รีวิว The Angry Birds Movie 2 - แอ็งกรีเบิร์ดส 2 เดอะมูวี่
หลังจากศึกปะทะกันมาเป็นเวลาช้านานก็ได้ฤกษ์ที่เหล่านกสายไฝ่ว์นำโดย เรด (เจสัน ซูไดคิส)นกแดงขี้โมโห, ชัค (จอช แกด) นกเหลืองเจ้าลมกรดช่างจ้อ, บอมบ์ (แดนนี แมกไบรด์)นกพี่เบิ้มที่สามารถผลิตระเบิดได้จากการผายลม และ ซิลเวอร์ (เรเชล บลูม)น้องสาวเจ้าปัญญาของชัคสมาชิกใหม่ในกลุ่ม จำใจต้องจับมือกับพวกหมูเขียวสุดแสบนำโดย ลีโอนาร์ด (บิล เฮเดอร์)หมูเคราแพะจอมกวน และคอร์ตนีย์ (อควาฟินา)หมูสาวลูกสมุนงานนี้คู่เกาเหลาจำต้องแท็กทีมเพื่อต่อกรกับเซต้า (เลสลี โจนส์) นกสาวแห่งเกาะน้ำแข็งศัตรูตัวใหม่ที่หวังทำลายเกาะหมูและเกาะนกแล้วยึดเป็นที่อยู่ใหม่เสียเอง งานนี้เหล่าหมูและนกต้องร่วมแรงกันหยุดยั้งอาวุธมหาประลัยของเซต้าก่อนบ้านของพวกเขาจะถูกก้อนน้ำแข็งทำลายยับเยิน รีวิว The Angry Birds Movie 2
จากเกมดีดนกดีดหมูสุดฮิตในสมาร์ตโฟนรุ่นบุกเบิกสู่ภาพยนตร์ภาคแรกในปี 2016 กับ The Angry Birds Movie ที่เรียกได้ว่าทางสตูดิโออย่างโซนี่เป็นเสือปืนไวคว้าสิทธิ์ในคาแรกเตอร์สุดน่ารักและโดดเด่นมาทำหนังแอนิเมชันและทำเงินไปพอสมควร แต่โดยส่วนตัวแล้วอาจจะไม่ค่อยประทับใจกับหนังภาคก่อนนักเพราะเหมือนเนื้อเรื่องจะวนเวียนระหว่างการเอาชนะความโกรธของ เรด กับภารกิจปกป้องเกาะนกจากพวกหมูที่ยิ่งเล่าก็ยิ่งรู้สึกสับสน
ผมเองก็เป็นคนนึงที่ค่อนข้างเฉยๆกับภาคแรกเป็นอย่างมาก ด้วยความที่ภาคแรกนั้นดำเนินเรื่องสไตล์หนังเด็ก ที่แทบไม่แคร์ผู้ใหญ่เลย ทำให้ก่อนไปชมภาคนี้นั้นทำใจและเลิกที่จะคาดหวังในตัวหนังก่อนไปชม ผลสุดท้ายที่ได้มาคือกลับสนุกและเอ็นจอยกับภาคนี้ไปซะแบบงงๆ
เรื่องรางในภาคนี้จะดำเนินต่อจากภาคก่อนซึ่ง ทั้งนกและหมูต่างเป็นศตรูคู่แค้น โจมตีเมืองกันไปมาระหว่าง 2 เกาะจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว จนมาวันนึงได้มีอุกาบาติน้ำแข็งลูกยักษ์ ถูกยิงเข้าหาทั้ง 2 เกาะ ทำให้ทั้งแก๊งน้องนกและหมูได้เริ่มต้นค้นหาที่มาของอุกาบากต์น้ำแข็งอันนี้ จนไปพบกับเกาะใหม่ซึ่งเป็นที่อยู่ของเผ่าพันธุ์นกอินทรีย์ ซึ่งจ้องจะทำลายทั้ง 2 เกาะเพื่อที่จะยึดเอาเกาะทั้ง 2 มาเป็นของตัวเอง ทำให้ทั้งนกและหมูต้องพักรบชั่วคราวเพื่อรวมมือกันต่อกรกับศตรูคนเดียวกันจากเกาะอันห่างไกล
ด้วยความที่ก่อนไปดูผมเองนั้นก็ได้เลิกที่จะคาดหวังในตัวหนังไปหมดแล้ว ผลสุดท้ายคือสนุกและเอ็นจอยไปกับหนังเอามากๆ ตัวหนังนั้นจะมีการแบ่งพาร์ทการดำเนินเรื่องคล้ายๆกับเรื่อง Ice Age ซึ่งจะแบ่งเส้นเรื่องเป็น 2 เส้นเรื่องคือ เรื่องราวของตัวละครหลัก และเส้นเรื่องรองของแก๊งลูกนก 3 ตัวที่ออกผจญภัยตามเอาไข่นกกลับบ้านให้ได้ (ดูเหมือนว่าพาร์ทรองจะสนุก ฮาแซงหน้าเนื้อเรื่องหลักไปแล้ว) แต่พาร์ทที่เป็นเส้นเรื่องหลักก็ยังสนุกอยู่ก็ตาม
อีกอย่างการดำเนินเรื่องที่เร็วมากเปลี่ยนซีนแบบแทบไม่รอคนดูในหนังภาคแรก ก็ส่งผลให้มันกลายเป็นแอนิเมชันที่ดูแล้วจบกันไม่มีอะไรให้จดจำนัก ซึ่งก็น่ายินดีที่ผู้สร้างอย่าง SONY Animation เองก็ให้ความสำคัญกับตรงนี้ด้วยการยกเครื่องทีมเขียนบทและกำกับใหม่ ดังนั้นเราจะเห็นได้เลยว่าในส่วนของบทภาพยนตร์ดูมีโครงสร้างชัดเจน เควสต์ที่ฮีโรทั้งพวกนกและพวกหมูต้องตะลุยก็ดูสำคัญเป็นวิกฤติการณ์ที่หนักแน่นพอให้คู่อริมารวมตัวกันได้แถมยังเล่นมุกกาว ๆ ได้อย่างไม่ขัดเขินอีกด้วย
ตัดสลับกับซับพลอตของเหล่าลูกนกตัวจิ๋วที่ดันเล่นกันเพลินจนไข่หลุดลอยไปในทะเลจนพวกเขาต้องหาสารพัดวิธีตามไข่กลับบ้านมาให้ได้ ซึ่งแต่ละวิธีนี่บอกเลยว่าคิดไม่ถึงแน่นอน ทำให้ในภาพรวมการดำเนินเรื่องของหนังภาคนี้ดูลื่นไหล ดูสนุก มันส์ ฮา และคนดูรู้ว่าจะเกาะเกี่ยวใครไปผจญภัยในภารกิจครั้งนี้ และยังทำให้คาแรกเตอร์ของทั้งสองฝั่งมีจุดที่ทำให้คนดูหลงรักได้ไม่ยากอีกด้วย
สำหรับความดีงามในส่วนของบทภาพยนตร์ประการแรกเลยคือทำให้เรารู้ว่าทำไมเราควรต้องเอาใจช่วย เรด ด้วยการเอาปมนกสีแดงที่แปลกแยกจากตัวอื่นมาเล่นและขยี้ต่อด้วยสถานการณ์แรกคือพวกหมูขอสงบศึกที่ทำให้ เรด เกิดความไม่มั่นใจว่าหากเกาะนกสงบสุขเขายังจะเป็นที่รักของคนอื่น ดูหนังสด หรือถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอย่างที่ผ่านมา ซึ่งเอาจริง ๆ ปมมันดูเป็นผู้ใหญ่พอสมควรเลยนะ แต่ทีมบทก็รัดกุมพอจะเล่นในประเด็นต่อมาคือการทำงานเป็นทีมที่อาจต้องลดบทบาทตัวเองและให้กำลังใจทีมงานในภารกิจที่จะต้องไปหยุดอาวุธทำลายล้างของเจ้าแม่น้ำแข็งอย่าง เซต้า
ซึ่งก็ถือเป็นข้อคิดที่ดีไม่น้อยเลยที่บทหนังเรื่องนี้จะสอนให้เด็ก ๆ เข้าสังคมและรู้จักปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมโลกด้วยความอ่อนโยนในยุคที่หลายคนพาตัวเองไปอยู่ในโลกโซเชียลกันหมด ดังนั้นการที่ได้เห็น เรด ค่อย ๆ ลดทิฐิตัวเองแล้วหันหน้าไปฟังทีมและบทสรุปที่สวยงามก็น่าจะกล่อมเกลาเด็ก ๆ ที่ได้ดูหนังอย่างดีเลยล่ะ.
อีกประการ ดูหนังผ่านเน็ต คือเรื่องของการยอมรับในความแตกต่าง..ตั้งแต่การนำหมูสีเขียว กับพวกนกมารวมตัวกัน ซึ่งในหนังภาคแรก แม้ว่าพวกหมูจะมีความตลกแค่ไหนแต่ด้วยสถานะผู้ร้ายเราเลยไม่ค่อยได้เรียนรู้หรือเห็นอีกด้านของเหล่าหมูเขียวเท่าใดนัก แต่กับหนังภาคนี้ที่ให้บทบาทกับ ลีโอนาร์ด และคอร์ตนีย์ ได้มีบทบาทเด่นมากขึ้นก็ทำให้เห็นด้านที่อ่อนโยน ความรักในพวกพ้องและความร่วมมือร่วมใจที่หวังให้ทั้งเกาะนกและเกาะหมูผ่านวิกฤติการณ์ในครั้งนี้ไปให้ได้จนเราเผลอมอบหัวใจให้พวกหมูไปแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะ
และแน่นอนว่านอกจากสาระและข้อคิดแล้วก็คือความบันเทิงที่ The Angry Birds Movie 2 ก็ขยันปล่อยมุกให้คนดูบริหารขากรรไกรกันทุก ๆ 2 นาที นอกจากมุกดีดตัวดีดของไปทำลายล้างกันที่ดูบันเทิงกว่าหนังภาคแรกแล้ว ในภาคนี้ยังเพิ่มตัวขโมยซีนอย่าง แมวน้ำอุ๋งอุ๋ง ที่ชอบขโมยของเซต้าแล้วขยิบตาให้ หรือหมาแช่แข็ง…เอ่อ..มันเป็นหมาที่มีชีวิตอยู่ในก้อนน้ำแข็งจริง ๆ นะ ที่ดูแล้วน่าสงสารแต่ก็อดขำไม่ได้
เช่นเดียวกับพวกบรรดา “เบบี๋” ทั้งหลายที่จะมาเติมอาการ “งู้ย” ให้คนดูโดยเฉพาะลูกนก 3 ส่วนตัวกับภารกิจหาไข่ที่ได้เด็ก ๆ ลูกคนดังอย่างลูกสาวของนิโคล คิดแมน กับ คีธ เออร์เบิน มาพากย์เสียงทั้ง เฟธ เออร์เบิน ในบท บีอาทริซ และ ซันเดย์ เออร์เบิน ในบท ลิลลี ร่วมกับเหล่าเด็ก ๆ คนดังอย่างหนู บรุคคลินน์ พรินซ์ (Brooklynn Prince) สาวน้อยที่เคยขโมยหัวใจผู้ชมจาก The Florida Project ในบทโซอี้ ลูกนกสีชมพูดสุดน่ารัก หรือจะเป็น โจโจ ซิวา (Jojo Siwa) ก็มาให้เสียงพากย์เป็น เจย์ ลูกนกสีฟ้า เช่นเดียวกับนักร้องดังที่ตบเท้ามารับเชิญพากย์เสียงกันหอมปากหอมคอทั้ง นิคกี มินาจ นักร้องดัง โดฟ แคเมอรอน จากซีรีส์ดิสนีย์อย่าง The Descendants หรือ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ จากซีรีส์ Game of Thrones ก็มาพากย์บทสำคัญเช่นเดียวกัน
สรุป
โดยสรุปแล้วถือว่า The Angry Birds Movie 2 สอบผ่านในแง่การเป็นหนังบันเทิงที่แค่เอาคาแรกเตอร์จากเกมมาสานต่อเรื่องเล่าใหม่ได้อย่างสวยงาม ทั้งการออกแบบงานภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซีนผจญภัยที่ดูแล้วลุ้นตาม การออกแบบคาแรกเตอร์ให้มีเสน่ห์และการพากย์เสียงที่รับส่งมุกได้ดีทั้ง เจสัน ซูไดคิส ที่ทำให้ เรด เจ้านกจอมไฝ่ว์มีเสน่ห์น่าจดจำ, บิล เฮเดอร์ ที่เอาความเป็นดาราตลกใส่ในเสียงพากย์ของ ลีโอนาร์ด หัวหน้าหมูเคราแพะ, จอช แกด ที่เราเพิ่งได้ยินเขาพากย์เป็น โอลาฟ ไปใน Frozen 2 หรือจะเป็นอควาฟินา ที่เสียงแหบเสน่ห์ของเธอทำให้ คอร์ตนีย์ กลายเป็นตัวละครที่เรารอฟังเสียงที่สุดได้อย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงข้อคิดดี ๆ และมุกตลกที่เวิร์กก็ทำให้หนังน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้เข้าโรงไปคลายเครียดกันครับส่วนตัวรู้สึกว่าภาคแรกมีมุขที่เฉียบกว่า คมกว่า แต่ในภาคนี้ปรับให้เข้าถึงทุกวัยขึ้น และฮามากกว่าในการขยี้ของมัน พาร์ทเนื้อเรื่องก็ไม่แย่นัก มีจุดให้ตัวละครเรียนรู่และมีข้อคิดที่ชัดเจน ซึ่งรวมๆ แล้วคือสนุกเลย โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังที่ฮาไปเกินเบอร์มากจริงๆ ยิ่งภาคนี้ต้องยกเครดิตให้นกปลอม และลูกนกสามตัว ที่เล่นเอาขำแบบเอาเป็นเอาตาย ขำน้ำหูน้ำตาไหลมากๆ จังหวะฮาขยี้ได้ต่อเนื่องแบบสุดๆ แถมนกสามตัวก็น่ารักเหลือเกิน จนแม้ว่ามันจะทำอะไรแหกทุกกฏก็ให้อภัยกันได้กับความโคตรน่ารักของมัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น