วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Ready or Not เกมพร้อมตาย

รีวิว Ready or Not เกมพร้อมตาย

เข้าสู่ฤดูหนังเล็กหลังจากจบสิ้นฤดูหนังซัมเมอร์ไปแล้วกับ Hobbs and Shaw ที่เป็นเรื่องส่งท้ายเทศกาล หนังฟอร์มเล็กที่ใช้ทุนสร้างต่ำก็ต้องเป็นหนังสยองขวัญเนี่ยล่ะ โอกาสเสี่ยงที่จะขาดทุนต่ำ ถึงแม้ว่าพลอตเรื่องของ Ready or Not จะฟังดูแปลกใหม่ แต่ก็ยังดำเนินบนสูตรสำเร็จที่ว่าด้วยการไล่ล่าเหยื่อในพื้นที่ปิดล้อม รอบนี้ขยายมาเป็นพลอตเรื่องได้น่าสนใจ เมื่อเกรซเจ้าสาวคนสวยกำลังดีใจเนื้อเต้นที่กำลังจะเป็นสะใภ้ในตระกูลใหญ่ เลอ โดมาส เป็นตระกูลเก่าแก่มีศักดินามายาวนาน ร่ำรวยจากธุรกิจเกมกระดาน และเป็นเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอลอีก 4 ทีม งานแต่งจัดอย่างเรียบง่ายในปราสาทส่วนตัวของครอบครัว รีวิว Ready or Not เกมพร้อมตาย ดูหนังออนไลน์

เรื่องย่อหนัง

หนัง Ready or Not หรือชื่อไทยว่า เกมพร้อมตาย Ready or Not เกมพร้อมตาย คือเรื่องราวของเจ้าสาวป้ายแดง (รับบทโดยซามาร่า วีฟวิ่ง) คืนวันแต่งงานคืนแรกที่เธอต้องเข้าร่วมประเพณีของครอบครัวสามีของเธอ ในการเล่นเกมที่มีชีวิตของเธอเป็นเดิมพัน การเอาชนะเกมนี้คือเธอต้องอยู่รอดให้ถึงรุ่งเช้า แต่ครอบครัวนี้คงไม่ปล่อยให้เธอรอดได้ง่ายๆ

Ready or Not ถือเป็นหนังสยองขวัญ ระทึกขวัญ ที่เริ่มพล็อตเรื่องได้น่าสนใจ โดยเฉพาะการนำเสนอเรื่องของเจ้าสาวอย่างเกรซ (ซามารา วีฟวิ่ง) ที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์อย่างชื่นมื่นกับอเล็กซ์ (มาร์ค โอ’ ไบรอัน) โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า ตัวเองกำลังกำลังจะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดครั้งใหญ่แบบที่เธอไม่เคยจะจินตนาการมาก่อน

แม้ช่วงพิธีแต่งงาน เกรซจะสามารถสัมผัสได้ถึงรังสีบางอย่างจากตระกูลเลอ โดมาส ที่เธอก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก ว่านั่นเป็นรังสีอัมหิตหรืออะไรกันแน่ แม้แดเนียล (อดัม โบรดี้) พี่ชายของอเล็กซ์เตือนเกรซก่อนที่เธอจะเดินเข้าสู่พิธีแต่งงาน ว่าตระกูลคนรวยไม่ได้ปกติเหมือนครอบครัวอื่นๆ แต่เธอก็ไม่ทันได้ฉุกคิดอะไรมากมาย เกรซเพียงแค่เข้าใจว่าเป็นการแซวเล่นติดตลก จนกระทั่งกลางดึกของคืนวันแต่งงาน

เกรซถูกบังคับให้เข้าร่วมเล่นเกมอันเป็นพิธีกรรมที่สืบทอดมาอย่างยาวนานของตระกูลนี้ ทุกอย่างดูจะสวยหรูราบรื่น เมื่อเสร็จพิธีในช่วงค่ำ อเล็กซ์เจ้าบ่าวของเกรซก็บอกกับเธอว่า ตระกูลของเขามีพิธีการเก่าแก่ที่สะใภ้หรือเขยที่แต่งงานเข้าสู่ตระกูลนี้จะต้องเล่นเกมด้วยกันกับสมาชิกครอบครัว ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะเสี่ยงทายได้เกมอะไร นี่มันหนังสยองขวัญนะ เกรซก็จำต้องดวงซวยสุดเสี่ยงทายได้เกม “ซ่อนหา” ซึ่งฟังดูขำ ๆ แต่กลับกลายเป็นว่านี่คือเกมไล่ล่าเอาชีวิต เกมที่ทุกคนภาวนาว่าอย่าได้เจอ

ในขณะที่สะใภ้และเขยที่แต่งเข้ามาก่อนหน้าก็ได้เกมน่ารัก ๆ อย่างหมากรุก หรือไพ่อีแก่กัน เกมที่เกรซเผชิญก็เหมือนเกมซ่อนหาทั่วไป แต่ถ้าเกรซซ่อนไม่ดีถูกหาเจอ นั่นหมายถึงจุดจบชีวิตเพราะสมาชิกในครอบครัวที่มีทั้ง พ่อ, แม่, พี่ชาย, พี่สะใภ้, พี่สาว, พี่เขย และอาหญิงที่หน้าตาดูโรคจิตกระหายอยากจะเล่นเกมนี้ที่สุด ทุกคนมาพร้อมอาวุธหนักที่พร้อมจะเอาชีวิตเกรซทันทีที่พบตัว

เมื่อผู้ชมรับทราบเงื่อนไขว่า เกรซจะต้องซ่อนตัวให้พ้นจากบรรดาสมาชิกในครอบครัวเลอ โดมาส จากการตามหา แม้ตอนต้นเธอเข้าใจว่ามันเป็นเกมสนุกๆฆ่าเวลา เธอไม่ได้นึกว่านี่เป็นเกมที่เธอต้องเดิมพันด้วยชีวิตของตัวเอง ทันทีที่เกมนี้เริ่มต้นขึ้นกลายเป็นว่า เหยื่อคนแรกกลายเป็นสาวใช้ที่บังเอิญถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเกรซ ทำให้นางเอกเข้าใจแล้วว่า คำเตือนของแดเนียลนั้นหมายถึง “ความตาย” ที่รอคอยเธออยู่

ระหว่างที่เกรซตกอยู่ในเกมแมวไล่จับหนูสุดอันตราย คนดูก็เริ่มได้ทำความเข้าใจความลับของครอบครัวเลอ โดมาสทีละเล็กทีละน้อย ถึงความเป็นมาเป็นไปของตระกูลนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกชาย ความขัดแย้งระหว่างประเพณีอันแสนโบร่ำโบราณกับวิธีคิดของคนสมัยใหม่ จนนำไปสู่ความโกลาหล มุกตลกร้ายที่เกิดจากความเข้าใจผิด เป็นต้น

ความสนุกสนานที่ผู้ชมจะได้รับจาก Ready or Not ไม่ได้อยู่แค่เพียงฉากการไล่ล่าอันแสนดุเดือด แต่การได้ทำความเข้าใจถึงความลับประจำตระกูลที่อยู่บนความก้ำกึ่งระหว่างตำนานประจำครอบครัวหรือจริงๆแล้วเป็นเรื่องขี้โม้ที่ถูกกุขึ้นมาเอาไว้รักษาธรรมเนียมที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน ก็กลายเป็นอีกหนึ่งปมที่ถูกคลี่คลายออกมาและสามารถอุดรอยรั่วของเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดอย่างสุดเซอร์ไพรส์


หนังใช้เวลาปูความไม่นาน เพราะหนังยาวเพียงแค่ 90 นาที ไม่รวมเครดิตท้ายเรื่อง เกรซต้องควบคุมสติไม่ให้เตลิดเปิดเปิงเพื่อจะเอาชีวิตรอดจากครอบครัวโรคจิตนี้ในปราสาที่เธอไม่ชำนาญพื้นที่นัก ความตื่นเต้นของหนังก็คือฉากหลบซ่อนและไล่ล่า มีฉากให้ลุ้นแทบทั้งเรื่อง หลบซ่อนกันแบบฉิวเฉียดให้คนดูได้ลุ้นว่าฝ่ายล่าจะเจอตัวเธอไหม หนังเพิ่มบรรยากาศให้ตึงเครียดด้วยการปรับโทนสีหนังให้มืดหม่น ไม่มีสีสันสดใสให้เห็นเลย ฉากฆ่ากันถือว่ารุนแรงตามมาตรฐานหนังสยองขวัญ ยิงหน้าไม้ทะลุปาก ฟันกันคอขาด ยิงเข้าแสกหน้า แต่ให้เห็นกันแบบแวบเดียว ไม่มีการแช่กล้องกันให้กระอักกระอ่วน ส่วนฉากตุ้งแช่เรื่องนี้มีบ้างเล็กน้อย ไม่เน้นครับ

จุดที่ชอบที่สุดใน Ready or Not คือมุกตลกร้ายที่หยอดเข้ามาได้ถี่ เลยทำให้หนังเดินหน้าแบบลุ้นไปขำไป มุกที่ยิงมาได้ผล หัวเราะได้เสียงดัง ๆ ช่วยผ่อนเบาให้บรรยากาศหนังได้มากไม่เครียดเกินไป ระหว่างการไล่ล่าก็ยังมีช่วงให้ผ่อนพักหายใจ 2 – 3 รอบ แทรกด้วยบทสนทนาในครอบครัวซึ่งทำให้เราได้รู้ถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวนี้ที่ไม่สู้ดีนัก และเผยถึงคำสาปโบราณที่ครอบครัวนี้กลัวกันหนักหนา

และเป็นเหตุให้สมาชิกครอบครัวต้องพยายามเอาชีวิตเกรซให้ได้ก่อนรุ่งเช้า บทอเล็กซ์สามีของเกรซ ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้หนังน่าติดตาม เพราะคนดูจะต้องคาดเดาความคิดการตัดสินใจของเขาว่าจะอยู่ข้างเกรซ ช่วยเธอให้รอดชีวิตจากคืนนี้ หรือจะเลือกครอบครัวแล้วเอาชีวิตของเกรซเข้าแลก จุดที่เกินคาดเดาไปมากคือฉากจบ ไม่คิดว่าจะเลยเถิดไปถึงขั้นแฟนตาซีเพียงนี้

ซามารา วีฟวิ่ง นักแสดงวัยรุ่นที่เคยสร้างชื่อมาจากบทพี่เลี้ยงสุดเซ็กซี่ใน The Babysitter เธอเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากกับบท เกรซ มีทั้งความสวย ห้าว แล้วก็แกร่ง บทหนังก็ใจร้ายกับเธอพอควรที่ต้องเผชิญกับคนนับสิบคอยจ้องเอาชีวิตเธอ ในการดูหนังฮอลลีวู้ดแบบนี้เราก็ทำใจไว้แล้วระดับหนึ่งว่าหนังต้องเวอร์ ตัวเอกต้องเก่งเกินจริง แต่สำหรับ Ready or Not ก็ไม่ได้เขียนให้เกรซกลายเป็นซูเปอร์ฮีโรสาว แต่ก็พลาดท่าเสียทีบ่อยครั้ง ผ่านค่ำคืนนี้ไปแบบสะบักสะบอมมีบาดแผลทั้งตัว ฉากปีนขึ้นบันได (บอกแค่นี้พอ เดี๋ยวกลายเป็นสปอยล์) เป็นฉากที่โคตรลุ้น แล้วซามาราก็ถ่ายทอดสีหน้าได้ดีมาก พาคนดูให้รู้สึกร่วมเจ็บปวดไปกับเธอได้เลย

อีกรายที่อยากพูดถึงสำหรับคอหนังรุ่นเก่า คือการกลับมาปรากฏตัวของ แอนนี แม็กโดเวลล์ นางเอกแถวหน้าจากยุค 90s เธอเป็นเจ้าของบทนำในหนังระดับตำนานหลายเรื่อง Groundhog day (1993), Four Weddings and a Funeral (1994) และ Hudson Hawk (1991) แอนดี กลับมารับบทขุ่นแม่ในเรื่องนี้ด้วยวัย 61 ปี ใบหน้าก็สมวัยละครับเหี่ยวย่นทั้งหน้า แต่สำหรับคนที่เคยเห็นเธอในวัยสวยสุดมาแล้ว ก็ต้องทำใจพอควรกับการยอมรับสัจธรรมชีวิตอันน่ากลัว แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีร่องรอยความสวยในวัยสาวให้เห็นอยู่นะ



เอาจริงๆ แล้วตัวหนังก็ไม่ได้ฉีกไปจากหนังไล่ฆ่าตามสูตรทั่วไป เพียงแต่ว่าหลังจากดูจบแอบรู้สึกชอบมากประมาณนึง ตรงที่หนังไม่ได้มาในเวย์หญิงแกร่งเเอาคืนไอ้พวกบ้านี่แบบ You're Next อย่างที่คิดไว้ (เพราะตัวหนังโปรโมตมาในแบบนั้นด้วย) แต่กลายเป็นว่าตัวนางเอกอย่างเจ้าสาวนี่คือมีความเป็นเหยื่อสูงมาก อารมณ์คล้ายกับตัวเอกใน Get Out และที่ชอบยิ่งกว่าคือตัวหนังมีความเป็นคอเมดี้ที่สูงมากกก
ทำให้ตอนดูรู้สึกว่าหนังให้ความรู้สึกมากกว่าการแค่อยากเอาใจช่วยนางเอกเฉยๆ

แต่มันยังได้ลูกตลก ลูกฮา ลูกโหดไปพร้อมๆ กันด้วย แล้วยิ่งสเกลของเรื่องมันไม่ได้กว้าง ตัวหนังมันไม่ยาว เล่าเรื่องแค่คืนๆ เดียวมันค่อนข้างเป็นความบันเทิงที่ย่อยง่าย กระชับ และเพลิดเพลินมากตลอดชั่วโมงครึ่ง แล้วยิ่งตัวนางเอกอย่าง Samara Weaving ก็เล่นดี ไม่น่ารำคาญ สวยน่ารัก น่าเอาใจช่วย ยิ่งโอเคเข้าไปใหญ่

หนังบันเทิงมากและสนุกมากจริงๆ หาความน่าเบื่อไม่เจอเลย เป็นหนังพล็อตธรรมดาที่แลดูแปลกใหม่และมีเสน่ห์ (งงไหม 555) เหตุผลในการฆ่าก็ดูบ้าบอดี (ชอบๆ) หนังมีการดำเนินเรื่องเหมือนหนังไล่ล่าไล่ฆ่าทั่วไป ที่มีทั้งความโหด ความบ้า มีเลือด ฉากแหวะ น่าหวาดเสียว คือมีครบที่หนังแนวนี้ควรจะมี แต่ก็มีความตลกแบบเพี้ยนๆ มาอยู่เรื่อยๆ คือบางฉากนี่ฮาแบบฮามากจริงๆ เป็นหนังความยาวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งที่รู้สึกว่าสั้นไปเลย โดยรวมแล้วชอบเลยแหละ โดยเฉพาะฉากจบแบบ บ้าบอดี คิดได้ไง 555

แต่ยังมีจุดอีกนิดนึงที่น่าเสียดาย ด้วยความที่หนังมันสั้นไปด้วยแหละ คือเราอยากเห็นความกดดันของตัวละคร และการไล่ล่ากันที่มากกว่านี้ สถานการณ์ที่บีบคั้นให้คนดูลุ้นยิ่งกว่านี้ ซึ่งมันก็มีนะแต่อยากให้มันมีมากขึ้นไปอีก คือมันมาขนาดนี้แล้วก็เอาให้มันสุดไปเลย ความโหด ความบ้า ความเพี้ยนอะไรทำนองนี้
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หนังมีเสน่ห์ก็คือคาแร็คเตอร์ของเจ้าสาวป้ายแดงที่รับบทโดย Samara Weaving เนี้ยแหละ เธอดูสวยมว๊ากกกกกกกกในชุดเจ้าสาว มองได้ไม่เบื่อเลย และยิ่งตอนเธอเริ่มสู้หรือเอาคืนดูมีความจิตๆ ยิ่งทำให้ตัวละครนี้น่าสนใจเข้าไปใหญ่ ดูไปดูเธอเหมือน Margot Robbie เหมือนกันแหะ ภาพแวปมาเป็นระยะๆ เลยทีเดียว

สรุป
คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายเข้าไปดูจริงๆ ความบันเทิงแบบครบถ้วนมากๆ ใครชอบหนังแนวนี้ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ไม่ดูแล้วจะเสียใจ!!! เว็บสตรีมหนัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น