วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2563

Little Miss Period - เซย์ริจัง น้องเมนส์เพื่อนรัก

หนัง HD

รีวิว Little Miss Period - เซย์ริจัง น้องเมนส์เพื่อนรัก

หลายครั้งที่หนังญี่ปุ่นชอบหยิบจับประเด็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ใกล้ตัวมา ‘เล่นใหญ่’ จนเมสเซจเล็ก ๆ นั้นมันมีความน่าสนใจขึ้นมาได้ เช่นเดียวกับ Little Miss Period หรือ ‘น้องเมนส์เพื่อนรัก’ หนังที่กลายเป็นไวรัลในญี่ปุ่นโดยเฉพาะการพูดถึงเรื่องเขิน ๆ อย่างประจำเดือนออกมาให้ impact ต่อยอดจนห้างดังอย่างไดมารู ออกนโยบายติดสัญลักษณ์ ‘เซย์ริจัง’ หรือ น้องเมนส์ ที่เสื้อของพนักงานให้ลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงานเข้าใจผู้หญิงที่กำลังอยู่ในช่วงแดงเดือดมากขึ้น รีวิว Little Miss Period

เรื่องย่อ

‘Little Miss Peiod เซย์ริจัง น้องเมนส์เพื่อนรัก’ เดิมเป็นมังงะที่ดังในโลกออนไลน์ในปี 2017 ก่อนจะถูกแปลงมาเป็นภาพยนตร์ Live-action ซึ่งเล่าเรื่องของ ‘น้องเมนส์’ ผ่าน 3 สาวคือ “อาโอโกะ” (ฟูมิ นิไคโด) บรรณาธิการสาวในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งที่ต้องทำหน้าที่ส่งต้นฉบับให้ทันก่อนเดดไลน์, “ฮิคารุ” (ริซากิ มัตสึคาเสะ) เด็กสาว ม.ปลาย ที่กำลังอินเลิฟกับเพื่อนชายช่วงระหว่างเตรียมสอบ และ “ริโฮะ” (ซาอิริ อิโตะ) พนักงานทำความสะอาดที่มีพรสวรรค์การเป็นนักเขียนซึ่งบังเอิญตกหลุมรักหนุ่มในสำนักพิมพ์เดียวกับ อาโอโกะ โดยพวกเธอต้องเผชิญกับประจำเดือนที่มาในรูปของมาสคอตสีชมพูตัวใหญ่ซึ่งมีชื่อว่า “เซย์ริจัง” และต้องแบกมันไปใช้ชีวิตประจำวันด้วย

ตัวหนังเลือกตัดสลับเล่าเรื่องของแต่ละตัวละคร ประกอบกับการแคสต์นักแสดงที่ค่อนข้างดีงาม ทุกคนมีคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่นสมวัยและมีอินเนอร์ของตัวละครนั้นให้เชื่อ ตัวละครหลักมีพัฒนาการที่เปลี่ยนไปทั้งในแง่ของมุมมองชีวิตและมุมมองที่มีต่อน้องเมนส์ แล้วมีจังหวะสอดแทรกมุกตลกแบบนิ่งหน้าตายที่เรียกเสียงฮาได้ตลอด และที่เพิ่มเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้คือ การขายความจิ้นนี่แหละ! ทำให้ตัวหนังไม่น่าเบื่อเลย แถมเมสเซจหลักเรื่องของการทำให้คนดูได้เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงที่เป็นเมนส์นั้นก็ปังมาก

หนังรู้จักหยิบยกเปรียบเทียบ เปรียบเปรยให้เห็นภาพ ชนิดเคี้ยวมาให้ย่อยง่ายที่สุด มีทั้งเซย์ริจังเวอร์ชันตัวเล็กตัวใหญ่ ให้รู้ว่าช่วงไหนใครกำลังเจอกับวันมามากมาน้อย รวมทั้ง ‘ครั้งแรก’ แตกวัยสาว ที่ไม่รู้จะรับมืออย่างไร ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่ดูหนังเรื่องนี้ บอกได้เลยว่าหนังทำให้เรารู้สึกเห็นใจผู้หญิงมากขึ้น ชอบมากกับวิธีนำเสนอเรื่องหนัก ๆ ให้ดูซอฟต์และเข้าใจได้ทันที โดยเฉพาะนอกเหนือจาก ‘น้องเมนส์’ แล้วยังมีมาสคอต ‘น้องยังซิง’ ไว้แทนพรหมจรรย์ของตัวละคร และมาสคอต ‘น้องเซ็กซ์ไดรฟ์ ‘ ที่แทนความต้องการทางเพศของฝ่ายชาย คือพอไอ้เจ้าสองตัวนี้โผล่ออกมาเนี่ย เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ฮาเลย แถมเจอซับเกรียน ๆ ฮา ๆ ของเพจ ‘ซับจริงจัง’ ที่มาแปลซับให้หนังเรื่องนี้แล้วบอกเลย บันเทิงขั้นสุด

‘เซย์ริจัง’ ไม่ได้เป็นเหมือนภาระที่น่าหนักใจของคุณผู้หญิงเท่านั้น แต่ในหนังเรื่องนี้มันยังทำหน้าที่เป็นเหมือนเพื่อนให้คำปรึกษาในการเติบโตและใช้ชีวิตและพร้อมจะอยู่ข้าง ๆ อีกด้วย แม้จะถูกมองว่าเป็นหนังที่โฟกัสเรื่องการเป็นกระบอกเสียง แต่หนังก็ทำได้ครบเครื่องดี ไม่ว่าจะเป็นการสอดแทรกมุกตลกและพาร์ตดราม่าและ coming of age ของตัวละครในแต่ละช่วงวัย เรียกว่าเป็นหนังที่ดีในตัวของมันเองและยังเป็นงาน commercial ที่ยอดเยี่ยม ภายใต้กรอบเวลาที่กระชับ ดูง่ายและฟีลกู้ด เปรียบเสมือนเป็นวิชาเพศศึกษาชั้นดีของท่านชาย พ่วงกับกรขายแคสต์นักแสดงที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีภาพจำได้ง่าย ๆ และสุดท้ายคือมันส่งเมสเซจที่ทรงพลังในการสอนให้คนเราเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับสิ่งที่เราไม่ถูกใจ ซึ่งภายใต้ความไม่ถูกใจและสิ่งที่เราคิดว่าไม่ดีนั้น มันก็ยังมีมุมดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน

วิจาร์ณ

สารภาพว่าตอนได้ยินพล็อตครั้งแรกมีอาการ “เหวอๆ” อยู่ไม่น้อย ก่อนจะทุเลาลงเมื่อตระหนักได้ว่านี่คือหนังญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง (ซึ่งดูไม่แปลกใจเสียเท่าไหร่) เรื่องราวของสาว 3 คนกับประจำเดือนที่มาในรูปแบบของเพื่อนรัก (และบางครั้งก็เกลียด) เรื่องนี้ ฟังดูเผินๆอาจจะเป็นหนังตลกสุดหรรษาบ้าบอคอแตก แต่เนื้อแท้แล้ว "Little Miss Period" คือภาพยนตร์ดราม่าน่ารักที่พาเราไปสำรวจมวลความคิดและความรู้สึกของผู้หญิงต่อสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตผ่านช่วงวัย วุฒิภาวะ และความเป็นปัจเจกที่ทำให้ต่างกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนต่างมีเพื่อนคนเดียวกันนั่นคือประจำเดือน เพื่อนที่ทำให้ชีวิตพวกเธอยุ่งยากแสนลำบาก เพิ่มเลเวลความซับซ้อนให้ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ทำไปทำมาประจำเดือนก็มีคุณค่าที่น่าสนใจ ทั้งในมุมของแฟนตาซีและการมองด้วยสายตาความจริง มันคือสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต่างมีและเผชิญร่วมกัน เป็นสายใยความสัมพันธ์ที่เชื่อมพวกเธอเอาไว้อย่างน่าประหลาดแต่งดงาม

สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างน่าอิจฉาไม่ว่าจะเป็นวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ก็คือความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมที่ไม่ได้ผูกขาดอยู่กับหนังไม่กี่แนว เป็น 1 ในสาเหตุที่เราได้เห็นภาพยนตร์ไอเดียแหวกๆ มากมายไหลลงสู่ตลาดและโรงภาพยนตร์ โดยหากยังจำกันได้เมื่อปลายเดือนที่แล้วเราก็เพิ่งจะได้เอาใจช่วยสวนสัตว์กลวงๆ ในภาพยนตร์เกาหลีอย่าง Secret Zoo กันไปหมาดๆ มาช่วงเดือนนี้หากอยากหาภาพยนตร์เอเชียไอเดียแปลกๆ ดูง่ายๆ เพลินๆ Little Miss Period น่าจะพอเป็นคำตอบให้คุณได้

ภาพยนตร์จะพูดถึงสาวๆ หลากวัยที่ต้องเผชิญกับภาวะเมนส์มาไม่ว่าจะคนทำงาน, คนที่ไม่มั่นใจตัวเอง, วัยเรียน และวัยเริ่มมี โดยจะเล่าถึงชีวิตประจำวันทั่วไปที่ต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องต่างๆ ซึ่งในทุกๆ เดือน ขณะที่ชีวิตวุ่นวายอยู่แล้ว พวกนางก็จะต้องคอยรับมือกับการปรากฎตัวของเซย์ริจังที่มักจะมาได้ถูกที่ถูกเวลาอยู่เสมอนั่นเอง

ด้านเนื้อเรื่อง

Little Miss Period (หรือ Seiri-chan) ดัดแปลงมาจากการ์ตูนออนไลน์ดังในชื่อเดียวกันของ เคน โคยาม่า นักวาดการ์ตูนชายในปี 2017 บอกเล่าเรื่องราวในแต่ละ(ประจำ)เดือนของหญิงสาม 3 คน 3 ช่วงเวลาที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาและสถานการณ์ที่ต่างกัน

ประกอบด้วย อาโอโกะ บรรณาธิการสาวสำนักพิมพ์ที่ต้องรีบส่งต้นฉบับให้ทันก่อนเดดไลน์ โดยในขณะเดียวกันเธอก็ต้องหาทางสร้างความสัมพันธ์กับลูกสาวของแฟนใหม่ที่ยังไม่เปิดใจยอมรับเธอ, ฮิคารุ นักเรียนสาวผู้กำลังฝ่ามรสุมการสอบแต่นั่นไม่เท่ากับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเมื่อเธอได้อยู่ใกล้แฟนหนุ่มแบบสองต่อสอง, ริโฮะ ภารโรงสาวออฟฟิศที่แท้จริงแล้วเธอคือบล็อกเกอร์มากความสามารถ เปี่ยมไปด้วยฝีมือการเขียนแต่เลือกที่จะซุกซ่อนตัวตนแท้จริงเอาไว้

ทั้ง 3 คนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างใดในเส้นเรื่องหลัก หากแต่มีความสัมพันธ์บาง ๆ เชื่อมพวกเธอเอาไว้ รวมถึงการปรากฏตัวของ “เซย์ริจัง” เจ้ามาสต็อตสีชมพูตัวใหญ่ (แต่ตัวเล็กก็มีนะ) ที่มาเป็นตัวแทนของประจำเดือน คอยปั่นป่วนประจำวันของสาว ๆ ให้ใช้ชีวิตยากลำบากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ “Period Punch” หรือหมัดชกประจำเดือน ท่าไม้ตายสุดฮาที่จะทำให้สาว ๆ ปวดท้องน้อยเหมือนเป็นประจำเดือน แต่ในขณะเดียวกันท่านี้ก็สามารถต่อกรกับผู้ชายพฤติกรรมแย่ๆ ได้ด้วยเช่นกัน หากพวกเขาไม่เข้าใจในความทุกข์ของเหล่าผู้หญิงเลย

เอาจริงๆ Little Miss Period มันไม่ได้วางตัวเองเป็นหนังมีพล็อตมากนัก แต่เหมือนเป็นการฉายภาพชีวิตประจำวันของพวกเธอในทุก ๆ เดือนที่ต้องพบปะกับเจ้า เซย์ริจัง เสียมากกว่า เพราะฉะนั้นมันมีความสนุกอยู่ในตัวผ่านคอนเซ็ปต์ตั้งแต่เริ่มต้น ผ่านความกวนๆ เพี้ยนๆ ที่เกิดขึ้นตามรายทาง

ส่วนเส้นเรื่องเป็นการขยับเขยื้อนดราม่า พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเจ้ามาสค็อตให้ไปสู่ทิศทางที่น่าสนใจ ความไปเรื่อยของหนัง กับท่าทีจริงจังในช่วงท้ายออกมากำลังพอดิบพอดี เหมือนเป็นไดอารี่บันทึกประจำเดือน บันทึกความคิด อารมณ์ และชีวิตช่วงนั้นว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง บ้างสำคัญ และบ้างก็ไม่ได้มีอะไร สิ่งที่น่าสนใจคือหนังหยิบเอาช่วงวัยมานำเสนอในแต่ละตัวละครด้วย มันช่วยเล่าทั้งในแง่ของปัญหาที่เด็กผู้ใหญ่มีต่างกัน รวมไปถึงการมีตัวตนของประจำเดือนที่ยิ่งเติบโตยิ่งเคยชินกับเพื่อนรักคนนี้ ชอบที่หนังอธิบายง่ายๆเลยผ่านขนาดตัวของ เซย์ริจัง ที่แทนค่าของ “การมา” ว่ามากน้อยแค่ไหน

เคมีระหว่างตัวละครสาวกับเจ้าประจำเดือนเป็นอะไรที่เพี้ยนอยู่ไม่น้อย (ชม) แม้ว่าเอาเข้าจริงมันก็เหมือนกับที่ ยุ่น สนทนากับร่างกายตัวเองใน ฟรีแลนซ์ฯ (2558) นั่นแหละ หนังมันพูดถึงความว้าวุ่นในใจ การเก็บความรู้สึกและความคิดบางอย่างไว้ข้างใน ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีใครเข้าใจ นอกจาก เซย์ริจัง หรือประจำเดือนของตัวเองที่เป็นเหมือนเพื่อนคอยปลอบประโลมความรู้สึก ให้คำแนะนำต่างๆ

มันอาจจะฟังดูแฟนตาซีแต่กลับไหลลื่นไปกับหนัง HDอย่างน่าสนใจ เมื่อหนังร้อยเรียงไปพร้อมๆ กับเหล่าตัวละครชายที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจความรู้สึกของพวกเธอเท่าไหร่นัก (ไปจนถึงการละเลย) การที่พวกเธอเป็นเพื่อนต่อกันและกัน หรือกระทั่งมีประจำเดือน (อันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงผลักไสได้) จึงเป็นความอบอุ่นที่พิเศษของหนัง ที่ไม่เพียงแค่เอาหยิบความจริงมาล้อเล่นอย่างสนุกนานอย่างเดียว แต่นำเสนอพื้นที่ของเรืองราวใหม่ๆ ให้กับผู้ชมด้วย เพราะเหนือสิ่งอื่นใด การมีคนคอยรับฟังทุกๆ เรื่องในชีวิตของเราเป็นอะไรที่โคตรรู้สึกดี

รีวิว Little Miss Period


ในแง่ของเนื้อเรื่องต้องบอกว่ามันไม่ได้มีอะไรที่ตื่นเต้นเร้าอารมณ์หรือชวนฮาหัวสั่นหัวคลอน สิ่งที่หนังเรื่องนี้นำเสนอก็คือชีวิตในแต่ละช่วงวัยของเหล่าสาวๆ ที่ต่างใช้ชีวิตของตน เจออีเวนต์เฉพาะตัว แต่สิ่งที่เหมือนกันแทบทั้งสิ้นคือพวกนางล้วนมีน้องเมนส์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประวันในช่วงหนึ่งของทุกๆ เดือน
ดังนั้นแล้วเว็บสตรีมหนังมันอาจมีช่วงที่เรารู้สึกว่าชวนหลับอยู่บ้าง เพราะมันดูเรื่อยๆ สบายๆ แทรกมุขมาบ้างแม้ไม่ฮาระเบิดแต่ก็ได้ขำ ถึงอย่างนั้นความหมายแฝงข้อคิดดีๆ ก็มีอยู่ไม่น้อย รวมไปถึงการปรากฎตัวของมาสคอตอีก 2 ตัวของผู้ชายอย่าง น้องคึก และ น้องยังซิง ที่ช่วยให้เนื้อเรื่องมีสีสันขึ้นเยอะ โดยเฉพาะแล้วกับน้องคึกที่มาพร้อมกับมุขสำหรับผู้ชายที่แท้ทรู ชนิดที่หากคุณเสพย์สื่อผู้ใหญ่มานักต่อนักก็เป็นได้ขำตัวโยกทุกครั้งที่น้องคึกมีซีนแน่นอน

ประเด็นสำคัญ

อีกประเด็นที่ชอบคือการพูดถึงคุณค่าในตัวเรา ซึ่งเล่าผ่าน ริโฮะ ภารโรงสาวที่มองว่าคนแบบตัวเองไม่มีวันได้เป็น ‘ตัวเอก’ ในชีวิตจริงได้ เธอจึงเลือกที่จะซุกซ่อนตัวตน ปกปิดการเป็นบล็อกเกอร์ออนไลน์ไม่ให้ใครรู้ กระทั่งความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพนักงานหนุ่มในออฟฟิศ ริโฮะ ก็ยังรู้สึกว่าตนไม่คู่ควรสำหรับเขา ซึ่งเป็นปัญหาที่เจ้า เซย์ริจัง เข้ามาแก้ไข ให้เธอได้ทบทวนถึงคุณค่าในตัวเองอีกทีว่าแท้จริงแล้วการที่เธออยู่ในจุดนี้ เพราะเธอไม่คู่ควรจริงๆ หรือเพราะเธอเลือกที่จะบอกกับตัวเองเสมอมาแบบนั้นกันแน่ เชื่อว่านี่น่าจะเป็นหัวข้อของหนังที่ทำให้ใครหลายคนอิน หนังพยายามบอกให้เรานับถือตัวเอง ให้คุณค่ากับตัวเอง และยอมรับสิ่งที่เราเป็น โดยไม่ตั้งแง่หรือเลือกที่จะคิดลบกับทุกๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามา

อย่างไรก็ดี อาจเพราะความเดินเรื่องง่ายๆ เรียบๆ ของมันก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเข้าใจผู้หญิงที่กำลังเป็นเมนส์มากขึ้นนัก จากบริบททางสังคมปัจุบันที่ผู้ชายก็พอจะรู้ประมาณหนึ่งว่าอาการของผู้หญิงที่เป็นเมนส์นั้นมีอะไรบ้าง หรือส่งผลต่ออะไรบ้าง ผมมองว่าโดยเนื้อแท้ของตัวหนังนั้นไม่ผิดที่จะเล่าออกมาอย่างนี้ เพราะในภาพรวมก็เข้ากับโทนดี แต่พอหนังโดนปูพรมโปรโมตว่า "จะมาทำให้ผู้ชายเข้าใจผู้หญิงที่เป็นเมนส์มากขึ้น" มันก็อดทำให้เราคาดหวังไปมากกว่าที่เป็นอยู่ไม่ได้ว่าอาจมีอะไรที่เราไม่รู้รออยู่

สรุป

Little Miss Period กลายเป็นกระแสในสังคมญี่ปุ่นที่ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวาง เพราะสำหรับพวกเขาการเอ่ยถึงประจำเดือนถือว่าเป็นสิ่งที่สกปรกและต้องห้าม การนำเสนอเรื่องราวผ่านมาสค็อตสีชมพูน่ารักจึงเป็นไอเดียที่น่าสนใจ และเข้ามาหักล้างกับความเชื่อเดิมๆได้เป็นอย่างดี, นี่คือภาพยนตร์ คอมเมดี้-น่ารักๆ ที่อยากให้ทุกคนไปลองชมกัน

แม้ว่าตัวพล็อตจะดูเป็นผู้หญิงมากๆ แต่เราว่ามันคือหนังที่ทำมาให้ผู้ชายดูได้ด้วยเช่นกัน ผ่านเส้นเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ต้องปรับความเข้าใจกัน หรือกระทั่งการได้เห็นและสำรวจความวายป่วงของเหล่าสาวๆ ช่วงประจำเดือนมาก็เป็นหนึ่งในข้อมูลชั้นดีที่ควรรู้ติดตัวไว้ ใครที่ชอบหนังญี่ปุ่น หรือหนังอบอุ่นหัวใจผสมผสานระหว่างความตลกแสบๆ กับประเด็นง่ายๆ ที่ดูแล้วมีความสุขไปชมกันครับ จริงๆ หนังมีเซอร์ไพรซ์ด้วยเพราะไม่ได้ออกมาแค่เจ้า เซย์ริจัง ตัวเดียว แต่ยังมีมาสค็อตอื่นๆ ที่โคตรพีคไม่ต่างกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น