วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562

21 bridges

รีวิว 21 bridges เผด็จศึกยึดนิวยอร์ก

หน้าหนังน่าสนใจมากครับ กับการขายชื่อพี่น้องรุสโซ จาก Avengers มาเป็นผู้อำนวยการสร้าง แถมยังได้ แชดวิก โบสแมน จากบทเจ้าชายทีชาลา มาสวมสูทพกปืนในบทตำรวจสายสืบปืนดุ แถมตัวอย่างหนังยังขายโชว์ฉากแอ็กชันสาดกระสุนกันดุเดือดบวกกับชื่อเรื่อง 21 bridges ที่หมายถึงจำนวนสะพานทั้งหมดที่เชื่อมระหว่างเกาะแมนฮัตตันกับกรุงนิวยอร์ก ทำให้ภาพลักษณ์ของ 21 bridges คือหนังแอ็กชันตำรวจไล่ล่าโจรดุสาดกระสุนกันดุเดือด ที่ชวนให้นึกถึง Heat และ Ronin นู่นเลย ดูหนังออนไลน์

เรื่องย่อ

แชดวิก โบสแมน มารับบท อังเดร เดวิส ตำรวจสายสืบที่อยู่ในช่วงโดนสอบสวนจากฝ่ายกิจการภายใน ข้อหา “นิ้วรั่ว” เพราะเขาวิสามัญคนร้ายไปเยอะมากในช่วงไม่กี่ปี แล้วในคืนนั้นเองเขาก็ต้องเจอกับคดีสะเทือนขวัญ ตำรวจนิวยอร์ก 8 นาย โดนฆ่าตายในร้านอาหารจากสองมือปืนระดับพระกาฬ ที่หนีหายไปพร้อมกับโคเคนบริสุทธิ์ 50 กก. สร้างความโกรธแค้นให้กับตำรวจนิวยอร์กทั้งหมด ที่ต้องการลงโทษด้วยการจับตาย ไม่อยากให้รอดไปถึงกระบวนการยุติธรรม รีวิว 21 bridges เผด็จศึกยึดนิวยอร์ก

บทหนังปูฉากหลังตัวละครหลักมาอย่างดีทั้งฝ่ายตำรวจและโจร เดวิส ถูกแนะนำให้รู้จักในฐานะตำรวจตงฉินที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่รุ่นพ่อที่เป็นตำรวจฝีมือดีแต่ต้องเสียชีวิตในหน้าที่ตั้งแต่เดวิส ยังเป็นเด็ก พอโตขึ้นมาก็เป็นตำรวจตามพ่อและเป็นตำรวจสายดุ

ปลิดชีวิตคนร้ายมานักต่อนัก อีกด้านคือ แจ็กสัน อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ หลังปลดประจำการก็เข้าสู่วงการด้านมืด ด้วยการแท็กทีมกับไมเคิล น้องชายของเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วเพื่อนเสียชีวิตในสนามรบ แจ็กสันเลยรับช่วงดูแลไมเคิลต่อ

แต่ดูแลด้วยวิถีของแจ็กสันด้วยพาเข้าสู่ชีวิตโจร งานคืนนี้ของแจ็กสันและไมเคิล ดูเหมือนจะง่าย ๆ เข้าไปชิงโคเคนที่ซ่อนในร้านอาหาร มีคนเฝ้าแค่คนเดียว ตามสายข่าวบอกว่ามีโคเคน 30 กิโล แต่กลับกลายเป็น 300 กิโล แล้วระหว่างที่จะหนีออกจากร้านก็ต้องเจอกับตำรวจขโยงใหญ่ ก่อให้เกิดการสาดกระสุนกัน แต่ด้วยฝีมือฉกาจของแจ็กสัน จึงปลิดชีพตำรวจเสียเกลี้ยง
ที่เล่ามานี่คือฉากแอ็กชันแรกที่หนังโชว์ฉากโหด ดุ ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ทำให้เราได้เห็นถึงความน่ากลัวของแจ็กสัน ที่ทั้งฝีมือดี

และไร้ความปราณี เป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับเดวิส ตำรวจสายดุเช่นกัน สร้างความคาดหวังว่าเราจะได้เห็นฉากปะทะกันอย่างดุเดือดของเดวิส และแจ็กสัน ซึ่งผิดคาดมากครับ เอาแค่นี้พอไม่สปอยล์
หนังเปิดมาได้บรรยากาศระอุมาก เดวิสประกาศกร้าว สั่งปิดทั้ง 21 สะพาน 2 อุโมงค์ แม่น้ำทุกสาย จะล่าสองมือปืนให้ได้ภายในคืนนี้

ฉันจะต้องได้ดูการไล่ล่าที่ตื่นเต้นเร้าใจอย่างแน่นอนภายในหนึ่งชั่วโมงจากนี้ แต่ไม่มีครับ เส้นทางของแจ็กสันและไมเคิลไม่ใช่การหนีออกจากเกาะแมนฮัตตัน แต่ไปส่งโคเคนแล้วก็ไปฟอกเงิน ซึ่งก็วนเวียนอยู่ในแมนฮัตตันนั่นแหละ

เข้าครึ่งชั่วโมงหลัง หนังก็เปลี่ยนจากการแอ็กชันไล่ล่า ไปเป็นการสืบหาผู้ร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังคดีสะเทือนขวัญนี้ ก็ดูเป็นความพยายามยกระดับของหนังจากแอ็กชันตำรวจจับผู้ร้ายธรรมดา ให้ดูมีเงื่อนงำซับซ้อนมากขึ้น แต่ก็นะ สมองแทบไม่ต้องทำงานเลย คนดูน่าจะเดากันได้หมดล่ะ เพราะมันก็เผยกันโจ้ง ๆ

ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องแล้วว่าตำรวจยกขโยงมาร้านอาหารกลางดึกกันทำไม ฉะนั้นก็ต้องเตือนกันว่า อย่าไปคาดหวังอะไรมากกับเงื่อนงำของหนังที่วางไว้ตื้นมาก อันนี้ต้องชี้นิ้วไปที่ อดัม เมอร์วิส เจ้าของเรื่องที่มารับหน้าที่แปลงเรื่องของตัวเองเป็นบทภาพยนตร์ด้วย แต่ก็ยังดีที่ผู้สร้างยังจ้างมือเก๋าอย่าง แมทธิว ไมเคิล คาร์นาฮาน ที่ผ่านงานเขียนมาเพียบ Worl War Z, The Kingdom, Deepwater Horizon ให้มาช่วยเกลาอีกที ไม่งั้นคงจะแย่กว่านี้ไปแล้ว

ที่รู้สึกสะดุดตามากคือภาพลักษณ์ของแชดวิก โบสแมน ดูผิดหูผิดตาไปมากจากตอนเป็นเจ้าชายทีชาลา เรื่องนี้แชดวิก ดูซูบไปพอควร ราศีเจ้าชายหายไปหมดเลย แต่ภาพลักษณ์โดยรวมกับการใส่สูทถือปืนก็ดูเข้าที่เข้าทางดี , เจ.เค. ซิมมอนส์ มาในบทหัวหน้าหน่วยแม็กเคนนา เจ.เค. อายุเพิ่ง 65 อ่อนกว่าเดนเซล วอชิงตัน อีกนะ

แต่ด้วยริ้วรอยบวกกับศีรษะล้านเลยดูเกินวัยไปมาก ชวนให้คิดว่าถ้าตำรวจวัยนี้น่าจะปลดเกษียณไปนานแล้วนะ, เซียนนา มิลเลอร์ นักแสดงหญิงหนึ่งเดียวในเรื่องนี้ ในบทบาทเจ้าหน้าที่ ปปส. ถูกส่งมาให้ประกบกับเดวิสในภารกิจนี้ รวบผมใส่แจ๊กเก็ตตัวโคร่ง ก็ดูทะมัดทะแมงสมกับเป็นตำรวจ เซียนนาเป็นนักแสดงสายหนังรางวัลเสียเป็นส่วนใหญ่ พอมาเล่นแอ็กชันแบบนี้ก็ดูเป็นงานง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีอะไรให้จดจำเช่นกัน

รายที่น่าสงสารสุดคือ ไบรอัน เคิร์ก ในฐานะผู้กำกับแต่แทบไม่มีใครเห็นชื่อเลย เพราะทางการตลาดเน้นขายแต่ชื่อพี่น้องรุสโซ ในตำแหน่งผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งงานกำกับหนังโรงครั้งแรกของไบรอัน ไม่ขี้เหร่เลย แม้แต่บทตื้น ๆ อย่างนี้ไบรอันก็ยังเล่าเรื่องได้น่าติดตาม สร้างบรรยากาศรายล้อมได้ชวนระทึก

ก็นับว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากงานทีวีซีรีส์ชื่อดังหลาย ๆ เรื่องอย่าง Dexter, Boardwalk Empire, Game of Thrones, Penny Dreadful นั้นไม่เสียหลาย แต่ก็น่าเป็นห่วงที่งานแรกอย่าง 21 Bridges ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก ทั้งนักวิจารณ์และรายได้

คือถ้าพูดกันแบบง่ายๆ เลย มันคือหนังตำรวจจับผู้ร้ายธรรมดาๆ เรื่องนึง ที่หลายๆ อย่างเราเคยผ่านหูผ่านตามาในหนังแนวนี้หลายเรื่องละ มันเลยกลายเป็นอะไรหลายๆ อย่างในเรื่องนี้เชยไปเลย แต่จริงๆ พอเห็นตัวอย่างก็รู้แล้วหล่ะ มันไม่ใช่หนังวินาศสันตะโรอะไรแบบนั้น แต่จะมารอดูว่ามันจะสนุกไหมเท่านั้นเอง คือสารภาพเลย โดนชื่อ Chadwick Boseman กับสองพี่น้อง Russo เนี่ยแหละดูดเข้าไป ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาตั้งใจเอามาขายเนี่ยแหละ 555

หนังเปิดเรื่องมาดีนะ ปูเรื่องราวตัวละครได้อย่างดีเลย ทั้งทางฝั่งพระเอกและตัวร้าย และดำเนินเรื่องมาเรื่อยๆ ได้อย่างน่าสนใจ มีฉากแอ็คชั่นที่ดุเดือด ตั้งแต่ต้นเรื่องที่โชว์ความเทพและร้ายกาจของฝั่งผู้ร้าย ที่ได้สังหารเหล่าตำรวจอย่างเลือดเย็น เลยทำให้ทางฝั่งพระเอกต้องปิดเกาะไล่ล่าผู้ร้ายซะ คือมันเปิดดีจนให้เราพาลคิดไปว่า เหตุการณ์หลังจากนี้มันคือการไล่ล่ากันอย่างดุเดือดแน่นอน แต่มันไม่ใช่ และผิดคาดไปเยอะเลยทีเดียว

หนังกลับกลายเป็นเล่นท่ายากเกินไป พยายามทำให้เรื่องราวมันซับซ้อน ถ้าไปเน้นแอ็คชั่นดาดๆ ไม่ต้องสนอะไรเรื่องพวกนั้นเอาแค่ตำรวจจับผู้ร้าย แมวไล่จับหนู แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับการสร้างความบันเทิงให้กับคนดูได้แล้ว แถมไอ้เรื่องราวที่พยายามทำให้มันมีเงื่อนงำมันกลับเดาได้ง่ายๆ ไม่ได้ช่วยยกระดับหนังให้ดีขึ้นมาแต่อย่างใด เสียดายเรื่องราวที่ปูมาตั้งแต่แรกของทุกๆ ฝ่ายมาก เพราะหนังไม่ได้โชว์ตัวตนที่ควรจะเป็นของทั้งสองฝั่งให้เราดูสักเท่าไหร่เลย

เอาว่าถ้าตัดเรื่องบทเฉลยของหนังที่เดาง่ายไปแล้ว มองกันแค่ในขอบเขตของหนังแอ็กชันเรื่องหนึ่ง ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับมาตรฐาน ตั้งแต่ลั่นกระสุนนัดแรกไปแล้ว หนังก็เดินเรื่องเร็วปรี๊ด ไล่ล่ากันแบบไม่มีพักเลย เล่นอาวุธหนักกันทั้ง 2 ฝ่าย สาดกระสุนกันอย่างจุใจแบบไม่ต้องนับ แถมมีโชว์วิทยาการไฮเทคของตำรวจนิวยอร์ค ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการตามล่าคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้หนังเดินหน้าไปอย่างน่าติดตาม เอาว่าคอหนังแอ็กชันดูได้ครับ ไม่เสียดายเงินไม่เสียดายเวลา

สรุป

ถ้า 21 Bridges คือหนังแอ็คชั่นธรรมดาๆ ไม่มีอะไรน่าจดจำ เปิดได้ดีน่าสนใจ แต่หลังจากนั้นก็ธรรมดา ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ดูก็ดี ไม่ดูก็ได้ ก็พอได้เพลินๆ แหละ จะว่าไปมาดตำรวจของ Chadwick Boseman ก็เท่ไม่หยอกเหมือนกันแหะ สลัดคราบจะไม่เหลือความเป็นฝ่าบาทเลย โปรแกรมหนัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น