รีวิว The Prodigy - เด็ก (จอง) เวร
หนังแนวเด็กเปรต มีวิญญาณเข้าสิง โรคจิต ไล่ฆ่าคนอื่นๆ เราก็อาจจะเห็นมาเยอะแล้ว ไม่ว่าจะหนังขึ้นหิ้งระดับตำนานอย่าง The Omen หรือ เด็กสาว(หรอ?)หน้าใสใจอำมหิตอย่าง The Orphan ซึ่งแนวคิดแบบนั้นก็ได้นำมาใช้ใน The Prodigy และมันก็ทำออกมาได้ในระดับที่ โอเค รีวิว The Prodigyเรื่องย่อ
ในบรรดาทำเนียบหนังเด็กผี หลายคนอดคิดถึงหนังในตำนานอย่าง The Omen ที่มีทั้งภาคต่อและภาครีเมค ที่ถูกพูดถึงว่าเป็นต้นแบบหนังเด็กเปรต ก่อนจะมีหนังแนวนี้ตามมาทั้ง Child’s Play, Apt Pupil และThe Orphan เป็นต้น และสำหรับ The Prodigy หนังก็มาในแนวทางเดียวกัน เดินตามสูตรหนังเด็กเปรต ทั้งเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดจากหนูน้อยหน้าใส การตายของสัตว์เลี้ยง หรือกระทั่งการละเมอพูดภาษาแปลกๆ แต่สิ่งที่บทหนังดูจะเดิมพันเป็นพิเศษนั่นคือการบอกคนดูโต้งๆเลยตั้งแต่ต้นเรื่องเลยว่าวิญญาณชั่วร้ายที่มาสิงไมลส์ตั้งแต่ต้นเรื่องเป็นใคร จนคนดูต้องอุทาน “อ้าว! แล้วทีนี้เราจะไปลุ้นกับการตามหาความจริงของอีแม่เด็กเปรตทำไมล่ะเนี่ย” และแม้ว่ามันจะนำไปสู่ช่องโหว่ในการดำเนินเรื่องที่เต็มไปด้วยฉากชวนสงสัยแบบคนดูต้องแอบหงุดหงิดบ้างแหละว่าทำไมอีพ่อแม่มันไม่รู้ซักที แต่ด้วยการกำกับ-เลือกใช้ภาพ และการตัดต่อก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันทำให้คนดูลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้จริงๆ เรียกง่ายๆว่าทั้งเกาหัวแกรกๆงงกับความโง่ของตัวละครก็ดันอดไม่ได้ที่จะเอามือปิดตา หรือแอบเอากระเป๋ามากอดไว้ให้รู้สึกปลอดภัยตอนดูนั่นเอง
ไม่เพียงแค่ฉากระทึกต่างๆจะทำได้ดี อีกจุดที่หนังกล้าทิ้งไพ่ตายคือ จุดพลิกผันแบบไม่ต้องสนใจภูมิหลังที่มาตัวละครอะไรกันแล้ว ที่สำคัญคือ ต่อให้รู้ว่าตัวละครทำสิ่งที่โง่เขลาเบาปัญญา เราก็ยังอดลุ้นตามปนเกาหัวแกรกๆว่า เฮ้ย!เอางี้เลยเหรอวะ ซึ่งตอนดูก็เกิดพุทธิปัญญาว่า อ๋อ..!มันอาจเป็นอารมณ์เดียวกับเราดูละครไทยนั้นแหละ แม้ว่ามันจะทำให้นางเอกดูโง่ๆแค่ไหนเราก็ยังอดเอาใจช่วยไม่ได้ แม้ว่าบางเหตุการณ์จะทำเอาเราอยากเรียกนางมาทดสอบไอคิวใหม่ก็ตาม
แจ็คสัน โรเบิร์ต สก็อต หนูน้อยดวงซวยจาก IT มารับบทไมลส์ ได้หลอนฉิบหายวายป่วงมาก แค่นั่งหน้านิ่งทำตาหินใส่ก็แทบฉี่ราดแล้ว ตอนต้องเปลี่ยนบุคลิกนี่ถึงกับเย็นเยียบไปทั้งตัวเลย ส่วน เทย์เลอร์ ชิลลิ่ง นางเอกซีรีส์ Orange is the new black ก็รับบท ซาร่าห์ แม่ผู้ทำทุกทางให้ลูกรอดจากการสิงสู่ได้อย่างน่าเห็นใจดี แม้บทหนังจะทำให้เธอดูเบาปัญญาปนๆไปกับอารมณ์ไบโพลาร์ ผีเข้าผีออก เดี๋ยวเชื่อเดี๋ยวไม่เชื่อก็ตามทีเถอะ แต่ทุกฉากที่เห็น ซาร่า อยู่กับ ไมลส์ คือช่วงที่คนดูไม่อาจหายใจได้ทั่วท้องจริงๆ
วิจาร์ณ
The Prodigy เป็นอีกหนึ่งหนังเด็กเปรตที่เล่าถึงไมลส์ (Jackson Robert Scott เด็กชายที่เคยเล่นเป็นจอร์จี้เสื้อกันฝนเหลือง ใน IT) เด็กชายวัย 8 ขวบที่มีสติปัญญาเหนือเด็กทั่วไป มีพัฒนาการเร็วกว่าเด็กปกติ เพียงแต่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนเท่าที่ควร ตอนแรกพ่อแม่ก็เห่อคิดว่าลูกต้องเป็นอัจฉริยะแน่ๆ เป็นเด็กพิเศษแหง เลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ไปๆ มาๆ ไมลส์ก็เริ่มแสดงพฤติกรรมแปลกๆ เข้าขั้นน่ากลัววิปริต ไม่ว่าจะเป็นการใช้กำลังกับเพื่อน การพูดจาแปลกๆ ไม่เหมือนเด็ก การละเมอเป็นภาษาต่างชาติ การฆ่าสัตว์ ฯลฯ ที่นับวันเริ่มจะรุนแรงบ้าเลือดมากขึ้น ฝั่งพ่อแม่ก็เริ่มกังวล พ่อนี่บทไม่เด่นเท่าไร บทเด่นๆ ไปตกที่แม่อย่างซาร่าห์ (Taylor Schilling จาก Orange is The New Black) ซะมากกว่า ที่วิ่งวุ่นหาจิตแพทย์และหมอผู้เชี่ยวชาญไปทั่ว หวังรักษาลูกตัวเองให้หายจากสิ่งที่คิดว่าเป็นอาการป่วย ทว่าความจริงที่ต้องเผชิญก็ต้องทำให้ทั้งพ่อทั้งแม่ถึงกับไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นไปได้ด้วยรึเรื่องนี้เป็นหนังทริลเลอร์ที่ก้ำกึ่งระหว่างคนบ้ากับผีบ้า คือไม่ horror 100% ไป เพราะยังมีความเป็นคนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีฉากที่ชวนให้ลุ้นอยู่ไม่น้อย ด้วยบรรยากาศของหนังที่มืดๆ มัวๆ บ้านไม่รู้จักเปิดไฟ กับมุมกล้องที่ดูมีลับลมคมในอยู่ตลอดเวลา หลายๆ ฉากตุ้งแช่ก็ทำเราตกใจได้เหมือนกัน แม้ว่าเอาเข้าจริงจะมีฉากตุ้งแช่ไม่เยอะขนาดนั้น เน้นเป็นแนวหลอนๆ เย็นๆ ให้ลุ้นเล่นๆ มากกว่า ทางด้านฉากเลือดสาดก็มีอยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะเด็กเปรตของเราว่างเป็นไม่ได้ต้องถืออาวุธอาละวาดอยู่เรื่อย ความเลือดนองมาต้อนรับเราตั้งแต่ฉากแรกๆ ของหนังแล้ว ฉากฆาตกรรมบางฉากก็เห็นค่อนข้างชัดเหมือนกัน สำหรับคนใจบางอาจจะไม่เหมาะที่จะดูเท่าไรนัก
เนื้อเรื่อง
การดำเนินเรื่องของ The Prodigy จะว่าลุ้นจนหายใจเหนื่อยหอบก็ไม่ใช่ กลับกัน เราแอบรู้สึกว่ามันค่อนข้างเนือยๆ ไปเรื่อยๆ จนบางช่วงเราก็แอบง่วงๆ เหมือนกัน พล็อตหนังไม่มีอะไรซับซ้อน ปมค่อนข้างเดาง่าย สำหรับเราคือเดาได้ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วเพราะปูเรื่องมาซะขนาดนั้น ถึงอย่างนั้นดูหนัง HDก็ไม่ใช่ว่าไม่สนุก มันก็ยังมีอะไรให้ลุ้นอยู่ตลอดเวลา ลุ้นว่าไมลส์จะกลับมาเป็นปกติไหม พ่อแม่จะสามารถช่วยไมลส์ได้ไหม การที่หนัง (แอบ) เฉลยปมตั้งแต่ต้นเรื่องนี่ก็เป็นเหมือนอีกหนึ่งความท้าทายของหนังเหมือนกันว่าจะสามารถเอาคนดูอยู่ไหม เพราะเอาเข้าจริงมันอาจจะลุ้นกว่าถ้าเฉลยปมช้ากว่านี้อีกนิด ไม่ก็ใบ้ให้ยากอีกหน่อย แต่โดยรวมเราว่าหนังก็ยังอยู่ในระดับสนุกใช้ได้ คือปมที่เฉลยมาเร็วไม่ได้ทำให้อรรถรสพังขนาดนั้น มองอีกมุมหนึ่งคือเราได้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครไปด้วยว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้มั้ย ส่วนจุดหักมุมเรามองว่าไม่ได้พีคเท่าไร ไม่ได้เหนือความคาดหมายขนาดนั้นเพราะเนื้อหาก็เหมือนจะปูทางมาระดับนึงแล้วเกี่ยวกับปมเรื่อง
มาว่ากันที่ปมของเรื่อง จะพยายามไม่พูดมากเพราะเดี๋ยวสปอยล์ เนื่องจากปมมันไม่ได้มีเยอะ หนังออนไลน์บอกนิดเดียวอาจกลายเป็นสปอยล์ทั้งเรื่อง โดยรวมเราว่าเบื้องหลังความหลอนของน้องไมลส์ก็ยังดูเว่อร์ๆ ไปนิด แม้ว่าโดยรวมจะมีเหตุผล แต่ก็ทำให้รู้สึกแบบ เอ้า เอาง่ายๆ อย่างนั้นเลยเหรอ ง่ายไปมั้ยนี่ แต่ก็นั่นแหละ ถ้ามองข้ามความสมเหตุสมผลไปแล้วเสพแค่ความสนุก ก็ถือว่าโอเคอยู่ไม่ได้ขัดใจอะไรมากถ้าพูดถึงหนังเด็กเปรต เด็กนรกทั้งหลาย เราคงคาดหวังความโหด ความชั่วร้ายของเด็กเหล่านี้ ซึ่งในเรื่องนี้มันยังทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร มันน่าจะมีฉากที่โหด และเรียกเสียงซี๊ดปากจากผู้ชมได้มากกว่านี้ บวกกับการพัฒนาความโหดของตัวละครในช่วงเปลี่ยนผ่านไว ที่ดำเนินไปเร็วมาก ถ้าในแต่ละช่วงแฝงเรื่องโหดๆ มาทุกช่วงให้เห็นแววความเด็กนรกคงจะดีไม่น้อย
สิ่งที่น่าชื่นชมและปรบมือให้สุดๆ ในหนังเรื่องนี้คือ Jackson Robert Scott หรือผู้รับบท Miles ที่เคยฝากผลงานไว้ในเรื่อง It กับบทบาท Georgie ซึ่งในเรื่องนี้บอกเลยว่าไอ้เด็กนี่มันมีของ! เวลาที่เขาแสดง เรารู้สึกได้ถึงความอำมหิต น่ากลัว โดยเฉพาะเวลามันทำหน้านิ่งๆ นี่สยองแท้ บวกกับการใช้น้ำเสียงในการพูดต่างๆ ยังทำออกมาได้ดีมากๆ อีกด้วย ส่วนตัวละครผู้เป็นแม่อย่าง Taylor Schilling ก็แสดงอารมณ์ในฉากต่างๆ ออกมาได้น่าเชือถือ และรู้สึกเลยว่าเธอกลัวจริงๆ ยิ่งทั้งสองคนเข้าฉากด้วยกัน มันยังช่วยส่งเสริมคความหวาดระแวงและความกลัวกันเข้าไปใหญ่
The Prodigy - เด็ก(จอง)เวร อาจจะเป็นหนังที่มาขัดอารมณ์และชวนให้หายคิดถึงหนังแนวนี้เท่านั้น มีฉากตื่นเต้น ลุ้นอยู่บ้างแบบเบาๆ ส่วนฉาก Jump scare ก็มีเท่าที่เห็นในตัวอย่างเท่านั้นแหละ โดยรวมแล้วมันค่อนข้างจะโอเคนะ แต่ขาดอะไรไปเยอะเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น