รีวิว The Lingering - โรงแรมผีจอง(เวร)
โรงแรม ผีสาง ความอาฆาตแค้น เป็นองค์ประกอบที่เมื่อมาผนวกรวมกันน่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีออกมา เรากำลังพูดถึงหนังสยองขวัญเรื่องล่าสุดที่เข้าฉายในบ้านเรา "Lingering" หรือมีชื่อไทยว่า โรงแรมผีจอง(เวร) แม้ว่าหน้าของหนังจะดูค่อนข้างน่าสนใจและน่ากลัวไม่เบา แต่ก็แอบเสียดายที่ปรากฏว่าภาพรวมของหนังที่ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง และเป็นหนังผีที่มอบอารมณ์เดิมๆ ให้กับคนดูที่ไม่มีแม้สักฉากเดียวที่ชวนน่าตื่นเต้น รีวิว The Lingering
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ "ยูมิ" (อีเซยอง) ซึ่งเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนสาวของแม่ และนำน้องสาวไปส่งที่โรงแรมลึกลับแห่งหนึ่ง แต่ทริปธรรมดากลับกลายเป็นฝันร้ายสุดสยองเมื่อโรงแรมดังกล่าวซ่อนปริศนาสุดสะพรึงเกินกว่าที่เธอจะทันตั้งตัว
แน่นอนว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อ “โรงแรมผี” เป็นอย่างดี เพราะในโลกภาพยนตร์ คำว่า “โรงแรม” กับ “ผี” ถือว่าเป็น Combination คลาสสิกที่มีมาอย่างยาวนาน ชนิดที่ว่าน่าจะแยก category ย่อยออกมาได้แล้วมั้ง 555 และภาพยนตร์ “โรงแรมผีจอง(เวร)” ก็เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่เอา Combination นี้มาเล่าใหม่
แต่สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์โรงแรมผีเรื่องนี้น่าสนใจก็คือ นี่คือโรงแรมผีเวอร์ชันเกาหลี (ซึ่งแน่นอนว่าเป็นหนังผีเกาหลีที่ไม่ค่อยมีมาบ่อย ๆ) กับพล็อตที่ผมว่าน่าสนใจดี บวกกับด้วยชั้นเชิงการเล่าเรื่องแบบหนังเกาหลี ถ้าว่ากันด้วยหน้าหนัง ก็ต้องบอกว่ามันก็มีความน่าสนใจดีทีเดียวเลยแหละ
เนื้อเรื่อง
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ยูมิ หญิงสาวโดดเดี่ยวที่ต้องดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพแบบปากกัดตีนถีบ ที่สำคัญคือเธอพบว่าตัวเธอเองมีน้องสาวร่วมแม่แต่ละคนละพ่ออยู่ด้วย ด้วยปัญหาหลาย ๆ อย่าง เธอจึงต้องไปรับเด็กหญิงมาจากสถานรับเลี้ยงเด็ก แต่ด้วยความที่เธอเองก็มีชีวิตที่ค่อนข้างลำบากอยู่แล้ว
แถมตัวเด็กก็มีปมเรื่องที่มักจะชอบจินตนาการและพูดอะไรลอย ๆ จนผู้ใหญ่มักจะคิดว่าเด็กคนนี้พูดโกหกอีก การเลี้ยงน้องสาวอีกคนไปด้วยก็อาจจะลำบาก เธอเลยนึกขึ้นได้ว่า แม่ของเธอที่เสียชีวิตไปแล้ว มีเพื่อนที่รู้จักกันซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมหรูที่อยู่ติดทะเลสาบ เธอเลยตั้งใจว่าอยากจะฝากน้องสาวไว้กับคุณน้าที่เป็นเพื่อนแม่คนนี้
พร้อม ๆ กับที่เธอเองก็ต้องเดินทางมาอยู่ที่โรงแรมนี้ ในระหว่างที่โรงแรมปิดพักช่วงโลว์ซีซันอยู่พอดี แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่น้องสาวของเธอหายตัวไปอย่างลึกลับ อดีตในวัยเด็กที่เธอเคยประสบ ปมปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแม่ และ “อะไรบางอย่าง” ที่มาพบกับเธอในรูปแบบของวิญญาณจองเวร
การดำเนินเรื่อง
หนังมาพร้อมกับการเล่าเรื่องที่น่าเบื่อ...ถึงน่าเบื่อมาก เพราะกลายเป็นหนังที่มีโทนแบนเรียบ หาจุดเด่นและจุดพีคของเรื่องแทบไม่ได้ ตลอดระยะเวลากว่า 100 นาทีที่นั่งดูนั้น เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย และหลุดโฟกัสจดจ่ออยู่กับเรื่องที่พยายามถ่ายทอดอยู่หลายครั้ง กลายเป็นว่าในช่วง 1 ชั่วโมงของดูหนังออนไลน์ มัวแต่ไปเสียเวลากับการปูเรื่องที่เว่อเว้อและสะเปะสะปะ แทบไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด
กว่าจะเริ่มมาจุดเครื่องติดก็ปาไปเกือบจะ 20 นาทีสุดท้ายของหนังแล้ว นับว่าเป็นหนังผีเกาหลีที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง แม้ว่าหนังจะเริ่มมาได้น่าสนใจและมีประเด็นที่น่าค้นหา แต่กลับกลายเป็นว่าการเล่าเรื่องและโทนที่ใช้ในหนังทำให้ดูเฉื่อยช้าไปทุกอย่าง และบทหนังก็เต็มไปด้วยช่องโหว่ ตัวละครแทบไม่มีมิติให้คนดูได้ผูกผันเลยสักนิดเดียว เป็นหนังที่ทำได้ดีแค่บรรยากาศหลอนๆ ของโรงแรมเท่านั้น
พล็อตโรงแรมผี
แน่นอนว่า พอตัวหนังพูดถึงโรงแรมผี หลายคนก็อาจรู้สึกว่าพล็อตโรงแรมผีนั้นแทบจะไม่มีอะไรใหม่แล้ว ซึ่งภาพโดยรวมของหนังเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ โอเค แม้ว่าสิ่งที่ต้องชื่นชมเป็นอย่างแรกเลยก็คือ หนังเรื่องนี้โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นหนังผีสไตล์เกาหลีที่มีความเป็นเกาหลีมาก ๆ เรื่องหนึ่งเลยครับ
แถมยังมีการพูดถึงการหายตัวอย่างลึกลับของชาวเกาหลีเหนือที่อพยพเข้ามายังเกาหลีใต้อีกด้วยแน่ะ แต่สิ่งที่ผมเชื่อว่า หลายคนที่ดูหนังอาจรู้สึกไปก่อนล่วงหน้าแล้วว่ามันไม่ได้มีอะไรใหม่มาตั้งแต่แรก ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ นั่นแหละ
ท่านผู้อ่านอาจไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกคือ ตัวหนัง พล็อต และช็อตต่าง ๆ ทำให้ผมอดคิดถึงหนังโรงแรมผีสุดคลาสสิกอย่าง The Shining (1980) ไม่ได้จริง ๆ ครับ การมีห้องลึกลับที่มีวิญญาณสิงสถิต การที่มีอะไรบางอย่างมาเชิญชวนให้เด็กแอบวิ่งซนเข้าไปในห้อง รวมถึงการพาเข้าไปสำรวจยังซอกเล็กซอกน้อยในโรงแรม ถือได้ว่าเป็นการหยิบเอาอิทธิพลและกลิ่นอายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพล็อตมาผสมกับความเป็นเกาหลีใต้ ซึ่งก็ถือว่าทำได้อย่างไม่ถึงกับลอก แต่ก็พอได้กลิ่นอะไรบางอย่างออกมา
ความหลากหลายของอารมณ์หนัง
สิ่งที่ทำให้ตัวหนังเรื่องนี้ (ที่ก็รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าจะมีอะไร) ก็คือ การที่พล็อตไม่ได้พยายามจะขายความน่ากลัวของผี หรือเดินหน้าเสนอความสยองขวัญแบบโหดเหี้ยมเหมือนอย่างหนังผีสเปน หรือเป็นหนังผีตุ้งแช่ ๆ อะไรแบบนั้นครับ หนังเรื่องนี้น่าสนใจตรงที่มีส่วนผสมของหนังสยองขวัญ-สืบสวนสอบสวน-ทริลเลอร์-ดราม่า ในการที่นางเอกอย่าง ยูมิ ต้องกลับไปอยู่ในโรงแรมที่เธอเองก็เคยมาอยู่แล้วเมื่อเธอเป็นเด็ก ซึ่งเธอเองก็ต้องพยายามที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีต
ตั้งแต่เรื่องราวความทรงจำในวัยเด็กที่เธอซุกซ่อนไว้ ปมปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแม่ที่เต็มไปด้วยความแหว่งวิ่น สาเหตุที่แม่ของเธอต้องตายลง ที่มาของน้องสาวของเธอ รวมทั้งเรื่องราวลึกลับภายในโรงแรม ปริศนาที่เธอได้ค้นพบเมื่อมาอยู่ในโรงแรม รวมถึงวิญญาณอาฆาตที่ดูเหมือนว่าพยายามจะมุ่งตรงมาที่ยูมิเป็นพิเศษอีกด้วย รวมทั้งพาร์ตดราม่า ที่พอพะยี่ห้อว่าเป็นหนังเกาหลีแล้ว แทบไม่ต้องห่วงเลยครับว่า ดราม่าเกาหลีนี่มันดราม่าเกาหลีจริง ๆ
ประเด็นหลักของหนัง
แม้ว่าตัวหนังจะพยายามโปรโมตความเป็นหนังสยองขวัญเต็มขั้น แต่สิ่งที่หนังทำได้มากกว่านั้นก็คือเรื่องของการเล่าประเด็นที่ใหญ่ที่สุด นั่นก็คือเรื่องประเด็นความสัมพันธ์ที่แหว่งวิ่นระหว่างแม่กับลูกนี่แหละครับ ในหนัง ประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดีระหว่างยูมิและแม่ของเธอ ปมความขัดแย้งต่าง ๆ นานา
จนถึงเรื่องของปมที่ทำให้แม่ของเธอต้องฆ่าตัวตาย และไหนจะน้องสาวตัวน้อยของยูมิที่เกิดมาจากคนละพ่อ ที่เป็นเหมือนกึ่งพี่น้องร่วมสายเลือด แต่ก็เป็นเหมือนกับภาระไปด้วยพร้อม ๆ กัน จนกระทั่งเธอต้องตัดสินใจเอามาฝากไว้กับน้าสาวผู้เป็นเพื่อนกับแม่ของเธอมาก่อน ท่ามกลางกลิ่นอายความไม่น่าไว้วางใจที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา ทำให้ยูมิต้องออกตามสืบค้นเรื่องราวและปะติดปะต่อเรื่องราวในอดีตหลายปม ซึ่งพาร์ตของการสืบสวนสอบสวน และดราม่าเรื่องแม่ ๆ ลูก ๆ นั้นทำได้ในระดับที่ใช้ได้เลย
ด้านการแสดง
ทางด้านการแสดงก็ถือว่าธรรมดา เพราะหนังทำออกมาได้น่าผิดหวัง การแสดงของนักแสดงไม่สามารถช่วยส่งเสริมตัวหนังเอาไว้ได้เลย อาจจะเป็นบทที่ไม่สมบูรณ์ของหนังด้วย "อีเซยอง" ก็ไม่สามารถแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ แม้เธอจะเข้าถึงบทบาทของตัวละครตัวเองอย่างน่าพอใจก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ที่ดูโดดเด่นเลย เธอก็เล่นตามบทของตัวเองไป
แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังรู้สึกชอบน้องเล็กอย่าง "พัคโซอี" นักแสดงเด็กของเรื่องนี้ น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่รู้สึกพอใจให้หนังเรื่องนี้ เพราะเป็นนักแสดงเล็กอายุแค่นี้ แต่สามารถสื่อสารและถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดี ถึงประสบการณ์ยังน้อยนิด การแสดงออกทางสีหน้าของเด็กคนนี้ต้องชื่นชมสักหน่อย
จุดสังเกต
แต่แม้ว่าบรรยากาศโดยรวมของหนังจะมีความน่ากลัว และสยองขวัญในระดับที่ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว แต่หนังเรื่องนี้ก็มีข้อสังเกต 2 เรื่องใหญ่ ๆ ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยังไปได้ไม่สุดของความสยองขวัญ นั่นก็คือ หนึ่ง ถ้าไม่นับตัวละครหลักอย่าง ยูมิ ที่รับบทโดย อีเซยอง ที่รับหน้าที่แบกหนังทั้งเรื่อง และน้องพักโซยี ที่เล่นเป็นน้องสาวของยูมิ ตัวละครอื่น ๆ กลับดูง่ายและชัดเจนไปหมดเลย บทบาทที่ดูชัดซะจนแทบไม่มีเหลี่ยมมุม ทำให้สามารถเดาทางพล็อตของหนังได้ง่ายไปโดยปริยาย
และจุดสังเกตที่สองคือ ฉากสยองขวัญ อย่างที่ผมกล่าวถึงแล้วว่า บรรยากาศของหนังเรื่องนี้นั้นถือว่าสยองขวัญใช้ได้ การเล่นกับซอกหลืบเร้นลับต่าง ๆ ในโรงแรม การเล่นกับความสว่างและความมืด การปรับโทนสีให้แตกต่างกันมาก ๆ ระหว่างซีนสยองขวัญและไม่สยองขวัญเพื่อให้เห็นความแตกต่าง ความพยายามของตัวหนังเองที่ซีรี่ย์ Netflixไม่ได้ใส่ Jump Scare จนเกินงาม และพยายามคุมโทนโดยไม่ยัดเยียดความเป็น “หนังผีที่หันไปทางไหนก็มีแต่ผี”
นั้นทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญที่ก็ยังมีกลิ่นอายความเป็นหนังสยองขวัญอยู่ แต่กลายเป็นว่า ฉากการปรากฏของผีที่ทำให้รู้สึกสยอง กลับมีแต่เฉพาะฉากที่ผีมาแบบลึกลับ ๆ หรือมาแบบแอบ ๆ เห็นแต่เพียงเลือนรางเท่านั้น แต่ผีที่มากันแบบโต้ง ๆ แบบโผล่หน้ามาให้เห็น ผมกลับรู้สึกว่ามันยังก๊องแก๊งเหมือนผีในละครไทยไปหน่อย
โดยรวม
โดยรวมแล้ว ความสนุกลุ้นระทึกของหนังสยองขวัญเรื่องนี้ อาจไม่ได้น่ากลัวที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง คือด้วยบรรยากาศความหลอนโดยรวมก็หลอนดีอยู่นะครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตัวหนังเองก็ไม่ได้ถึงกับว่าน่ากลัวสุด ๆ หลายจุดก็แอบหลุด ๆ ก๊องแก๊งไปบ้าง แต่ในฝั่งของเนื้อเรื่องและธีมหลักนั้น ทำได้ดีพอสมควร
แม้ว่าจะเดาง่ายไปหน่อยในเชิงการดำเนินและสรุปเรื่อง แต่ด้วยตัวละครและบรรยากาศก็ยังชวนให้มีอะไรที่น่าลุ้นและติดตามได้บ้างในแง่ของการสืบสวนสอบสวน พาร์ตดราม่า รวมถึงประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกที่ดูแล้วอาจซาบซึ้งจนอาจน้ำตาซึม เรียกว่าเป็นความบันเทิงสไตล์เกาหลีที่ดูสนุกได้ในระดับที่ไม่น่าเกลียด และไม่เสียดายเงินครับ
สรุป
โรงแรมผีจอง(เวร) ในครั้งนี้...น่าจะกลายเป็นคนดูที่จะจองเวรผีมากกว่า เพราะถือว่าตัวหนังกับหน้าหนังค่อนข้างไปคนละทิศทาง Lingering อาจจะใช่หนังผีที่เหมาะกับคนที่ต้องการจะไปหาผีที่ออกมาหลอกหลอนทุกๆ 2 นาที แต่กลายเป็นหนังลึกลับที่มีโทนการเล่าเรื่องที่ออกจะเฉื่อยๆ ไปสักหน่อย อยากจะชูประเด็นเรื่องแม่ลูก...หนังก็ยังทำไปได้ไม่ถึง แต่ต้องยอมรับว่าหนังมีประเด็นดี เพียงแค่เล่าเรื่องออกมาได้ยังไม่น่าสนใจสักเท่าไหร่ ทำให้โดยสรุปก็เป็นเพียงหนังที่ดูก็ได้หรือไม่ดูก็ได้เรื่องหนึ่งก็เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น