รีวิว Robin Hood - พยัคฆ์ร้ายโรบินฮู้ด
เรื่องราวของตำนานกว่า 800 ปี ที่ถูกนำมาเล่าใหม่อีกครั้ง หลังจากเคยถูกทำเป็นหนังมาแล้วหลายเรื่อง (และคะแนนไม่ค่อยดีเลยสักภาค แถมภาคนี้คะแนนยังแย่สุดเลย) แต่ในภาคได้ดาราชื่อดังอย่าง Taron Egerton, Jamie Foxx, Jamie Dornan และ Ben Mendelsohn มาแสดงนำด้วย เรียกได้ว่าฟอร์มยักษ์ไม่ใช่เล่น และแอบมีหวังเล็กๆ รีวิว Robin Hoodเรื่องย่อ
“Robin Hood” ผลงานภาพยนตร์โปรเจกต์ยักษ์ที่นำเรื่องราวของยอดวีรบุรุษจอมโจรมาเล่าตีความในมุมมองใหม่ บู๊กว่า ดุดันกว่า และการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่า รับประกันว่าผู้ชมยังไม่เคยได้สัมผัสในเวอร์ชั่นใดมาก่อน โดยหยิบยกเรื่องราวช่วงยุคเริ่มต้นของตำนานโรบิน ฮูดหลังจากที่เขาไปร่วมรบในสงครามครูเสด เมื่อกลับมาจึงพบว่าเมืองของเขาถูกคนชั่วยึดครอง โรบิน ฮูดจึงรวบรวมตั้งกองกำลังใหม่เพื่อลุกขึ้นต่อสู้
จากเรื่องเล่าที่มีประวัติยาวนานมากว่า 800 ปี ว่าด้วยจอมโจรที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ฉ้อฉลและช่วยเหลือชาวบ้านตาดำ ๆ ก็เป็นความคลาสสิกและโรแมนติกที่ทุกสังคมล้วนเผชิญและอัดอั้นคล้าย ๆ กัน และถ้านับเอาเฉพาะฉบับภาพยนตร์ก็ถือว่ามีการทำหนังมากว่า 110 ปีแล้วนับแต่ Robin Hood and His Merry Men (1908) หนังสั้นขาวดำที่ถือเป็นหนังโรบิน ฮูดเรื่องแรก
มาปีนี้ โรบิน ฮูด กลับมาอีกครั้งโดยการอำนวยการสร้างของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ โดยดึงผู้กำกับใหม่ถอดด้ามในวงการจอเงินแต่เก๋าในวงการจอแก้วทั้งซีรีส์ Black Mirror และกำลังมีผลงานในปีหน้ากับ His Dark Materials อย่าง ออตโต บาตเฮิร์ส มากำกับ
พ่วงด้วยดาราดังคับคั่งที่คัดตัวกันอย่างโชกเลือดกว่าจะได้แต่ละคนมา ทั้ง ทารอน อีเกอร์ตัน ที่คุ้นตาจากหนัง Kingsman มารับบท โรบิน ฮูด ที่ปรับลุคให้ดูวัยรุ่นขึ้น (ให้อารมณ์หนัง Kingsman ภาคแรกเหมือนกันนะ) และมีภูมิหลังเป็นอดีตทหารครูเสด โดยมีผู้ช่วยฝึกสอนวิชาและคู่หูนาม ลิตเติ้ล จอห์น รับบทโดย เจมี่ ฟ็อกซ์
ซึ่งก็ปรับลุคจากชายสูงใหญ่ล่ำบึ้กมาเป็นชายผิวสีดูเข้มน่ากลัวแทน และได้ตัวร้ายที่ให้บรรยากาศชวนเสียวหลังอย่างเบน เมนเดลโซห์ ตัวร้ายจากเรื่อง Rogue One: A Star Wars Story มารับบทนายอำเภอผู้มีปมกำพร้าและต้องการล้างแค้นทุกคนให้ลำบากเช่นเดียวกับเขา ซึ่งก็สร้างมิติใหม่ ๆ น่าสนใจให้ภูมิหลังตัวละครมากขึ้นด้วย
นอกจากเนื้อหาที่รู้ ๆ กันดีแล้วอย่างการเป็นผู้นำชุมชนลุกขึ้นสู้กับอำนาจทรราชย์แล้ว หนังยังมีซับพล็อตเรื่องความรักสามเส้าเข้ามาอีก เมื่อหนึ่งในผู้นำกลุ่มต่อต้านนายอำเภอที่แสดงโดย เจมี่ ดอร์แนน จากหนัง Fifty Shades of Grey (2015) ก็ตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกับโรบิน ฮูด โดยนางเอกของเรื่องก็ได้ อีฟ ฮิวสัน ลูกสาวสุดสวยของ โบโน่ แห่งวง U2 มารับบทนำด้วย
ซึ่งหนังก็วางตัวละคร 3 เส้านี้ได้น่าสนใจสามารถเล่นเผื่อมีภาคต่อได้สบาย ๆ แถมทวีความเข้มข้นมากขึ้นด้วย เพราะดอร์แนนเป็นสายหลักการต่อสู้อย่างสันติ ในขณะที่โรบินเป็นสายก่อการร้าย ซึ่งขัดแย้งโดยหลักการกันเอง
สิ่งที่หนังทำได้น่าสนใจนอกจากการปรับลุคตัวละครให้มีความแตกต่างน่าสนใจจากฉบับเก่า ๆ และการปรับเมืองน็อตติ้งแฮมที่เป็นฉากหลังจากยุคกลาง มาสู่เมืองศูนย์กลางยุคอุตสาหกรรมของอังกฤษที่ดูทันสมัยและเสื่อมโทรมทางจริยธรรมไปพร้อมกันแล้ว หนังยังจริงจังมากกับการใส่ฉากแอ็กชั่นที่คิดมาแบบละเอียด
ทั้งการให้อีเกอร์ตันฝึกสตันท์การยิงธนูไวแบบโบราณที่ทำได้ถึง 3 ดอกในเวลา 2 วินาที การกระโจนตัวกลางอากาศยิงเป้าเคลื่อนที่ และท่าสตันท์กับการยิงธนูอีกหลายหลาก โดยได้โปรด้านธนูสไตล์โบราณเจ้าของสถิติโลกอย่าง สตีฟ ราล์ฟส และ ลาร์ส แอนเดอร์เซน มาฝึกโดยเฉพาะเพื่อให้ภาพที่มีความน่าสนใจและรู้สึกว่าธนูอาวุธคู่กายของโรบิน ฮูด นั้นทรงพลังมากที่สุดด้วย
ซึ่งนอกจากท่าทางแล้วหนังยังได้ครีเอทีฟอาวุธอย่าง ทิม ไวล์ดกูส มาทำอาวุธจากพื้นฐานธนูให้ทรงพลังขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หน้าไม้ที่ยิงได้ต่อเนื่องไม่ต่างจากปืนกล หรือ ปืนอาร์พีจีแบบยิงลูกธนู 30 ดอกพร้อมกัน เป็นต้น และอาวุธที่ใช้ในเรื่องทุกชิ้นสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งทำให้เราได้เห็นความจริงจังในการสร้างฉากต่อสู้และสงครามที่น่าจดจำอย่างมาก
วิจาร์ณ
โดยในเรื่องนี้เขาได้เคลมมาว่าจะเป็นเรื่องราวสดใหม่ของโรบินฮู้ดที่ไม่เคยถูกเล่าที่ไหนมาก่อน ซึ่งเนื้อเรื่องมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโรบินฮู้ดที่ไปร่วมรบในสงครามครูเสดเป็นเวลาหลายปี และกลับมาเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้แก่ตนเองและบ้านเมือง จากเจ้าเมืองน็อตติ้งแฮมบทและการดำเนินของเรื่องของเรื่องนี้เป็นเส้นตรงมาก และง่ายดายแบบสุดๆ ไม่ซับซ้อน ไม่วุ่นวาย ทุกอย่างถูกคลี่คลายลงง่ายมาก ความขัดแย้งของแต่ละตัวละครดูเปราะบาง ตัวละครแต่ละตัวดูไม่มีมิติ แบนๆ และเหตุผลในการกระทำหลายๆ อย่างไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย แต่...มันสนุกแหะ
สิ่งที่ชอบมากที่สุดในเรื่องนี้คือการแสดงของ Ben Mendelsohn ที่รับบทเป็นเจ้าเมืองแห่งน็อตติ้งแฮม น่าประทับใจโคตรๆ ดูร้ายจริง น่ากลัวจริง และดูเหมาะกับบทบาทนี้ชะมัด คือเฮียแกเกิดมาเพื่อเล่นบทร้ายชัดๆ ทั้งใน Rogue One, Ready Player One ต่างก็ทำได้ดีมากๆ แล้ว พอเห็นเฮียแกในเรื่องนี้ยิ่งน่าชื่นชมเข้าไปใหญ่ ส่วนทางด้านการแสดงของตัวละครอื่นๆ ยังอยู่ในระดับที่ดี อยู่ในระดับมาตรฐาน
ตามมาด้วยงานสร้างที่ยอดเยี่ยม ทั้งเอฟเฟคต่างๆ โดยเฉพาะฉากแต่ละฉาก ที่รังสรรค์เมืองน็อตติ้งแฮม ในยุคอุตสาหกรรม ออกมาสวยงามไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือฉากแอ็คชั่นบู๊สู้ด้วยธนูของ Taron Egerton ในบทของโรบินฮู้ด ที่เราดูแล้วมันทำให้เราเชื่อ และรับรู้ได้เลยว่า “เฮ้ย ไอ้นี่มันเก่งจริงว่ะ” เพราะเขาได้ฝึกฝนยิงธนูด้วยตัวเองจริงๆ แถมฉากแอ็คชั่นเหล่านั้น มันยังดูเท่ไม่ใช่เล่น กับการสโลว์ยิงลูกศรต่างๆ แต่ดูหนัง HDฉากการต่อสู้ของโรบินฮู้ดเท่ๆ ก็มีน้อยกว่าที่คาดหวังไว้พอสมควร และนอกเหนือจากการสู้ด้วยธนูแล้ว การต่อสู้ระยะประชิดอื่นๆ ก็ทำออกมาได้ไม่ดีสักเท่าไหร่
พูดถึงฉากแอ็คชั่น ก็ต้องพูดถึงฉากแอ็คชั่นในตอนใกล้จบของเรื่องที่เราได้เห็นในตัวอย่างหนัง ของการเผชิญหน้ากันระหว่างเหล่าทหารและกลุ่มกบฏ ซึ่งมันเปิดได้เท่ ยิ่งใหญ่ ดูอีปิกชะมัด มีการสโลว์โยนระเบิด แต่หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นฉากธรรมดาๆ ที่มั่วซั่วชะมัด อีกทั้งในฉากเดียวกันนั้นมันจะมีจุดดราม่า ละครน้ำเน่าอยู่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ควรด้วยประการทั้งปวง
มีอีกหลายฉากที่สงสัยเช่นกันว่า “เหล่าทหารมันไม่รู้ได้ไง ว่าโรบินฮู้ดกับลิตเติลจอห์นเป็นใคร” เพราะก็มีฉากที่ให้เห็นหน้าของทั้งสองคนอยู่ แล้วทั้งสองคนนั้นยังมาร่วมงานเลี้ยงกันอีก ทำไมเหล่าทหารไม่รู้!!! อีกทั้งหนังยังเสนอวลีหลัก “ปล้นคนรวยมาให้คนจน” ได้อย่างคลุมเคลือและหนังออนไลน์ยังไม่ค่อยชัดอีกด้วย…
แต่ถึงอย่างนั้นพอมันมารวมๆ กันแล้วมันก็ยังทำให้หนังเรื่องนี้สนุกอยู่ดี อาจจะเพราะด้วยความเรียบง่ายของหนัง ไม่ต้องคิดไรเยอะ ดูง่าย เข้าไปเสพแบบเพลินๆ สนุกๆ ได้สบาย (แต่ก็มีฉากโหดๆ ไม่เหมาะกับเด็กเช่นกัน) อยากรู้ต้องลองไปชมกันในโรงเลย
จุดเสีย
แต่ก็น่าเสียดายว่าหนังโชว์ของในส่วนนี้จริงจังแค่ฉากสงครามครูเสดที่เป็นตอนเปิดเรื่อง ที่ใส่มาบรรยากาศเหมือนสงครามอิรักเลย ไอเดียบรรเจิดมาก! แต่พอเข้าน็อตติ้งแฮมไอเดียอาวุธกลับกลายเป็นของโบราณธรรมดาไปเฉยเลย ยังดีว่าท่วงท่าการยิงกับความรุนแรงปานปืนกลยังดึงความสนใจได้ดีอยู่จะว่าไปหนังก็ดีไปหมด ทั้งวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ลูกเล่นเพียบ ตัวละครมีมิติ การเล่าเรื่องฉับไว สนุกสนาน มีขำเป็นระยะ แต่หนังก็มาพลาดกับเรื่องบทที่ไม่น่าจะมีอะไรยุ่งยากเลยเพราะโครงเรื่องเดิมแข็งแกร่ง คนเข้าใจง่ายอยู่แล้ว ทว่าการใส่แรงจูงใจของตัวละครแต่ละตัวดันมักง่ายและไม่ค่อยน่าเชื่อเลย ทั้งจอห์น อดีตแขกอาหรับที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาสอนให้โรบินเพียงเพราะโรบินดูเป็นคนดีในสงคราม
และจอห์นอยากเปลี่ยนแปลงโลกที่ทุนเป็นใหญ่ คือทำไมเอ็งไม่กลับไปทำที่บ้านเกิดฟระ???? หรือตัวละครโรบินเองก็เถอะแรงจูงใจสะเปะสะปะมั่วซั่วไปหมด ทั้งอยากแก้แค้นนายอำเภอที่แย่งชิงชีวิตสุขสบายของเขาไป อยากทำลายระบบรัฐฉ้อฉล ถูกบังคับโดยจอห์น
แต่แรงจูงใจที่ดันชัดสุดนั้นกลับเป็นแรงจูงใจที่อยากเอาใจสาวแค่นั้นเอง คือสาวมีอุดมการณ์อยากช่วยคน โรบินก็ช่วยคน สาวอยากแจกจ่ายเงินให้คนจน โรบินก็เอาเงินไปแจกคนจน และอีกสารพัด สรุปเป็นคนดีเพราะเมียนี่เอง ฮ่วย!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น