รีวิว Knives Out - ฆาตรกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่
เป็นอีกหนึ่งในหนังแววดีช่วงปลายปีที่หลายคนจับตามองเลยสำหรับ Knives Out โดยเฉพาะไลน์อัปนักแสดงนี่ต้องบอกว่าคับคั่งมาก ๆ แถมได้ ไรอัน จอห์นสัน ผู้กำกับเนื้อหอมมานั่งแท่นกำกับด้วย ซึ่งด้วยสไตล์ของแก กับบทบาทเรื่องราวในเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับปริศนาฆาตกรรมในแบบฉบับของ อากาธา คริสตี้ แล้ว เรียกว่าเข้าทางเลย รีวิว Knives Outเรื่องย่อ
Knives Out เล่าเรื่องราวคดีปริศนาฆาตกรรมในวันรวมญาติของ ‘ตระกูลธรอมบีย์’ ซึ่งผู้ตายคือ ‘ฮาร์ลาน ธรอมบีย์’ นักเขียนนิยายชื่อดังที่มีผลงานตีพิมพ์มากกว่า 80 ล้านเล่มทั่วโลก ถูกพบเป็นศพปริศนาในคฤหาสน์หรูของตัวเอง ซึ่งผู้ต้องสงสัยก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นทุกคนในครอบครัว ขณะเดียวกันก็มีบุคคลลึกลับว่าจ้างให้นักสืบมากฝีมืออย่าง เบอนัวต์ บลองก์ (แดเนียล เคร็ก) เข้ามารับคดีนี้ แต่ยิ่งเมื่อสืบลึกลงไป เขาก็ได้พบกับปมปริศนาที่ซับซ้อนของครอบครัวธรอมบีย์ที่เชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกับการตายของฮาร์ลานเต็มไปหมดนี่คือหนังที่เอาเข้าจริงแล้วอยากให้ทุกคนพยายามรู้น้อยที่สุดโดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับตัวหนังก่อนไปดูจะเป็นการรับชมที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะแค่รู้เหลี่ยมนิดนึงก็อาจจะเป็นการสปอยล์ได้ ตัวหนังว่าด้วยเรื่องราวของ ครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งที่เกิดคดีฆาตกรรมขึ้น ในคืนฉลองวันคล้ายวันเกิดของคุณปู่ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อคุณปู่เสียชีวิตอย่างปริศนา ทำให้นักสืบต้องเข้ามาสืบสวนเรื่องราวนี้ ดูหนังสดและทุกคนในครอบครัวต่างก็เป็นผู้ต้องสงสัย!?
ต้องบอกเลยครับว่า Knives Out คือหนังที่แนะนำและไม่อยากให้ทุกคนพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าวัดกันแค่ความบันเทิงก็กินขาดแล้ว หนังสนุกมากๆ ไม่มีพาร์ทไหนของหนังเลยที่รู้สึกว่าน่าเบื่อ เพราะแม้แต่ในส่วนที่น่าจะเนือยที่สุดของเรื่องอย่างการวางเบาะแส ปูเรื่องราว หนังก็ยังมีความตลกขบขันสอดแทรกอยู่ตลอดเลย ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับตัวผู้กำกับ Rian Johnson เต็มๆ
เรื่องนี้ทั้งโปรดิวซ์เอง เขียนบทเอง กำกับเอง ด้วยความเนิร์ดในหนังหรือวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนของแก ทำให้หนังเรื่องนี้ที่แม้จะดำเนินเรื่องในยุคปัจจุบัน แต่บรรยากาศและกลิ่นอายของหนังก็มีความคลาสสิก จุดนี้คือชอบมากเหมือนกัน เพราะเค้าดูใส่ใจกับการออกแบบงานสร้างมาก คือมันลงตัวไปหมดทั้งจังหวะ ไดอะล็อก การเล่าเรื่องยอดเยี่ยมมาก ส่วนผสมทุกอย่างลงตัวจนจะบอกว่าเป็นหนังที่สมบูรณ์แบบที่สุดเรื่องนึงในปีนี้เลยก็ว่าได้
แม้ว่าพล็อตและโครงเรื่องของ Knives Out แทบจะถอดแบบออกมาจากหนังสือนิยายในยุค 80-90 ของอากาธาแทบทุกระเบียดนิ้ว แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมาก ๆ เลยก็คือ มันมีความร่วมสมัยที่หนังใส่มาได้แบบลงตัวสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนหรือว่าแอปฯ โซเชียล บวกกับไลฟ์สไตล์ของตัวละครในครอบครัวที่จับต้องได้ในยุคนี้
สิ่งที่ชอบ
ผมชอบวิธีการเล่าเรื่องของ Knives Out ที่เลือกเฉลยบางปมให้คนดูรู้ก่อน แล้วเดินเรื่องให้ลุ้นว่านักสืบพวกนั้นจะจับไต๋คนร้ายได้ไหม ไม่ใช่เล่าโดยยึดมุมมองของฝ่ายนักสืบเป็นหลักเหมือนหนังสืบสวนสอบสวนทั่วไปยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีความตลกร้ายแบบขำแรงปะปนอยู่จนบางทีก็ถามตัวเองระหว่างดูว่า “นี่มันหนังสืบสวนหรือหนังตลกโปกฮาวะเนี่ย”(ฮา) คือเซนส์มุกก็เจ๋ง ตัวละครทุกตัวมีมิติ มี สตอรี มีกลิ่นอายหนังสไตล์ฮิตช์ค็อก เดาทางยาก ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าไว้ใจคนในครอบครัวนี้ไม่ได้เลยสักคน
แม้แต่ฝั่งนักสืบเอง ก็แอบดูยากว่าจะออกทรงเกรียนแบบ จอห์นนี อิงลิช หรือเท่ ๆ คูล ๆ แบบ เจมส์ บอนด์ เรียกว่า เรื่องนี้ ป๋า แดนเนียล เคร็ก สลัดคราบความเป็น 007 ออกไปแทบทั้งหมดจริง ๆ บางทีอาจบอกได้ว่านี่เป็นอะไรที่ดูเข้าทางแกมากกว่า เจมส์ บอนด์ ที่แกเล่นรวมกันเสียอีก ดูแววแล้วถ้าไม่เป็นพระเอกก็จับแกไปเล่นตลกได้นะ (ฮา)
Knives Out เป็นหนังฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนที่แทบไม่มีบรรยากาศให้รู้สึกตึงเครียด ไม่มีฉากบู๊แอ็กชัน แต่กลับค่อย ๆ น่าติดตามขึ้นเรื่อย ๆ แล้วอีกปมนึงที่น่าสนใจมาก ๆ คือการเสียดสีและจิกกัดวัฒนธรรมอเมริกันและมุมมองที่มีต่อผู้อพยพ ในทำนองประชดประชันเจ็บ ๆ คล้ายจะเย้ยคอนเซปต์ ‘ดินแดนเสรีภาพ’ ที่รัฐบาลสหรัฐฯ propaganda ต่อเวทีโลกมาตลอด ผมชอบตรงที่หนังจงใจไม่ได้ขยี้มากนัก แต่คนดูสามารถไปตีความต่อเมสเซจตรงนี้ได้เองอย่างแจ่มชัด เข้าใจความเจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ในการดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้มีที่ซุกหัวนอนของคนกลุ่มนี้
อีกคนหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ คริส อีแวนส์ ที่มารับบทเรื่องนี้แล้ว แทบไม่มีมุมไหนให้นึกถึง สตีฟ โรเจอร์ส ที่เราคุ้นเคยกันเลย เพราะเรื่องนี้แกมาแนวคูล ๆ กวนโอ๊ย สบถเก่งมาก (ฮา) มีบทบาทสำคัญที่จะเข้ามาเปลี่ยนรสชาติและทวีความสนุกขึ้นในองก์หลัง ๆ เรียกว่าสลัดลุคกัปตันแมน ๆ ออกไปให้เราได้เห็นเขาในลีลาที่แปลกตาออกไปจริง ๆ
ในแง่มุมของการเป็นหนังสืบสวนสอบสวน แน่นอนว่าเสน่ห์สำคัญของมันจริงๆ ก็คือการที่เราคาดเดาเรื่องราวไม่ได้ แน่นอนครับว่าเรื่องนี้ก็เช่นกัน หักมุมเก่งมากกกก เว็บสตรีมหนังและการหักมุมของหนังก็ค่อนข้าง make sense ด้วย (ไม่ได้แบบ อิหยังวะ) แล้วที่สุดเลยของเรื่องคือ Characters ต่างๆในหนังนี่คือปั่นมาก อย่างเช่น Daniel Craig ในบทบาทนักสืบ Toni Collette จากแม่จิตหลุดมาเป็นกูรูแฟชั่นหรือแม้แต่ Chris Evan กัปตันแสนสุภาพก็มา eat sh*t eat sh*t กันรัวๆ ทีมนักแสดงชุดนี้คือทำงานได้ดีสุดๆ และยิ่งดึงความสนุกของหนังให้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลย
เสน่ห์ของ Knives Out ไม่ได้อยู่ที่ความเข้มข้น ความเป๊ะปังของการไขคดี หรือว่าตัวคนร้ายคือใคร แต่มันคือหนังทริลเลอร์ที่มีความสนุกและเสน่ห์ด้วยบทฉลาด ๆ ชวนติดตาม และความเจ๋งของมันคือการเดินเรื่องที่สนุก มีชั้นเชิง มีความหักมุมที่หลอกแบบเหนือ ๆ แต่ไม่เวอร์วังเกินไป เป็นหนึ่งในหนังที่คอหนังสไตล์ไหนก็ดูสนุก อาจมีบางองค์ประกอบเรื่องการบริหารตัวละครที่หลุด ๆ ไปบ้างบางช่วง แต่ต้องบอกว่ารวม ๆ แล้วหนังเรื่องนี้กลับมีเสน่ห์บางอย่างให้น่าติดตามและอยากกลับมาดูซ้ำสอง
สรุป
คือบอกเลยว่าเจ๋งมาก ไม่อยากพูดถึงหนังอะไรเยอะ แรกๆจะรู้สึกเหมือนเดาๆ ได้ แต่มันเจ๋งกว่าที่คิดไว้เยอะเลย จัดว่าเฉียบเลย ดูสนุกมาก ยิ่งชอบหนังแนวไขคดีปริศนาสไตล์เชอร์ล็อก โฮมส์ยิ่งต้องโดน จะคล้ายๆเรื่อง Murder On Orient Express เมื่อปีที่แล้วแต่เรื่องนี้จะเกิดในยุคนี้ สไตล์จัดจ้าน คาแรกเตอร์จัดมาก แถมกวนตีนมากด้วยการเล่าเรื่องจากผู้กำกับชัดเจน คมมาก เดินเรื่องกระชับ ไม่ย้วย ไม่น่าเบื่อ ซึ่งไม่แปลกใจเลย เฮียผู้กำกับRian Johnson คือเฮียที่กำกับ Looper กับ Star Wars The Last Jedi ไงล่ะ แจ่มชัดแอคชั่นคมกริบ เล่าเรื่องสนุกสนานดีจริงๆ ส่วนงานสร้างก็ใช้ได้เลยทั้งตัวฉากคฤหาสน์ที่จัดจ้านมาก เสื้อผ้าก็แสดงคาแรกเตอร์ตัวละครสุดๆ
นักแสดงจัดว่าดี ตัวพ่อตัวแม่เต็มเรื่องเลย ทั้งแดนเนียล แคร็ก (เจมส์ บอนด์) คริสต์ อีวาน (กัปตันอเมริกา) Jaeden Martell (น้องพระเอก IT ภาคแรก) Toni Collette (คุณแม่จากHereditary) ลุงคริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ (ที่ชอบเล่นบทปู่ๆในหนังฮอลลีวู้ดหลายๆเรื่อง) ส่วนนางเอกงานดีมาก Ana de Armas หน้าคล้ายๆ แพทริเชีย กู้ดอยู่ (ที่เล่นเป็นจอยแฟนไรอัน กอสลิ่งในเบลดรันนิ่ง) แค่ไปดูการแสดงก็คุ้มสุดๆ แล้ว
โดยรวมแล้ว Knives Out คือหนังสืบสวนที่ยอดเยี่ยมในแง่ของภาพยนตร์และครบถ้วนในเรื่องความบันเทิง ดูสนุก น่าประทับใจ ครบรสมาก ๆ จนไม่อยากให้ทุกคนมองข้ามเลยครับ มันดีมากจริงๆ เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูเผลอๆอาจจะยกให้เรื่องนี้ติด TOP 5 TOP10 ในปีนี้เลยก็ว่าได้ ไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวงเลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น