใจไว้
หนังฟอร์มเล็กขวัญใจมหาชนที่สุดแสนอบอุ่นหัวใจ ที่เกิดจากผู้กำกับไปเจอแซ็กเด็กดาวน์ซินโดรมที่ฝันอยากมีอาชีพเป็นนักแสดง ก็เลยตัดสินใจเขียนบทเรื่องนี้มาเพื่อเขาโดยเฉพาะ ให้เล่นหนังเรื่องนี้ได้ตามฝันที่อยากเป็นนักแสดงสักครั้ง ในบทของเด็กดาวน์ซินโดรมที่อยากเป็นนักมวยปล้ำดาวร้ายจากวิดีโอเทปมวยปล้ำเก่าที่นั่งดูทุกวี่วันในบ้านพักคนชรา

ซึ่งเขาไม่อยากติดแหง่กอยู่ที่นี่เพียงแค่เพราะรัฐส่งมาทิ้งไว้หลังกำพร้าพ่อแม่ จึงหนีออกมาและก็ได้พบกับ “ไทเลอร์” ชายไร้บ้านที่ชีวิตล้มเหลวหลังจากพี่ชายตายจากไปทิ้งไว้ให้เขาอยู่คนเดียว ซึ่งก็ได้ไชอาลาบัพ (Shia LaBeouf) กลับมาเล่นหนังหลังจากหายหน้าไปนาน (เพราะปัญหาส่วนตัวกับวงการ)

ซึ่งเขาเล่นได้สุดยอดมากในบทที่ต้องแบกรับความโดดเดี่ยวหลังขาดพี่ชายจนชีวิตไร้ทิศทาง และก็ต้องมาแบกรับชีวิตของเด็กดาวน์ซินโดรมอีกคน ในขณะที่ตัวเขาเองก็ถูกตามล่าจากคดีที่ก่อโดยชั่ววูบ นั่นทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นการสอนใช้ชีวิตจริงให้เด็กพิเศษที่ต้องถูกกักขังความฝัน เพียงเพราะทุกคนมองเขาเป็นคนปัญญาอ่อน ไม่มีทางไปตามฝันอะไรได้ (ในสายตาคนปกติ)ทำให้ไทเลอร์ได้เหมือนกลับมามีครอบครัว และกลายเป็นพี่ชายของเด็กอีกคนหนึ่งที่ต้องช่วยทำตามฝันที่ทุกคนมองว่าเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นจริงขึ้นมา

แม้หนังจะเดินเรื่องด้วยการใช้แซ็กที่เป็นเด็กดาวน์ซินโดรมจริงๆ แต่บทไทเลอร์คือผู้ที่แบกหนังไว้ทั้งเรื่อง การแสดงของไชอาลาบัพเรียกได้ว่าสมจริงมากกับบทคนจร ถ้าไม่ดูชื่อนักแสดงนี่แทบจำไม่ได้เลยว่าเป็นเขา ไชอาคือบทชายผู้ที่พยายามให้ทุกคนมองว่า แซ็กไม่ใช่เด็กที่มีปัญหาจนต้องช่วยเขาทุกอย่าง

ซึ่งนั่นทำให้เขายิ่งกลายเป็นคนไม่ปกติไป ทั้งๆ ที่เขาพยายามทำให้ตัวเองเป็นคนปกติ บทที่ไชอาได้รับกลายเป็นบทที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก เหมือนเป็นตัวแทนให้เด็กดาวน์ซินโดรมจริงๆ ได้สื่อสารออกไปให้คนปกติทั่วได้รับรู้ว่าพวกเขาก็มีความฝันอยากมีอาชีพแบบคนปกติเช่นกัน แม้จะถูกมองว่าทำไม่ได้หรอก ก็ควรจะให้เขาได้โอกาสพิสูจน์

เหมือนกับที่แซ็กตัวจริงฝันอยากเป็นนักแสดง และก็ได้แสดงจริงๆ ในบทที่เหมือนเล่นเป็นตัวเอง แต่เปลี่ยนจากนักแสดงมาเป็นมวยปล้ำ ซึ่งก็คือการแสดงแบบหนึ่งเช่นกัน และแซ็กก็ได้เรียนรู้กับมวยปล้ำจริงๆ ว่าเป็นยังไง หนังพาไปพบกับช่วงเวลาที่อบอุ่น ซาบซึ้งกับมิตรภาพที่ทั้งคู่ต่างแลกให้กันในแบบที่ต่างคนก็ต่างคาดไม่ถึงว่าจะได้รับ ซึ่งแซ็กเองก็ถือว่าสอบผ่านเช่นกับการเป็นนักแสดงหน้าใหม่ครั้งแรกนี้ แม้จะยังมีขัดๆ เขินๆ อยู่บ้างก็ตาม

ส่วนเอลีนอร์บทที่แสดงโดยนางเอกฟิฟตี้เชดเกรย์ Dakota Johnson เป็นบทสมทบที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูสดใสขึ้นมาเป็นกอง แต่ก็ไม่ใช่บทที่ใช้แค่หน้าตาสวยๆ ของเธอเท่านั้น อลีนอร์คือสาวผู้จบมหาลัยชั้นนำ เรียนรู้ทุกอย่างจากตำรา เรียนจิตวิทยามา และก็พยายามจะเข้าใจทุกอย่างในแบบตามตำราซึ่งเธอเห็นว่าถูกต้อง

แต่กลับต้องมาเจอการสอนของไทเลอร์ ผู้เป็นคนจรไร้ที่ซุกหัวนอน แต่เปี่ยมด้วยพลังในการใช้ชีวิตรอด ซึ่งการที่ไทเลอร์สอนอะไรห่ามๆ ให้แซ็กในสายตาเธอก็เหมือนกับว่าไทเลอร์ไม่รู้จักคนเป็นดาวน์ซินโดรมดีพอ แต่แซ็กกลับทำให้เธอเห็นว่าตำราไม่ได้ถูกเสมอไป และการที่ลองให้เด็กได้ดิ้นรนทำอะไรเอง ในขณะที่เราเป็นเพียงแค่ผู้คอยประคอง น่าจะดีกว่าการจับมือเด็กทำอะไรตามที่ตัวเราคิดว่าดีแบบที่เอลีนอร์ทำมาทั้งชีวิต

The Peanut Butter Falcon เป็นเรื่องราวของ Zack เด็กดาวน์ซินโดรมที่เดินตามหาฝันอยากเป็นนักมวยปล้ำ หลังจากได้แรงบันดาลใจจากวีดิโอมวยปล้ำเก่า ๆ ที่เขาได้ดูในสถานดูแล จนมาวันหนึ่ง Zack ก็หลบหนีออกมาได้สำเร็จในสภาพเปลือยเปล่าเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว เขาออกตามหาไอดอลในวงการมวยปล้ำที่ชื่อ the Salt Water Redneck (Thomas Haden Church) ที่เขาเห็นในวีดิโอตั้งแต่เด็ก ๆ และต้องการจะเรียนมวยปล้ำเพื่อไปเป็นนักมวยปล้ำอาชีพให้ได้ แม้ว่าตัวเองจะเป็นเด็กพิเศษก็ตาม ซึ่งแรงบันดาลใจตรงนี้ก็ปรับแต่งจากชีวิตจริงของ Zack ที้อยากเป็นนักแสดงฮอลลีวูดนั่นเอง

และที่น่าสนใจก็คือ การได้แคสต์ทั้ง Shia LaBeouf ที่กลับมารับงานอีกครั้งหลังจากที่เราแทบจะไม่ได้เห็นเขาเลย นอกเหนือจากข่าวแย่ ๆ ในช่วงหลัง ๆ จากปัญหาชีวิตของเขา โดยเขากลับมารับบทเป็น Tyler คนจรจัดที่หนีคดีความมาหางานก๊อกแก๊กแถบท่าเรือ และจับrลัดจับผลูต้องมาร่วมเดินทางข้ามแม่น้ำมิสซิสซิปปี้กับ Zack ไปด้วย ซึ่งด้วยลุคเซอร์จัด ๆ เถื่อน ๆ รุงรัง ๆ ของ Shia ในเรื่องนี้ กลับ contrast กับคาแรกเตอร์ของ Zack แล้วลงตัวเกินคาด หลายคนเคยมองเขาว่ามีจุดบอดตรง ‘หน้าเด็ก’ ไปหน่อย กับตัวละครที่เป็นผู้ใหญ่มาก ๆ แต่กับเรื่องนี้ลงตัวดีกับเขามาก (บท Tyler ละม้ายคล้ายกับหนังเรื่อง Holes) ผมชอบบทของทั้ง Shia และ Dakota ถูกเกลี่ยออกมาพอดี ไม่โดดเด่นเกินหน้าหนุ่ม Zack ที่เป็นหัวใจหลักของหนังเรื่องนี้

ความน่าสนใจของหนังแนวนี้จะอยู่ที่เหตุการณ์ระหว่างทางที่พาไปยังจุดพีค ซึ่งตลอดการเดินทางตั้งแต่ช่วงที่ Elenor (Dakota Johnson) เข้ามาเติมเต็มสีสันให้พาร์ตหลัก (นางดาเมจแรงมากก-โดนตกง่าย ๆ ไม่รู้ตัว…ฮา) ไปจนถึงการปรากฏตัวของตัวละครบางตัวที่พลิกอารมณ์ของหนังได้วูบวาบ และชวนลุ้นได้กำลังดี แถมอีกชุดที่ชอบคือการสอดแทรกมุกตลกให้ได้ฮาอยู่เรื่อย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ

บทสรุปในเรื่องของ The Peanut Butter Falcon ถือเป็นหนังที่กลมกล่อมและเป็นธรรมชาติดีตั้งแต่บทยันเคมีนักแสดง ให้อินเนอร์ราวกับว่าพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ ระหว่างทางที่ทั้ง 3 เดินทางไปยังโรงเรียนสอนมวยปล้ำนั้น เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่หนังเลือกนำมาทดสอบความสัมพันธ์ และการเดินเรื่องให้คนดูออกไปเป็นผู้สังเกตเห็นพัฒนาการการเรียนรู้แง่มุมของกันและกันในชีวิต 

ซึ่งต้องชมเลยว่าสิ่งที่ Zack แสดงออกมานั้นมันทำให้หนังทรงพลังขึ้นมาก ๆ แถมสะท้อนจิตใจของมนุษย์ลึก ๆ ว่า หากทุกคนมีความเมตตา อะลุ่มอล่วย ให้พื้นที่สำหรับความผิดพลาดกันและกัน โลกจะน่าอยู่ขึ้นเยอะ เหมือนที่เรามองและแสดงออกกับเด็กพิเศษ เพราะใจเราโฟกัสไปที่ทำความเข้าใจกับเขามากกว่ามองเอาความต้องการตัวเองเป็นศูนย์กลาง
และเมสเซจที่ทรงพลังที่สุดของเรื่องเลยก็คือ ครอบครัว ไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อแม่ลูกที่มาจากเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน แต่หากอยู่กับสังคมไหนแล้ว ได้ดูแลกัน จุนเจือกัน พร้อมจะเข้าใจกัน และอดทนผ่านเรื่องหนัก ๆ ไปด้วยกันได้ นั่นก็เรียกว่าเป็นครอบครัวแล้วเหมือนกัน

สรุป

The Peanut Butter Falcon นี่เป็นหนังเล็กๆ ที่ ดูหนังผ่านเน็ต ว่าเปี่ยมไปด้วยฝันและแรงบันดาลใจ แต่ก็ไม่ได้เพ้อฝันจนเป็นหนังที่เป็นไปไม่ได้ ปลายทางของหนังสวยงาม หนังหาทางออกให้กับความฝันของแซ็กและปัญหาของไทเลอร์ได้ดี แม้จะต้องแลกกับอะไรบางอย่าง สุดท้ายทั้ง 3 คนก็ได้พบเส้นทางใหม่ของชีวิต ในแบบที่ไม่ใช่ตามตำรา หรือแค่ตามความฝันจินตนาการอีกต่อไป เป็นฉากจบปิดท้ายที่แม้จะห้วนไปนิด แต่ก็รู้ปลายทางนั้นอบอุ่นมีความสุขให้กับชีวิตอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น