วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563

Onward

ดูหนัง

รีวิว Onward - คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์

นี่คือหนังอนิเมชั่นเรื่องใหม่จาก Pixar ที่ได้ดาราชั้นนำคู่หูคู่กัดแห่ง MCU มาให้เสียงพากย์ อย่าง Chris Pratt และ Tom Holland ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันดีเลยนะกับการพากย์ของสองคนนี้ เพราะมันดูเข้ากั๊นเข้ากัน นอกจอสองคนนี้ก็สนิทกันมากๆ อยู่แล้ว พอมาพากย์ร่วมกันมันเลยดูเชื่อจริงๆ ว่าสองคนนี้รักกัน เหมือนเป็นพี่น้องกัน การแสดงอารมณ์ทางเสียงทำได้ดีจริงๆ คือดูไปดูมานึกภาพของสองคนนั้นออกเลย เป็นภาพมาซ้อนทับตัวละครเลยทีเดียว เอาจริงๆ ตัวละครที่ Tom Holland พากย์เสียงหน้าก็แอบเหมือนเจ้าตัวอยู่นะ 555 รีวิว Onward

เรื่องย่อ

Onward - คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์เป็นเรื่องราวที่ถูกเซ็ตขึ้นมาใหม่ด้วยความแฟนตาซี เป็นโลกที่มีหลายเผ่าพันธุ์รวมกัน (ยกเว้นมนุษย์) โลกที่เต็มไปด้วยสัตว์ในจินตนาการ เซนทอร์ ยูนิคอร์น เอลฟ์ และอื่นๆ อีกมากมาย แถมยังมีเวทมนต์ด้วย แต่นับวันโลกใบนี้ก็ประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ขึ้นมาจนเวทมนต์เลือนหายไป แต่แล้วครอบครัวเอลฟ์ครอบครัวหนึ่งก็ได้รับมรดกตกทอดมาจากผู้เป็นพ่อที่เสียไปแล้ว คือไม้กายสิทธิ์และมนต์คาถาที่สามารถเสกให้พ่อของพวกเขากลับมาได้แต่มีข้อแม้คืออยู่ได้แค่ 1 วัน แต่มันเกิดข้อผิดพลาดทำให้ตัวพ่อกลับมาได้แค่ครึ่งล่างเท่านั้น ทำให้สองพี่น้องครอบครัวเอลฟ์ต้องออกเดินทาง ผจญภัย ตามหาเวทมนต์ที่ยังเหลืออยู่เพื่อนำพ่อเขากลับมาให้ทันเวลา

Onward งานสตูดิโอแอนิเมชันในจักรวาลของ Walt Disney Pictures และ Pixar Animation Studio โดยถือเป็นงานแอนิเมชันชิ้นใหม่ของ Pixar ในยุคหลัง John Lasseter ผู้ก่อตั้งรุ่นบุกเบิกอย่างเต็มตัว โดยได้ Dan Scanlon จาก Monsters University มานั่งแท่นกำกับ พร้อมกับ 2ดาราจักรวาลมาร์เวลอย่าง ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) และ คริส แพรตต์ (Chris Patt) มารับบทพากย์เสียงในตัวละครหลักของแอนิเมชันเรื่องนี้ด้วย

Onward เป็นดินแดนของโลกจินตนาการที่มีทั้งชาวเอลฟ์ โทรลล์ และเทวดาอาศัยอยู่ โดยในอดีตของดินแดนแห่งนี้ เป็นดินแดนที่ ‘เวทมนตร์’ นั้นมีอยู่จริงและเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในอดีต แต่ด้วยวันเวลาที่เปลี่ยนไป ดินแดนแห่งนี้ก็ถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งทำให้เวทมนตร์ค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งขนาดที่ว่าสัตว์ชั้นสูงในจินตนาการที่เคยโลดแล่นสง่างามอย่าง ม้ายูนิคอร์น ก็กลายมาเป็นสัตว์บ้าน ๆ ที่ออกมาคุ้ยกองขยะหาของกิน หรืออยู่ตามท่อซะงั้น (ฮา)

อย่างไรก็ตามการผจญภัยครั้งใหม่เริ่มต้นอีกครั้งในครอบครัวตระกูลเอลฟ์ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเรื่องเริ่มจากคุณแม่ ลอว์เรล ได้มอบได้ของขวัญวันเกิดครบรอบ 16 ปีให้กับ เอียน ลูกชาย ซึ่งมันคือ ‘ไม้เท้าพ่อมด’ ที่พ่อผู้ล่วงลับของพวกเขาทิ้งเอาไว้ให้ แต่แล้วทั้งเอียน (ทอม ฮอลแลนด์) และบาร์ลีย์ (คริส แพรตต์) พี่ชาย

ก็ได้พบข้อความในกระดาษแผ่นหนึ่งที่มากับไม้เท้า เป็นการบอกวิธีการใช้มนต์วิเศษที่จะทำให้พ่อของพวกเขาคืนชีพกลับมาแบบตัวเป็น ๆ ได้หนึ่งวันเต็ม ๆ แต่หลังจากที่ร่ายมนต์ไปแล้ว กลับกลายเป็นว่าพ่อของพวกเขาปรากฏตัวออกมาแต่ท่อนล่าง! นั่นทำให้ เอียน และ บาร์ลีย์ ต้องออกตามหาจิ๊กซอว์ที่เหลือในการจะทำให้เวทมนตร์นี้สมบูรณ์แบบเพื่อให้พ่อของพวกเขากลับมาจริง ๆ

ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็น message เรื่องความสัมพันธ์ครอบครัวผ่านการผจญภัยและแก้ปัญหาเบี้ยบ้ายรายทางแบบ road movie ซึ่งในช่วงแรก ๆ ของการปูแบ็กกราวนด์ครอบครัว ‘ไลท์ฟุต’ นี้นั้นอาจจะจืดชืดไปนิด แต่เมื่อหนังพาเราไปสัมผัสด้านต่าง ๆ ของตัวละครมากขึ้น โดยเฉพาะพี่น้อง เอียน และ บาร์ลีย์ จะยิ่งเห็นมิติของตัวละครสองตัวนี้ลึกลงไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกเซอร์ไพรส์ ซึ่งหลังจากนั้นทุกอย่างก็ไหลลื่นและดูสนุกขึ้นเยอะจนนึกว่าเป็นหนังคนละเรื่อง (ฮา)

Onward ในสไตล์ของ Pixar ที่ปรากฏในยุค 2020 นี้นอกจากจะไม่ใช่หนังการ์ตูนแฟนตาซีขายฝันจ๋าแล้ว ยังคงเอกลักษณ์เรื่องการจับประเด็นที่ซึมลึกไปถึงผู้ใหญ่ที่เข้มข้นกินใจ บนโลกยุค 4.0 ที่พ่อมดก็ต้องปรับตัว และเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของ Disney เอง เราก็จะได้เห็นตัวการ์ตูน LGBTQ ด้วยในเรื่อง

วิจาร์ณ

นี้เป็นอีกเรื่องของ Pixar ที่จะทำให้คนดูต้องหลงรักไปกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน การเล่าเรื่องนำเสนอ ทำได้ไหลลื่นอย่างมากและตัดต่อได้อย่างสวยงาม เพียงแค่ในช่วงแรกอาจจะมีความเนือย ๆ ไปบ้างในการแนะนำตัวละครแต่ละคน และแนะนำวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเหล่าเอลฟ์ที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่หลังดูหนังจากออกเดินทาง ความสนุกมันก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเรารู้สึกมีอินไปกับเรื่องนี้ไปซะแล้ว การผจญภัยระหว่างเอียนและบารเลย์ที่ช่วงแรกเต็มไปด้วยความไม่ลงรอยระหว่างสองพี่น้อง แต่พอเจออันตรายข้างหน้า มันกลับทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเหนี่ยวแน่นมากขึ้น

รีวิว Onward

สิ่งที่ชอบ

คือ วิธีเล่า ที่มันพรั่งพรูเมจเซจเชิงบวกหลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง มิตรภาพ ความเข้าใจตัวตนของกันและกัน การเรียนรู้และการให้อภัย และการใช้เวลาทุกนาทีกับครอบครัวและคนรักให้มีคุณค่ามากที่สุด ซึ่งโปรแกรมหนังในช่วงท้ายนั้นต้องบอกว่าหนังชวนบีบน้ำตากันเหลือเกิน

ด้านภาพนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมากเพราะนี้คือ Pixar สตูดิโอแอนิเมชั่นชั้นนำของโลกที่ใส่ใจทุกรายละเอียดในผลงาน เราจะได้เห็นแม้แต่รอยเส้นใยบนเสื้อผ้าที่เป็นเส้น ๆ เลยก็ว่าได้ ขนาดรอยลากปากกายังมีรอยความเข้มจางของหมึกที่ซึมไปผ่านกระดาษ มันเป็นการทำแอนิเมชั่นที่งามมาก

การพากย์ของ Tom Holland และ Chris Pratt นี้เข้ากับตัวละครมากในธีมความเป็นพี่น้อง นั่งดูไปแล้วก็อินตาม และก่อนที่ทั้งสองจะมาพากย์เรื่องนี้ความสัมพันธ์ของ Tom Holland และ Chris Pratt เป็นพี่น้องในวงการกันอยู่แล้ว ถึงขนาด Tom Holland เคยให้สัมภาษณ์ว่าเคยสปอยบทหนัง Jurrasic World 2 ให้กับคริสเลยทีเดียว 5555

ซึ่งแม้ว่า Onward อาจไม่ได้มีเส้นเรื่องที่หวือหวา หรือขยี้น้ำตาให้ไหลเป็นก๊อกแบบ Coco แต่ทุกอย่างมันกลับลงตัวและกลมกล่อมกำลังดีมาก หากไม่สนใจถึงความเนือยของหนังในช่วงแรกแล้ว Onward เป็นหนึ่งในหนังแอนิเมชันที่น่าจดจำอีกเรื่องของปีเลย

โดยรวม ๆ คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์ เป็นอีกเรื่องของ Pixar ในปีนี้จะทำให้หัวใจของเราพองโตกันอีกครั้งในธีมของโลกแฟนตาซีในยุคปัจจุบัน มีครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะ อบอุ่น เศร้า ตลก และถ้าไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ เรื่องนี้มีโอกาสได้รับเข้าชิงออสการ์สาขา แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน

สรุป

Pixar ยังคงท็อปฟอร์มในปีนี้อีกเช่นเคย เป็นแอนิเมชั่นที่สมควรได้รับการเสนอเข้าชิงออสการ์สาขาแอนิเมชั่นในปีนี้อย่างแน่นอน ด้วยการเล่าเรื่องที่ไหลลื่นและเนื้อเรื่องที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น