รีวิว Door Lock - ห้องหลอนปริศนา
หนังระทึกขวัญสัญชาติเกาหลี เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในห้อง แต่หารู้ไม่ว่าทุกค่ำคืนที่เธอนอนหลับเธอไม่ได้อยู่คนเดียว แต่กลับมีบางคนมาอาศัยอยู่ร่วมกับเธอ พล็อตชวนหลอน สุดระทึก ที่ดูแล้วเหนื่อยชะมัด!!! เป็นหนังที่ทรมานคนดูชะมัด ดูไปใจเต้นตุ๊บๆ ไปตลอดทั้งเรื่อง! คุณลองคิดดูว่าถ้าทุกคืนที่คุณนอนอยู่คนเดียว มีคนมานอนกับคุณ ใช้ข้าวของคุณทุกอย่าง มันจะหลอนแค่ไหน! หนังเปิดเรื่องด้วยความสงสัยเต็มไปหมด เล่นเอาคนดูงง หลายๆ คนคงคิดในใจว่า “นี่มันอะไรกันฟะ” “มันเกิดอะไรขึ้น” นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว รีวิว Door Lock - ห้องหลอนปริศนาเรื่องย่อ
โจคยองมิน พนักงานธนาคารธรรมดาคนหนึ่งที่อาศัยอยู่คนเดียวในอพาร์ทเม้นท์ หลังจากเลิกงานเธอกลับมาที่ห้องและพบว่าฝาที่ล็อคประตูหน้าห้องของเธอถูกเปิดค้างไว้ เธอจึงเปลี่ยนรหัสผ่าน แต่แล้วในคืนนั้นเธอกลับได้ยินเสียงบางอย่างที่หน้าห้องของเธอ ‘ติ๊ด-ติ๊ด-ติ๊ด-ติ๊ด รหัสผ่านผิดพลาด’ จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้คยองมินตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ แต่ตำรวจกลับรำคาญ และคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ หลังจากนั้นไม่นานเธอพบร่องรอยการบุกรุกของคนแปลกหน้า ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดคดีฆาตกรรมที่น่าสงสัย เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัยอีกแล้ว เธอจึงตามสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยตัวของเธอเอง“ฝาที่ล็อคประตูที่เปิดค้างไว้ แผงกดรหัสผ่านที่เต็มไปด้วยลายนิ้วมือ ตัวบุหรี่ที่ตกอยู่หน้าห้อง ห้องที่เคยอาศัยอยู่เพียงคนเดียว กลับมีใครบางคนซ่อนตัวอยู่!”เป็นอีกหนึ่งแนวหนังที่เกาหลีมักทำออกมาได้เข้มข้นน่าติดตาม กับแนวระทึกขวัญ แต่น่าเสียดายที่นาน ๆ ที่จะมีเข้ามาฉายในบ้านเรา และสำหรับเรื่องนี้ Door Lock ห้องหลอนปริศนา ก็เป็นแนวระทึกขวัญประเภท สตอล์ก หรือโรคจิตสะกดรอยตาม แต่ระดับความคุกคามนั้นเรียกว่าสั่นสะเทือนมาก ๆ เพราะเข้ามาประชิดกันถึงอยู่ในห้องโดยที่เหยื่อไม่รู้ตัวกันเลย
นี่เป็นผลงานของผู้กำกับ ควอนลี ที่ถนัดมาจากงานสายคอเมดี้ดราม่าอย่างเรื่อง My Ordinary Love Story (2014) และจะว่าไปก็ผ่านงานมาเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น นี่จึงคือการทดลองมาทำสายเข้มขังจริงจังอย่างเต็มตัวครั้งแรก ความน่าสนใจน่าจะอยู่ที่การมาแสดงนำของ กงเฮียวจิน นักแสดงมากฝีมือคนหนึ่งของเกาหลีที่ต้องมารับบทยากบทหนึ่งทีเดียว
เราอาจจะคุ้นชินกับหนังแนวผู้หญิงที่ต้องตกเป็นเหยื่ออยู่บ่อยครั้ง และจุดที่เราเฝ้ารอคือความสะใจในช่วงหลังที่ตัวละครจะสู้กลับและเอาคืน แต่ทว่าหนังเรื่องนี้เป็นการจำลองโลกของผู้หญิงในแบบที่สะท้อนความจริงมากทีเดียว เพราะตัวละครเหยื่อนั้นตกอยู่ใต้ความหวาดกลัวผู้ชายทุกคนที่อยู่ในเรื่อง ไม่เพียงว่าเมื่อเกิดเรื่องราวขึ้น ดูหนังออนไลน์ในฉากเปิดเรื่องเราเห็นความกดดันของสภาพความเป็นหญิงภายในโลกของผู้ชายเป็นใหญ่ ตัวละครหญิงตอนเปิดเรื่องนั่งขดตัวหลบตาในรถไฟฟ้า หวาดระแวงยามเดินในซอยกลับบ้าน แม้แต่เมื่อเข้าห้องที่น่าจะเป็นพื้นที่่ส่วนตัว มันก็ยังไม่รอดพ้นการถูกจ้องมองและคุกคาม
ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์ของหญิงสาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งวันหนึ่งเมื่อเธอกลับเข้าอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง กลับพบว่ามีใครบางคนแอบซ่อนตัวอยู่ในห้องของเธอ มันคือภัยร้ายหลังประตูที่ถูกล็อคสนิทอย่างดี
โจคยองมิน (รับบทโดย กงฮโยจิน) เป็นพนักงานธนาคารสาว ที่ทำหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ teller ซึ่งนับเป็นตัวแทนสาวเมืองในยุคนี้ที่ใช้ชีวิตธรรมดาๆ พบเห็นได้ทั่วไป เธอพักอาศัยในอพาร์ตเมนท์แบบห้องสตูดิโอเล็กๆ (หน้าตาเดียวกับในไตเติลเลยแหละ) ผู้หญิงเรียบร้อยที่ต้องระแวดระวังสวัสดิภาพตัวเอง ในสภาพสังคมที่อาชญากรรมและคดีโรคจิตพลุกพล่าน ประมาทไว้ใจใครไม่ได้ เธอจึงมีบุคลิกพูดน้อยยิ้มยากสักหน่อย แม้ว่าตามเนื้องานเธอจะทำหน้าที่ได้ดี แต่ผลงานน้อย ก็เพราะความไม่ร่าเริง ไม่ช่างเจ๊าะแจ๊ะลูกค้า และไม่มีเรื่องใดๆกับใคร ทั้งๆที่มีพนักงานอื่นคอยดักแย่งลูกค้าเธอไปต่อหน้าต่อตา เธอมีเพียงเพื่อนสนิทคนเดียวที่ไว้ใจคือ โอฮโยจู (รับบทโดย คิมเยวอน) ซึ่งทำงานที่เดียวกัน
เริ่มต้นจากเช้าวันหนึ่ง ขณะจะออกจากบ้าน เธอพบว่า ฝาปิดตัวล็อคประตูถูกเปิดค้างไว้ เหมือนว่ามีใครเปิดมาเพื่อกดรหัส เธอจึงเปลี่ยนรหัสใหม่ทันที และคืนนั้นเธอถึงขั้นต้องผวาเมื่อได้ยินเสียงพยายามกดรหัส และโยกมือจับประตูรัวถี่ๆ หวังให้เปิดออกได้ ช่างโชคดีจริงที่เธอตั้งรหัสใหม่ รวบรวมสติทำใจกล้าๆไปส่องรูตาแมวประตูก็ไม่เห็นมีใคร จึงเปิดประตูออกมาดู พบเพียงก้นบุหรี่ถูกโยนทิ้งไว้ที่หน้าห้อง
ในขณะที่หนังก็เปิดให้ผู้ชมเห็นว่า ห้องของคยองมิน มีรองเท้าผู้ชาย มีเสื้อผ้าชั้นในของผู้ชายแขวนตากอยู่ และยังเห็นอีกว่ากลางดึกเมื่อเธอหลับสนิทไปแล้ว ก็มีผู้ชายมาเข้านอนกับเธอ ประหนึ่งคู่รักที่ใช้ชีวิตตามปกติร่วมกัน แม้จะสร้างความลังเลใจให้ผู้ชมได้ชั่วขณะ ว่าเธอมีใครอยู่ด้วยจริงๆหรือไม่
แต่หนังก็ไม่รอช้า พลิกเปลี่ยนเป็นการหยอดบรรยากาศและซาวน์ลึกลับหลอนๆให้ผู้ชมเดาต่อกันได้เองว่า ผู้ชายคนนี้คือส่วนเกินของห้องนี้ แขกที่ไม่ได้เชิญ ในห้องที่ปิดล็อคอย่างดี OMG! เพราะจริงๆแล้วเธออยู่โดยลำพัง รองเท้าเสื้อผ้าเหล่านั้นก็เป็นเพียงของที่ตั้งลวงไว้เผื่อใครประสงค์ร้ายมาเห็นเข้าแล้วเปลี่ยนใจไม่เข้าบ้าน (อันนี้ก็เป็นเทคนิคที่ผู้เขียนก็ใช้นะ และ adapt ใช้กับอีกสถานการณ์อื่นๆด้วย) ถ้าเช่นนั้นแล้ว ผู้ชายคนนี้คือใคร มาได้อย่างไร
เธอขอให้ตำรวจนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ แต่เนื่องจากไม่มีอะไรส่อถึงความผิดบุกรุกหรือทรัพย์สินสูญหายที่จะเป็นคดีความได้ ตำรวจจึงไม่ได้ดำเนินการใด (อันนี้ก็พูดยากนะ ตำรวจอาจมองเป็นหตุการณ์บังเอิญทั่วไป เป็นเรื่องจุกจิกกวนใจ ไม่มีอะไรเป็นคดี ในขณะที่ประชาชนมองเป็นเรื่องของสวัสดิภาพที่อยากพึ่งพาตำรวจ เพราะมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของคดีร้ายแรงต่อไปก็ได้ ใครจะรู้)
ดูเหมือนว่าโจคยองมินจะใช้ชีวิตแบบวิตกกังวลเกินเบอร์หรือไม่ อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน ต้องตามโปรแกรมหนังไปดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอบ้าง…ในขณะที่หนังก็เปิดให้ผู้ชมเห็นว่า ห้องของคยองมิน มีรองเท้าผู้ชาย มีเสื้อผ้าชั้นในของผู้ชายแขวนตากอยู่ และยังเห็นอีกว่ากลางดึกเมื่อเธอหลับสนิทไปแล้ว ก็มีผู้ชายมาเข้านอนกับเธอ ประหนึ่งคู่รักที่ใช้ชีวิตตามปกติร่วมกัน แม้จะสร้างความลังเลใจให้ผู้ชมได้ชั่วขณะ ว่าเธอมีใครอยู่ด้วยจริงๆหรือไม่
แต่หนังก็ไม่รอช้า พลิกเปลี่ยนเป็นการหยอดบรรยากาศและซาวน์ลึกลับหลอนๆให้ผู้ชมเดาต่อกันได้เองว่า ผู้ชายคนนี้คือส่วนเกินของห้องนี้ แขกที่ไม่ได้เชิญ ในห้องที่ปิดล็อคอย่างดี OMG! เพราะจริงๆแล้วเธออยู่โดยลำพัง รองเท้าเสื้อผ้าเหล่านั้นก็เป็นเพียงของที่ตั้งลวงไว้เผื่อใครประสงค์ร้ายมาเห็นเข้าแล้วเปลี่ยนใจไม่เข้าบ้าน (อันนี้ก็เป็นเทคนิคที่ผู้เขียนก็ใช้นะ และ adapt ใช้กับอีกสถานการณ์อื่นๆด้วย) ถ้าเช่นนั้นแล้ว ผู้ชายคนนี้คือใคร มาได้อย่างไร
เธอขอให้ตำรวจนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ แต่เนื่องจากไม่มีอะไรส่อถึงความผิดบุกรุกหรือทรัพย์สินสูญหายที่จะเป็นคดีความได้ ตำรวจจึงไม่ได้ดำเนินการใด (อันนี้ก็พูดยากนะ ตำรวจอาจมองเป็นหตุการณ์บังเอิญทั่วไป เป็นเรื่องจุกจิกกวนใจ ไม่มีอะไรเป็นคดี ในขณะที่ประชาชนมองเป็นเรื่องของสวัสดิภาพที่อยากพึ่งพาตำรวจ เพราะมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของคดีร้ายแรงต่อไปก็ได้ ใครจะรู้)
ทุกเช้าเธอตื่นมาด้วยอาการสลึมสลือ เพลียมึนงง ไปทำงานอย่างไม่สดชื่น หนักเข้าหนักเข้าทุกวัน จะเพราะเครียดวิตกเกินไปหรือไม่ ความหวาดระแวงผู้ชายรอบตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าหรือคนพอจะรู้จักอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเดินถนนในที่มืดเปลี่ยว ขึ้นลิฟท์ด้วยกัน รปภ.หน้าลิฟท์ หรือลูกค้าที่แบงค์ซึ่งมีอาการจิตๆตามวอแวเธอ
หรือแม้แต่หัวหน้าหนุ่ม คิมซองโฮ (รับบทโดย อีชอนฮี) ซึ่งเหมือนจะเป็นคนดีคอยช่วยเหลือเธอ โอฮโยจูเองก็ยังเชียร์ให้สานสัมพันธ์เป็นแฟน จะได้แก้ปัญหาระยะยาว 555 แต่ก็มิวายมีมุมให้ตั้งข้อระแวงสงสัยหัวหน้าคิมจนได้ จนกระทั่งเกิดเหตุบังเอิญชวนสะเทือนขวัญเมื่อเขาเกิดมาตายปริศนาในบ้านของเธอ ตำรวจสายสืบอี (รับบทโดย คิมซองโอ) จึงเริ่มเข้ามาดูแลคดีอย่างจริงจัง
นอกจากนี้การที่เธอพบเบาะแสบางอย่างในห้องโดยบังเอิญ ทำให้เธอและโอฮโยจูตัดสินใจเริ่มติดตามหาความจริงด้วยตัวเอง ว่าภัยร้ายคุกคามประชิดตัวได้แม้ประตูจะล็อคแน่นหนาดีแล้ว เกิดขึ้นได้อย่างไร ใครคือคนร้าย
และเมื่อเนื้อเรื่องเข้าสู่ตัวละครหลักที่กงเฮียวจินแสดงนำ เราจะยิ่งอึดอัดกับความเป็นเหยื่อในกรงขังขนาดใหญ่ของผู้ชาย ทั้งชายที่ชอบแอบตามเธอมาที่ทำงาน เจ้านายที่เหมือนจะสนใจเธอเป็นพิเศษ ตลอดจนคนรอบตัวที่เป็นผู้ชายอื่น ๆ อย่างตำรวจที่เธอแจ้งความด้วย คนเฝ้าตึกที่เธอเช่า เพื่อนบ้านที่ไม่รู้ว่าใครบ้างเพราะไม่เคยทักทายรู้จักมักคุ้น เธอเป็นตัวแทนผู้หญิงที่ถูกกระทำทั้งทางตรงและอ้อม ทั้งทางกาย วาจาและจิตใจอย่างสมบูรณ์
แม้แต่ตอนที่เป็นการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเธอก็เพียงผู้หญิงธรรมดาที่สั่นกลัวและตัดสินใจได้อย่างไม่ชาญฉลาด ที่อ่อนแอจนบางทีเรารำคาญและทุกข์ทรมานแทน แต่ท่ามกลางความหงุดหงิดขณะชมเราก็ต้องกลับมามองว่า นี่ล่ะผู้หญิงในโลกความเป็นจริงที่เวลาเผชิฐอันตรายเขาไร้ทางสู้ขนาดไหน ไม่มีหรอกฮีโร่หญิงใจบู๊แบบในหนัง ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นความเด่นของหนังที่ปรากฏชัดมาก ผิวเผินเหมือนจุดด้อยในการเล่าเรื่อง แต่กลับเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่คิดแบบหัวใจผู้หญิงทั่วไป
และทางออกของหนังต่อคำตอบนั้นก็ออกจะเป็นว่า การที่ผู้หญิงจะเอาชีวิตรอดได้ ต้องกระทำตัวเสมือนชาย หรือนำอำนาจผู้ชายมาใส่สวมอีกที เช่นเดียวกับที่ตัวละครเอกจัดห้องให้มีอุปกรณ์หรือเครื่องแต่งกายของใช้ผู้ชายอยู่ทั่วไปหมดทั้งที่เธออยู่ลำพังเพื่อหลอกผู้ชายอื่น ๆ ว่าเธอมีผู้พิทักษ์ และในขณะตัวละครสมทบอย่างรุ่นน้องนางเอกที่กล้าชนกับอันตรายทั้งหลายก็ถูกนำเสนอในแบบหญิงห้าว หรือออกจะทอมบอยเสียด้วยซ้ำ ก็มีมุมการวิพากษ์ที่น่าสนใจทีเดียว
แต่ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับว่าหนังพยายามสร้างลีลาหลอกล่อผู้ชม ทั้งหักมุม สร้างกลขยักยักย้ายตัวร้ายไปมาจนดูน่าสับสน และเมื่อคิดตรองให้ดีก็พบว่าสอบตกยับเยินในฐานะหนังปริศนาที่ต้องมีตรรกะความสมเหตุสมผลที่ดีในการปะติดปะต่อเรื่องราวหลายเส้นเรื่องให้สู่บทสรุปที่ไม่สร้างความสงสัยต่อไปให้ผู้ชม
และน่าจะเป็นจุดอ่อนเดียวจริง ๆ ของหนัง แต่ก็มากพอที่จะทำให้หนังถูกตัดเกรดตกไป 1 ขั้นทีเดียว แต่ในด้านความเป็นหนังระทึกขวัญก็ต้องยอมรับว่าไม่น่าเบื่อ มีมุกการสร้างสถานการณ์คอยกระตุ้นทั้งความอยากรู้และการเอาใจช่วยตัวละครอยู่ตลอดเวลา ถือว่าดูสนุกอยู่เหมือนกัน
หนังทำได้ดีทั้งการใช้มุมกล้อง การจัดฉาก ใช้ภาพในโทนโลว์คีย์ และวางซาวน์ที่เร้าอารมณ์หลอนๆน่ากลัว ผสมลึกลับชวนติดตามค้นหา และยังบิวท์อารมณ์ระทึกลุ้นตื้นเต้น ในฉากหน้าสิ่วหน้าขวานที่ทยอยหยอดไว้ตลอดเรื่อง ประหนึ่งว่าผู้ชมได้อยู่ในเหตุการณ์ร่วม จนหลายฉากผู้เขียนเผลอหดขาขึ้นมาขดบนเก้าอี้โดยไม่รู้ตัว 555 ในฐานะที่เป็นผู้หญิงที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆ ดูแล้วก็เข้าใจอารมณ์ของตัวละครเลยนะ
และในสภาวะสังคมยุคนี้ที่อาชญากรมีมากมาย แฝงตัวมาแทบทุกรูปแบบ พัฒนากลเม็ดสารพัดจนแทบจะตามไม่ทัน ตำรวจก็ไล่ไม่ทันบ้าง ดูแลได้ไม่ทั่วถึงบ้าง ช่องโหว่การดูแลก็มีบ้างดังตัวอย่างในหนัง เลยทำให้ผู้ชมโดยเฉพาะผู้หญิงในสังคมเมืองแบบนี้ย่อมอินคล้อยตามไปกับหนังได้ง่าย คงเป็นอีกสาเหตุที่ส่งให้หนังค่อนข้างประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของความสามารถที่ดีเยี่ยมของกงฮโยจินที่ไม่เคยทำให้ผู้ชมผิดหวังเลย
สรุป
หนังใส่ใจรายละเอียดบอกเล่าให้เห็นถึงนิสัยใจคอของตัวนางเอกได้อย่างน่าชื่นชม แถมยังสะท้อนสังคมได้อย่างน่าสะพรึงกลัว หนังเรื่องนี้บอกเล่าได้เป็นอย่างดีถึงความอันตรายในสังคม ที่ต้องเจอของผู้หญิงที่อยู่ตัวคนเดียว ทั้งโรคจิตคอยแอบตาม คนที่เจอะเจอในชีวิตประจำวัน หัวหน้างาน ถึงแม้คุณจะแข็งแกร่งหรือเป็นระเบียบแค่ไหน แต่เมื่อคุณเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ต้องมีระแวงกับสิ่งเหล่านั้นบ้างไม่มากก็น้อย ยิ่งถ้าชีวิตจริงใครเป็นผู้หญิงที่อยู่ตัวคนเดียว คุณดูเรื่องนี้จบก็อาจจะระแวง และระมัดระวังไปในคราวเดียวกันมากขึ้นอีกเท่าตัวเลยทีเดียวหนังมีลูกล่อลูกชน จังหวะหลอก จังหวะหลอน ตื่นเต้น ระทึก ลุ้น ได้อย่างยอดเยี่ยม ถูกที่ถูกเวลา เล่นเอาคนดูหายใจไม่ทั่วท้อง และหายใจไม่เป็นจังหวะตลอดทั้งเรื่องจริงๆ คนดูจะมีอารมณ์ร่วมกับหนังแบบไม่รู้ตัว แถมยังรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลาแน่นอน นั่นแหละคือจุดสนุกของหนังเรื่องนี้
ต้องชื่นชมนักแสดงนำอย่าง กงฮโยจิน มากๆ เธอเอาอยู่แบบสุดๆ เรียกได้ว่าเธอแสดงได้ดูวิตก หวาดกลัวมาก จนมันสามารถส่งผ่านมาถึงคนดูได้ในทุกฉากที่เธอแสดง หนังมันระทึกตื่นเต้น ลุ้น มากกว่าเดิมเพราะการแสดงของเธอเลยจริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น