วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Ride Your Wave 2019

Ride Your Wave 2019

รีวิว Ride Your Wave — คำสัญญา ปาฏิหาริย์รัก 2 โลก

หนัง Ride Your Wave หรือชื่อไทยว่า คำสัญญา…ปาฏิหาริย์รัก 2 โลก “きみと、波にのれたら” หรือ “Ride Your Wave” ภาพยนตร์ลำดับที่ 14 ของ JAPAN ANIME MOVIE THAILAND ภาพยนตร์อนิเมชั่น ระดับรางวัลอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด การันตีด้วยรางวัล Best Animation จาก Shanghai International Film Festival และ Best Animated Feature จาก Fantasia International Film Festival มาร่วมพิสูจน์ความรักของมินาโตะ และ ฮินาโกะ ได้ใน Ride Your Wave วันที่ 17 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ รีวิว Ride Your Wave และดูหนังออนไลน์

เรื่องย่อ
มินาโตะ และ ฮินาโกะ คือหนุ่มสาวที่พบรักกันแบบเรื่องราวบอยมีตเกิร์ล ในดินแดนแห่งสายลมเสียงคลื่นและกระดานโต้คลื่นที่นำพาทั้งสองมาพบกัน เรื่องราวของคู่รักที่ผูกพันด้วยพรหมลิขิตนี้กลับพลิกผันอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อมินาโตะจากไปอย่างกะทันหัน ฮินาโกะผู้ตกอยู่ท่ามกลางความเสียใจก็ได้พบในวันหนึ่งว่าสัญญาที่มินาโตะให้ไว้ว่าจะคอยมาช่วยฮินาโกะอยู่เคียงข้างกันเสมอจนแก่เฒ่านั้น เขายังคงรักษาไว้แม้จะเหลือเพียงภาพวิญญาณที่ปรากฏตัวได้ในน้ำเท่านั้น

Ride Your Wave (Kimi to, nami ni noretara,きみと、波にのれたら) เป็นแอนิเมชันจากญี่ปุ่นที่การันตีคุณภาพด้วยรางวัล แอนิเมชันยอดเยี่ยม จาก Shanghai International Film Festival และรางวัลซาโตชิ คงสำหรับหนังแอนิเมชันยอดเยี่ยม จากเวที Fantasia International Film Festival

โดยเป็นผลงานการกำกับของ ยูอาสะ มาซาอากิ (Yuasa Masaaki) ที่เคยมีหนังแอนิเมชันเข้าฉายในเทศกาลหนังญี่ปุ่นที่จัดในไทยมาแล้วอย่าง Lu over the Wall (2017) ซึ่งก็เป็นผลงานเน้นลายเส้นแปลกตา โดยเป็นการร่วมมือกับมือเขียนบทคู่บุญที่ร่วมงานมาจนถึงเรื่องล่าสุด อย่าง โยชิดะ เรโกะ (Yoshida Reiko) ผู้เคยเขียนบทให้หนังจิบลิอย่าง The Cat Returns เจ้าแมวยอดนักสืบ (2002) และแอนิเมชันรักเรียกน้ำตาที่ดังในบ้านเราเหมือนกันอย่าง A Silent Voice รักไร้เสียง (2016)

ซึ่งใน Ride Your Wave นี้เราจะเห็นพัฒนาการต่อยอดด้านเทคนิคแอนิเมชันภาพ 2D ผสมผสาน 3D ที่ยกระดับขึ้นจากครั้ง Lu over the Wall ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นของคนและการเคลื่อนไหวที่ละมุนขึ้น คุณภาพงานภาพสูงขึ้น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้นไปอีก โดยผสมผสานแนวการ์ตูนตาหวานกับแอนิเมชันอินดี้ลูกผสมได้อย่างลงตัว

โดยเฉพาะมีความสอดคล้องด้านเทคนิคและเนื้อหาอย่างละเมียดละไม ด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับน้ำเป็นสำคัญ การออกแบบลายเส้นทั้งคนและสิ่งต่าง ๆ จะได้อิมเมจของการเคลื่อนที่แบบน้ำไว้ในตัว ทั้งการที่เน้นเส้นโค้งมน การเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนท่าละมุนดั่งหยดน้ำ

ยิ่งเมื่อเป็นฉากที่มีน้ำด้วยแล้วยิ่งพิถีพิถันเป็นการใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิก 3 มิติเข้ามาช่วยได้อย่างลงตัวแนบเนียนไม่ขัดตาเลย จริง ๆ จะบอกว่ารางวัลทั้งหมดทั้งมวลที่แอนิเมชันเรื่องนี้ได้รับ ต้องยกเครดิตมากกว่า 70%-80% ให้กับ งานภาพ ของหนังจริง ๆ เป็นศิลป์สมัยใหม่ที่น่าศึกษาแนวคิดการสร้างตลอดจนกระบวนการต่อยอดพัฒนาคอนเซ็ปต์จนได้หนังที่มีน้ำเป็นธีมได้โดดเด่นจริง ๆ งานภาพสะกดอยู่ได้ตลอด 97 นาทีของหนังตัวจริงเลย

มาด้านเนื้อเรื่อง ต้องบอกว่าคุณเรโกะผู้เขียนเรื่องออริจินัลนี้ ได้ใช้โครงสร้างหนังญี่ปุ่นตามสูตรมาเลย ทั้งความหวานความน่ารักในการพานพบกัน การจากลาอย่างไม่ทันตั้งตัว ตลอดจนฉากการขยี้ที่เก็บงำไว้รอการฮุกอัดต่อมน้ำตาคนดูในตอนท้ายแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ทรงพลัง ซึ่งที่ต้องชมเชยเลยคือฉากท้าย ๆ นี่ล่ะครับ

ความรักของหนุ่มสาวเป็นเรื่องที่วัยรุ่นทุกคนต้องเผชิญ เช่นเดียวกับตัวละครในแอนิเมชั่น Ride Your Wave ที่โฟกัสยังมินาโตะและฮินาโกะ ทั้งสองพบรักกันอย่างรวดเร็วดั่งเป็นพรหมลิขิต แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขกลับสั้นนัก เมื่อทั้งสองต้องพลัดพรากจากกัน เมื่อมินาโตะจากไปจากอุบัติเหตุ ฮินาโกะได้แต่โศกเศร้าเสียใจและคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตของแฟนหนุ่ม จนกระทั่งเธอพบว่ามินาโตะได้รักษาสัญญาที่เขาเคยมอบให้กับฮินาโกะ ว่าจะมาคอยอยู่เคียงข้างในยามที่เธอต้องการเสมอ แต่เขามาปรากฏตัวในรูปแบบของวิญญาณที่จะโผล่ให้เธอเห็นเฉพาะยามที่เธอร้องเพลง Brand New Story ของวง Generations from Exile Tribe เท่านั้น

ถึงแม้ว่า Ride Your Wave จะเล่าเรื่องตามโครงสร้างหนังรักโรแมนติกกระตุกต่อมน้ำตาผู้ชมตามขนบหนังญี่ปุ่นทุกกระเบียดนิ้ว แต่ถึงอย่างนั้นความจงใจในการใส่รายละเอียดรายทาง กลับทำให้หนังเรื่องนี้มอบ ข้อคิดดีๆในเรื่องความพยายามของตัวมินาโตะ หนุ่มวัยรุ่นที่ผันตัวเองไปเป็นนักดับเพลิง เพราะเขาเคยสังเกตว่าชีวิตของเต่าทะเลนั้น กว่าที่พวกมันจะมีชีวิตรอดและเติบโตขึ้นมาได้ พวกมันต้องอาศัยความพยายามในการฟักตัวและสู้กระแสความแรงของคลื่นเพื่อเดินลงทะเลให้ได้

ขณะที่ฮินาโกะกำลังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถอะไรเลย มินาโตะกลับให้กำลังใจและชื่นชมการเล่นกระดานโต้คลื่นอย่างเก่งกาจ จนมินาโตะได้ขอให้ฮินาโกะสอนเขาเล่นกีฬาดังกล่าวบ้าง สองหนุ่มสาวจึงเหมือนส่วนเติมเต็มของกันและกัน แต่แล้วเมื่ออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันที่พรากชีวิตของมินาโตะไป


การกลับมาของมินาโตะในรูปแบบวิญญาณที่ปรากฏตัวอยู่แค่ในน้ำยามที่มินาโตะร้องเพลงนั้น ตอนแรกจึงคล้ายกับการยึดติดในความทรงจำของฮินาโกะที่เธอรู้สึกขาดหายบางสิ่งบางอย่างในชีวิตไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอจึงเริ่มพยายามทำใจและปรับตัวให้ชีวิตของเธอเองเข้ารูปเข้ารอยมากที่สุด จนกระทั่งวันหนึ่งเหตุการณ์ไฟไหม้ตึกครั้งใหญ่ที่เธอแทบจะเอาตัวไม่รอด ทำให้มินาโตะกลับมาช่วยเหลือฮินาโกะเป็นครั้งสุดท้ายและอาจจะหมายถึงการปล่อยวางของตัวฮินาโกะเองด้วย

หลังจากความช่วยเหลือ หนังยังได้อธิบายรายละเอียดให้ผู้ชมเข้าใจอีกว่า แท้ที่จริงแล้วพรหมลิขิตของสองพระนางนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ที่มินาโตะยังเป็นเด็ก เขาได้รับการช่วยเหลือจากฮินาโกะระหว่างที่ออกไปเล่นน้ำทะเลและเกิดจมน้ำ จากวันนั้นเองที่ทำให้มินาโตะอยากจะเติบโตขึ้นมาและผันตัวเองให้กลายเป็นคนที่จะสามารถช่วยเหลือชีวิตคนอื่นได้ แบบเดียวกับเด็กหญิงที่เคยช่วยเหลือเขาเอาไว้ แม้ทั้งสองจะจดจำช่วงเวลาในวัยเด็กไม่ได้ แต่ความช่วยเหลือครั้งนั้นเองได้เปลี่ยนชีวิตให้คนคนหนึ่งกลายเป็นคนที่เติบโตมาเพื่อหยิบยื่นความโอบอ้อมอารีแก่ผู้อื่นอีกต่อหนึ่ง

คุณเรโกะจงใจบิดลำดับอารมณ์โดยสับฉากที่เราคิดว่าควรจะเป็น มาหลอกคนดูที่เคยดูจากตัวอย่างมาได้จุกอกแบบไม่รู้ตัวเลย ยอมรับล่ะว่ามุกในหนังที่คอยเฉลยคอยชกเก็บคะแนนจากคนดูเนี่ย มันเดาได้และซ้ำซากมาก ๆ แต่ความฉลาดในการบิดลำดับง่าย ๆ แค่ฉากเดียว ก็ทำเราจุกซึ้งได้มากทีเดียว
ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองไปชมครับว่าฉากวันคริสต์มาสท้ายเรื่อง เล่นงานเราได้อย่างไร ก็เป็นอีกกรณีศึกษาสำหรับคนชอบเขียนเล่าเรื่องเหมือนกันว่า บางทีการบิดสูตรสำเร็จนิดเดียวมันก็กลายเป็นงานพิเศษได้เหมือนกันนะ และอีกอย่างที่ทำได้ดีคือการเก็บรายละเอียดเพื่อนำมาสานต่อในบทสนทนา
และเนื้อเรื่อง

อย่างชื่อเรื่อง Ride Your Wave มันถูกตีความหมายคำว่าคลื่นไว้อย่างหลากหลาย ไม่ใช่เพียงคลื่นในทะเล แต่ยังหมายถึงอุปสรรค ความกลัว ตลอดจนโอกาสการพานพบ และการเริ่มต้นใหม่ด้วย น่าสนใจเลยล่ะ

มาถึงส่วนสุดท้าย คืองานพากย์และเพลงประกอบ ปกติผมไม่ค่อยมีคอมเมนต์พิเศษอะไรกับงานพากย์เพราะญี่ปุ่นมักทำได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่มาครั้งนี้ต้องชมเป็นพิเศษกับหนังเรื่องนี้ล่ะว่า ออกแบบความเป็นธรรมชาติได้น่าขนลุกมาก โดยต้องยกเคมีความลงตัวให้คู่ที่พากย์เสียงพระ-นางอย่าง คาตาโยเสะ เรียวตะ ที่พากย์เป็น มินาโตะ และ คาวาเอย์ รินะ ที่พากย์เป็น ฮินาโกะ
โดยฉากที่อยากให้ไปลองดูคือฉากที่ทั้งสองตัวละครร้องเพลงหยอกล้อกันไป โดยมีฉากหลังเป็นภาพทรงจำที่ทั้งคู่ทำร่วมกัน มันไม่ใช่แค่เนี้ยบ แต่มันคือการจงใจไม่สมบูรณ์แบบเพื่อเลียนแบบความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่งมาก ๆ ทั้งการหลุดหัวเราะ การกระเซ้าหยอกเย้าระหว่างร้องเพลง โปรแกรมหนังว่าเจ๋งมาก ๆ เลยล่ะนะ

สิ่งที่ชอบ
ซึ่งก็คือเพลงประกอบในเรื่องนี้ก็ใช้เพลงธีมหลักเพลงเดียวได้ทั้งอารมณ์หนังและบอกเล่าเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องด้วย เพราะวิญญาณพระเอกจะปรากฏก็ต่อเมื่อนางเอกร้องเพลงนี้เท่านั้น โดยได้เพลง Brand New Story ของวง Generations from Exile Tribe มาทำหน้าที่นี้ ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น