รีวิว Breaking Bad - ดับเครื่องชน คนดีแตก
ดับเครื่องชน คนดีแตก เป็นซีรีส์ที่ลงทางช่อง AMC ตั้งเเต่ปี 2008 เเละเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่เป็นทั้งตำนาน และขึ้นหิ้งตลอดกาล เเล้วก็ติดอันดับต้นๆของซีรีส์ที่ดีที่สุดตลอดกาลของ IMDB เลยก็ว่าได้ รีวิว Breaking Bad
เรื่องย่อ
เรื่องราวของวอลเตอร์ ไวท์ ครูสอนเคมีผู้แสนดีคนหนึ่ง เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี เขามีครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกชาย และกำลังจะมีลูกสาวเกิดขึ้นมาอีกคน แต่ปัญหาเลวร้ายเกิดขึ้นเมื่อวอลเตอร์รู้ว่าตัวเองกลายเป็นมะเร็งร้ายแรง อาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่เดือน ดังนั้นเขาจึงต้องหาเงินเพื่อที่จะเลี้ยงดูลูกเมียหลังจากที่ตัวเองตายไปแล้ว และวิธีนั้นก็คือ การผลิตยาไอซ์ จนกระทั่งจับพลัดจับพลูได้เจอกับศิษย์เก่าผู้ไม่เอาไหน จึงทำให้เขาต้องผันตัวเป็นคนผลิตยาเสพติดและต้องข้องเกี่ยวกับแก๊งผู้มีอำนาจ
ในบรรดาซีรีส์ชื่อดังมากมายที่สร้างกันมา “Breaking Bad” (ซึ่งในชื่อฉบับแปลภาษาไทยใช้ชื่อเรื่องว่า ดับเครื่องชนคนดีแตก) มักได้รับการยกย่องจากแทบทุกสำนักในอเมริกา ยกให้เป็นซีรีส์อันดับหนึ่ง ซึ่งก็คู่ควรเช่นนั้นจริง ๆ แล้วยังได้คะแนนเฉลี่ยในเว็บ IMDB ในระดับสูงสุดถึง 9.5 ซึ่งหากประเมินจากจำนวนผู้ร่วมโหวต ถือว่าเรื่องนี้อยู่ในอันดับหนึ่งในบรรดาซีรีส์ทั้งหมด และได้คะแนนเฉลี่ยเหนือยิ่งกว่า Game of Throne เสียอีก
แถมหากดูคะแนนเฉลี่ยของตอนดูหนังออนไลน์ หรือ Episode ที่ดีที่สุด ตอน 14 ใน Season 5 ในชื่อตอน Ozymandias ได้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 10.0 จากจำนวนคนโหวตหลักแสนคน เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของการแสดงเลยก็ว่าได้ (แม้แต่ท่านเซอร์แอนโธนี ฮอปกินส์ หลังจากได้ดูตอนนี้แล้วถึงกับออกมาบอกว่า Bryan Cranston ที่เล่นเป็นวอลเตอร์ไวท์ ตัวเอกของเรื่อง แสดงได้เก่งกว่าตัวเขาเเสียเอง)
มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไม Breaking Bad ได้รับการยกย่องมากขนาดนั้น ถึงขั้นที่มีบางคนพูดกันว่า ถ้าเรื่องนี้ยังฉายไม่จบไปซะก่อน บางที Game of Throne อาจจะไม่ได้รางวัล Emmy Awards ในปี 2015
บางคนอาจจะรู้สึกว่า โห มันเจ๋งขนาดนี้เลยเหรอ แต่ด้วยเนื้อหาที่ดูแล้วค่อนข้างหนักหน่วง จริงจัง แถมเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ โลกอาชญากรรม การค้ายา Gangster เรื่องราวก็ค่อนข้างดาร์ก มีหลายฉากที่ใช้ความรุนแรงระดับเรต 18+ ตัวละครในเรื่องหลายคนพร้อมจะฆ่ากันง่ายมาก ๆ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบเรื่องราวที่มันโหดดิบแนวนี้ แถมยังมีถึง 5 Season แล้วจากที่พบว่า บางคนลองเปิดดูตอนแรก จะรู้สึกว่าการเดินเรื่องค่อนข้างเนือย ๆ แล้วแบบนี้แล้วจะสนุกจริงหรือ
เอาเป็นว่าในเมื่อหนังภาคต่อของเรื่องนี้อย่าง El Camino กำลังจะเข้าใน ซีรี่ย์ Netflix แล้ว ก็เลยขอรีวิวเรื่องราวเบื้องต้น รวมถึงแนะนำตัวละครหลักในเรื่อง ซึ่งจะมีบทบาทและคอยขับเคลื่อนเรื่องราว เผื่อว่าหลายคนอาจจะรู้สึกว่าน่าลองเปิดดูกันมากขึ้นครับ
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในรัฐนิวเม็กซิโก ชื่อ อัลบูเคอร์คี ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใกล้พื้นที่ทะเลทราย เมื่อครูสอนวิชาเคมีในโรงเรียนไฮสคูลคนหนึ่ง คือ วอลเตอร์ ไวท์ ได้ตรวจพบว่าตนเองกำลังเป็นมะเร็ง ด้วยความที่กลัวว่าตัวเองตายไป ครอบครัว ภรรยา และลูกชายที่มีความพิการจะใช้ชีวิตลำบาก จึงคิดหารายได้เป็นกอบเป็นกำทิ้งไว้ให้ครอบครัว จนวันหนึ่งโชคชะตาเหมือนเล่นตลก เขาได้บังเอิญดูโทรทัศน์ที่ถ่ายภาพการจับกุมขบวนการผลิต “ยาไอซ์” ที่กำลังแพร่ระบาดในเมือง
ซึ่งน้องเขยของเขาที่เป็นเจ้าหน้าที่ ปราบยาเสพติดรับผิดชอบคดีเหล่านี้อยู่ แล้วเขาก็ได้รู้ข้อมูลว่า สิ่งที่ตำรวจจับมาได้ไม่ใช่มีแค่ยา แต่ยังมีเงินจำนวนมหาศาลที่มาจากการค้ายา เขาจึงเปิดปิ๊งไอเดีย ด้วยการไปหาอดีตนักเรียนคนหนึ่งที่กลายเป็นขี้ยาและเป็นคนขายยา คือ เจสซี พิงค์แมน แล้วชวนให้มาร่วมกันปรุงยาไอซ์ขายเพื่อทำเงิน
ซึ่งปรากฏว่า ครูวอลเตอร์ไวท์คนนี้ก็มีทีเด็ดและความสามารถในด้านวิชาเคมีระดับอิจฉริยะ โดยเรื่องราวจะเปิดเผยออกมาทีละน้อย กระทั่งวอลเตอร์ได้ปรุงผลิตยาไอซ์ที่มีความบริสุทธิ์ถึงขีดสุดชนิดที่แม้แต่โรงงานผลิตยาขั้นเทพยังทำไม่ได้ ทำให้ทั้งสองวางแผนจะนำไปปล่อยขายเพื่อทำเงินก้อนใหญ่
แต่แล้วนั่นก็ทำให้เกิดเรื่องราววายป่วงที่เริ่มต้นจากเรื่องราวเล็ก ๆ แล้วขยายกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โตอีกมากมายตามมา
ตัวละครหลัก
วอลเตอร์ ไวท์
ครูสอนวิชาเคมีในโรงเรียนไฮสคูล ที่เกิดตรวจพบว่าตนเองกำลังเป็นมะเร็ง จึงคิดวางแผนปรุงยาไอซ์ขาย เพื่อเก็บเงินก้อนใหญ่ไว้ให้ครอบครัวคือ ภรรยา และลูกชายที่มีความพิการ
ที่จริงแล้ว วอลเตอร์ ไม่ใช่คนธรรมดา ๆ แบบที่ซีรีส์นำเสนอในตอนแรก ๆ เมื่อดูไปเรื่อย ๆ เราจะเริ่มพบอดีตและเรื่องราวของเขามากขึ้นว่าที่จริงแล้วเขาเป็นนักเคมีอัจฉริยะ ที่เคยถึงขั้นร่วมเปิดบริษัทระดับโลกกับเพื่อนสนิทสองคน แต่ด้วยปัญหาบางอย่างทำให้เขาขายหุ้นบริษัทแล้วออกมาทำงานของตนเอง แต่สุดท้ายด้วยจังหวะชีวิตต่าง ๆ กลับทำให้เขากลายเป็นเพียงครูสอนเคมีบ้าน ๆ คนหนึ่งเมื่ออายุกำลังเข้าเลข 50 กว่า ๆ
หลังจากเข้าสู่วงการโลกใต้ดิน วอลเตอร์ ตั้งฉายาตนเองว่า “ไฮเซนเบิร์ก”
เจสซี พิงค์แมน
หนุ่มขี้ยา ที่ชีวิตวัน ๆ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการพี้ยาและขายยาตามถนน เขาเคยเรียนหนังสือกับ วอลเตอร์ ไวท์ มาก่อน จึงได้รับการชักชวนให้มาปรุงยาขายด้วยกันในฐานะหุ้นส่วน โดยในเรื่อง เจสซี จะเรียกวอลเตอร์ว่า มิเตอร์ไวท์ (ครูไวท์) ทั้งเรื่อง
ที่จริงแล้วเจสซีเป็นพวกที่อ่อนไหวมากๆ โดยเฉพาะกับเด็กและผู้หญิง (ถือว่าเป็นจอมดราม่าคนหนึ่งในเรื่อง) เขาเป็นคนที่วอลเตอร์ ให้ความรักและไว้วางใจมากที่สุดคนหนึ่งในเรื่อง อาจเป็นเพราะในขณะที่คนรอบตัววอลเตอร์ไม่ค่อยมีใครให้ความนับถือหรือยอมรับความสามารถของเขามากนัก แต่แล้ว เจสซี หนุ่มติดยากลับเป็นคนแรก ๆ ที่ให้ความเคารพต่อวอลเตอร์ในฐานะหุ้นส่วน หลังจากทั้งสองร่วมมือกัน แม้จะมีทะเลาะและขัดแย้งกันบ้าง แต่เจสซีก็มีส่วนมากในการสร้างอาณาจักรยาไอซ์ของไฮเซนเบิร์ก
สกายเลอร์ ไวท์
ภรรยาของวอลเตอร์ อายุห่างจากวอลเตอร์พอสมควร ทั้งสองมีลูกด้วยกันสองคนคือ คนโตคือ วอลเตอร์ ไวท์ จูเนียร์ ซึ่งก็ป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับความพิการทางสมองและเส้นประสาท และลูกสาวคนเล็กที่จะเพิ่งเกิดในระหว่างซีรีส์อีกหนึ่งคน สกายเลอร์เป็นแม่บ้านทั่วไปที่มีความกังวลในพฤติกรรมของวอลเตอร์ที่ผิดปกติหลายเรื่อง ภายหลังเธอจึงพบความจริงที่น่าตกตะลึง
วอลเตอร์ ไวท์ จูเนียร์
ลูกชายของวอลเตอร์และสกายเลอร์ มีความพิการทางสมองมาตั้งแต่เกิด แม้ว่าจะสามารถพูดคุย สื่อสาร เหมือนคนปกติ แต่ก็ต้องใช้ไม้เท้าช่วย ถึงอย่างนั้นเขามีระดับทางสติปัญญาเหมือนคนทั่วไป ตอนที่รู้ว่าพ่อตัวเองเป็นมะเร็ง ก็คิดหาหนทางระดมเงินทุนเพื่อช่วยค่าผ่าตัดทางอินเทอร์เน็ตได้ด้วย จูเนียร์ ยังเป็นคนรักความยุติธรรมสูงมากด้วย
แฮงค์ ชเรเดอร์
น้องเขยของวอลเตอร์ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ปราบยาเสพติด บุคลิกโผงผาง จริงใจ เป็นห่วงครอบครัวของวอลเตอร์ที่ต้องเผชิญมรสุมชีวิตมาก ภายหลังเขาเริ่มสืบสวนคดีที่มียาไอซ์สีฟ้าบริสุทธิ์ออกสู่ตลาด และมีหลายครั้งที่การสืบสวนของเขาสุ่มเสี่ยงจะสาวถึงตัววอลเตอร์และเครือข่ายของเขา
มารี ชเรเดอร์
น้องสะใภ้ของวอลเตอร์ ภรรยาของแฮงค์ เป็นห่วงสถานการณ์ครอบครัวของพี่สาวมาก แต่ตัวเธอก็มีปัญหาทางจิตบางอย่างอยู่ นิสัยเป็นคนชอบเม้าท์เรื่องต่าง ๆ
ซอล กู้ดแมน
ทนายชื่อดังซึ่งเน้นการรับว่าความให้คนที่กำลังมีปัญหาและทำความผิด ซอลเป็นทนายมากเล่ห์ รอบจัด ภายหลังเขาได้ร่วมงานกับวอลเตอร์และเจสซีในฐานะหุ้นส่วนที่ช่วยดูแลเรื่องทางกฎหมาย
รับหน้าที่ดูแลวอลเตอร์และเจสซีในหลายด้าน รวมถึงด้านการเงิน เรื่องที่น่าทึ่งคือ แม้จะเป็นทนายมากเล่ห์ แต่โดยเนื้อแท้ซอลไม่ใช่คนเลวร้าย มีหลายครั้งที่วอลเตอร์กับเจสซีสามารถไว้ใจเรื่องเงินกับเขาได้เต็มที่ ชื่อจริงของเขาคือ จิมมี แม็คกิลล์ ซึ่งเรื่องราวเบื้องหลังของเขาจะได้เป็นตัวเอกในซีรีส์ที่ Spin-Off ออกมาในชื่อ Better Call Saul โดยจะเล่าว่า ก่อนที่จิมมี ทนายดวงซวยคนหนึ่งจะกลายมาเป็น ซอล มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
กัสตาโว่ ฟริงก์
มักถูกเรียกสั้น ๆ ว่า “กัส” เขาเป้นเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังในเมือง อัลบูเคอร์คี ฉากหน้าเป็นเจ้าของธุรกิจร้านขายไก่ชื่อดังในเมือง กัสเป็นคนเย็นชา สีหน้ามักไร้อารมณ์เสมอ ทำให้อ่านยากว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ วอลเตอร์ตามหาเขาเพื่อหวังจะใช้เครือข่ายการจำหน่ายยาไอซ์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น และยกระดับการผลิตจากขนาดเล็ก ๆ ไปสู่ระดับโรงงาน ในเรื่องเคยมีการเปิดเผยว่ากัสเคยมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มกบฏในประเทศชิลี เขาจึงมีเครือข่ายที่มาธรรมดา ต่อมาเขามีเรื่องราวความแค้นกับกลุ่มพ่อค้ายาในเม็กซิโกที่สังหารเพื่อนของเขา จึงวางแผนที่จะแก้แค้นมาตลอด และดึงวอลเตอร์กับเจสซีมาเป็นเครื่องมือด้วย
ไมค์ เออร์แมนเทราต์
อดีตตำรวจตกอับ ที่กลายมาเป็นมือปืนแถวหน้าในวงการใต้ดินของเมือง เขารับทำงานให้กัส ในการจัดการเก็บกวาดดูแลเรื่องต่าง ๆ เขามีความเอ็นดูและห่วงเจสซีเป็นพิเศษ ไมค์เป็นคนแรก ๆ ที่มองออกว่า วอลเตอร์ คือตัวอันตรายยิ่งกว่าที่ใครคาดไว้
โดยรวม
สำหรับบรรดาตัวละครในเรื่อง จะมีความเทา ๆ ไม่มีใครขาวหรือดำสนิท ทุกคนมีแง่มุมและเหตุผลในการขับเคลื่อนเรื่องราวของตนเอง แต่มันสะท้อนชีวิตคนในสังคมอเมริกันชนิดลากไส้ออกมา และไม่ใช่แค่คนอเมริกันเท่านั้น แต่มันจะสะท้อนถึงทุกสังคมในโลกเลยก็ว่าได้ ว่าในเมื่อชีวิตมันไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ถ้าอย่างนั้นก็ขอทำอะไรตามใจตนเองให้เต็มศักยภาพที่ตัวเองมีสักครั้งมันจะเป็นอะไรไป แต่เมื่อความบ้ามันหยุดไม่อยู่ ไอ้สิ่งที่ตามมาก็คือความวายป่วงที่เป็นทั้งเรื่องซีเรียสและตลกร้ายชนิดที่คนดูแทบจะเดาแต่ละเหตุการณ์ไม่ถูกเลยว่า จะเกิดอะไรตามมาในแต่ละตอน ซึ่งนี่คือเสน่ห์ร้ายอย่างเหลือเชื่อของเรื่องนี้
สรุป
สำหรับคนที่สนใจเรื่อง Breaking Bad ก็แนะนำให้ลองเริ่มดูเลย เนื่องจากหนัง El Camino ที่กำลังจะเข้าฉายนั้น ทางผกก. วินซ์ กิลลิกัน เปิดเผยแล้วว่าจะต่อมาจากตอนจบของซีรีส์ และตัวหนังก็จะไม่ปราณีกับคนทที่ไม่ได้ดูมาก่อนเลย เนื่องจากนี่จะเป็นหนังที่ทำขึ้นมาเพื่อสนองแฟน ๆ ซีรีส์เรื่องนี้ที่มีอยู่ทั่วโลกโดยแท้ ซึ่งหากพลาดไปจะน่าเสียหายมาก สำหรับซีรีส์อันดับ 1 ของอเมริกาเรื่องนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น