วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Dora and the Lost City of Gold

รีวิว Dora and the Lost City of Gold

เรื่องย่อ

เติบโตและใช้ชีวิตในป่ามาตั้งแต่เกิด ดอร่า (อิซาเบลา โมเนอร์) สาวน้อยผมหน้าม้าที่ใช้ชีวิตอยู่กับ พ่อ (ไมเคิล เพนยา)กับแม่ (อีวา ลองเกอเรีย)นักสำรวจที่ปลูกฝังความช่างสงสัยให้เธอ จนกระทั่ง ดอร่า
ต้องไปใช้ชีวิตในเมือง โดยได้่กลับไปพบ ดิเอโก (เจฟฟ์ วอห์ลเบิร์ก)ลูกพี่ลูกน้องคนสนิทที่เปลี่ยนไปจากสังคมไฮสคูล

และขณะไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ ดอร่าและเพื่อนๆก็ถูกกลุ่มนักล่าสมบัติลักพาตัวไปยังเปรูที่พ่อแม่ของเธอขาดการติดต่อไป

งานนี้ ดอร่า ดิเอโก และ แซมมี (แมดเดลีน แมดเดน) กับ แรนดี (นิโคลัส คูมบ์) เพื่อนใหม่ของทั้งคู่ต้องทำทุกทางเพื่อตามหาพ่อและแม่นักสำรวจที่หายตัวไป ก่อนเหล่าร้ายจะค้นพบ พาราพาต้า เมืองทองคำของเผ่าอินคาและฉกสมบัติไปจากที่ที่มันควรอยู่ รีวิว Dora and the Lost City of Gold  ดูหนังออนไลน์

สำหรับบ้านเราหลายคนคงเห็น ดอร่าแบบผ่านๆ ตากันไปบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นคลิปไวรัลทางโซเชียลซะมากกว่า คลิปที่มีดอร่าให้คนดูพูดแบคแพ็ค เพื่อเป็นการเปิดกระเป๋า หรือพูดสไวเปอร์เมื่อเห็นโจรที่เป็นสุนัขจิ้งจอก จะมีส่วนน้อยจริงๆ ที่จะเคยดูเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นแบบเต็มๆ และรู้ถึงแก่นของเรื่องราวว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้ เปรียบเสมือน แอนิเมชั่นที่ถูกสร้างมาเพื่อสร้างพัฒนาการของเด็กเล็ก เป็นแอนิเมชั่นที่สร้างมาเพื่อให้น้องๆสามารถโต้ตอบกับตัวแอนิเมชั่นได้ สำหรับเด็กโตหรือวัยรุ่นคงไม่ได้สนใจซักเท่าไหร่ และก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มีการหยิบเอาเรื่องนี้มาทำเป็น Live Action เพื่อฉายโรง

เนื้อเรื่องในเวอร์ชั่นหนังใหญ่นี้ จะเป็นการเล่าเรื่องในวัยรุ่นของดอร่าที่ต้องย้ายไปเรียนในโรงเรียนในเมือง ซึ่งปกติแล้วเธอมักจะอาศัยและผจญภัย กับพ่อแม่ในป่าต่างๆ ซะมากกว่า ทำให้ดอร่าเองต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตคนเมืองให้ได้ แถมทั้งยังต้องออกผจญภัยเพื่อตามล่านครทองคำที่สาปสูญอีกด้วย
เอาเข้าจริงแล้วถ้าหลายๆคนทำความเข้าในของสไตล์การเล่าเรื่อง หรือโทนของหนังดอร่ามากก่อนคงจะไม่ได้มีอะไรติดใจ หรือน่าประหลาดใจเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคนที่เห็นหน้าหนังว่าเป็นหนังแอคชั่นผจญภัย คงต้องผิดหวังเป็นแน่ เพราะระหว่างดูคงได้แต่คิดรำคาณความซื้อบื้อและเชื้องช้าของตัวละคร ดอร่า อย่างแน่นอน

เดิมที Dora The Explorer คือแอนิเมชันซีรีส์ช่อง นิโคโลเดียน และ นิค จูเนียร์ ที่มุ่งสอนบทเรียนหลากหลายแก่เหล่าหนูน้อย เป็นแอนิเมชันส่งเสริมการศึกษาที่ดูสนุก และมีเอกลักษณ์ตรงสาวน้อยผมหน้าม้าอย่างดอร่า มักจะชักชวนให้เด็กๆได้ทบทวนบทเรียนที่เธอเพิ่งสอนไป รวมถึงเอกลักษณ์สำคัญคือ การตะโกน แบ็คแพค เพื่อนำของจากเป้สีเหลืองของเธอออกมา จนเกิดกระแสทำคลิปล้อเลียนฮาๆมากมาย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความทรงจำสำหรับเด็กที่เกิดมาในยุคหลัง 2000 ก็ว่าได้

สำหรับการดัดแปลงเป็นบทหนัง ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ ของทอม วีลเลอร์, นิโคลาส สโตลเลอร์ และ แมตธิว โรบินสัน ก็ถือว่าชาญฉลาดมากที่กล้าหยิบเอกลักษณ์ที่แฟนๆดอร่ารู้จักดีข้างต้นมาใช้งานได้อย่างชาญฉลาด ตั้งแต่การให้ดอร่า ‘ทำลายกำแพงที่ 4’ หันมาชักชวนคนดูให้ทบทวนข้อมูลที่เธอเพิ่งให้ไป

ซึ่งดูเผินๆเหมือนทีมบทขี้เกียจจนไปลอกงานแอนิเมชัน แต่กลับกลายเป็นว่ามันใช้ประโยชน์จากเอกลักษณ์ตรงนี้ได้คุ้มค่ามาก ทั้งในเชิงการสร้างซีนคอเมดี ที่หลังดอร่า พูดแล้วพ่อ แม่ มักทำหน้างงๆประหนึ่งหนักใจที่ลูกสาวคุยกับแม่ซื้อ จนสร้างความฮาได้หลายครืน ไปจนถึงการนำข้อมูลที่ดอร่าเน้นย้ำ กลายมาเป็น ‘โมทีฟ’ หรือ ข้อมูลอันเป็นกลไกในการเล่าเรื่องนำมาใช้ซ้ำเพื่อแสดงให้เห็นว่า ความรู้ที่เธอให้ไปก่อนหน้านี้ ทำให้เธอเอาตัวรอดจากเหล่าร้ายได้ยังไง

แม้ว่าหลายเหตุการณ์จะเต็มไปด้วยความบังเอิญและโชคช่วยบ้าง แต่ในภาพรวมตัวหนังก็มีลูกเล่นหลายอย่างที่พยายามเอาใจคนดูแทบทุกช่วงวัย ทั้งจากตัวละครซีจีอย่าง เจ้าบูต ลิงจอมกวน และ สไวเปอร์ (ให้เสียงโดย เบเนซิโอ เดล โทโร) หมาป่าจอมโจรสวมที่คาดตา ที่ขยันมาขโมยซีนจนน่าจะกลายเป็นขวัญใจเด็กๆได้ไม่ยาก หรือเอาใจวัยรุ่นกับบทโรแมนติกแบบซึนดาเระ ระหว่าง ดิเอโก กับ แซมมี 
ไปจนถึงมุกตลกกาวๆ และการผจญภัยที่น่าจะทำให้คอหนังรุ่นใหญ่นึกถึงหนังอินเดียนาโจนส์ ไม่น้อยเลยทีเดียว

และในขณะเดียวกันการเพิ่มตัวละครวัยรุ่นทั้ง 3 ตัวยังทำให้เรื่องราวดูมีมิติมากขึ้นโดย ดิเอโก เป็นตัวแทนเด็กหนุ่มสุดแปลกแยกที่พยายามเข้ากับคนอื่นจนต้องทำตัวเหินห่างจากดอร่า แซมมี เด็กสาวที่พยายามทำทุกอย่างให้เป็นตัวเองเป็นที่หนึ่งไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น และ แรนดี เนิร์ดดาราศาสตร์สุดขี้ขลาด โดยเมื่อทั้ง 3 ตัวละครมาตกอยู่ในการผจญภัย พวกเขาก็ได้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันซึ่งถือเป็นการให้ข้อคิดทางอ้อมกับเหล่าวัยรุ่นได้ดีเลย แม้ว่าหนังจะแตะประเด็นที่โรงเรียนน้อยไปนิดแต่ก็แลกมากับฉากผจญภัยสนุกๆที่อัดแน่นตลอด 102 นาทีของหนังก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว


จุดเด่น

จุดเด่นของ ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ คงหนีไม่พ้นการเลือก อิซาเบลา โมเนอร์ ที่เคยปรากฎตัวในหนังฟอร์มยักษ์ทั้ง Transformers : The Last Knight (2017) และ Sicario: Day of the Soldado (2018) มารับบท ดอร่า ที่เปลี่ยนภาพจำจากเด็กสาวหัวโตผมหน้าม้าด้วยลุคเด็กสาววัยรุ่นผิวสีน้ำผึ้งหน้าตาสวยๆแต่ยังคงผมหน้าม้าเป็นเอกลักษณ์ซึ่งพอแคส อิซาเบลา โมเนอร์ มาสวมวิญญาณเจ้าหนูจัมไมอย่าง ดอร่า แล้วต่อให้ยังคงคาแรกเตอร์พูดพล่ามไม่หยุดไว้ก็ยังน่ามองอยู่ดี แถมเธอยังแสดงได้อย่างน่ารักน่าชังโดยไม่ทิ้งส่วนดราม่าที่ใช้สายตาสื่ออารมณ์ได้ดีมากเลยทีเดียว

ส่วนนักแสดงสมทบส่วนใหญ่ก็ทำหน้าที่ในส่วนของฉากตลกๆได้ดี โดยเฉพาะไมเคิล เพนยา และ อีวา ลองเกอเรีย ที่รับบทพ่อแม่นักสำรวจสุดรั่วได้ฮามาก เจฟฟ์ วอห์ลเบิร์ก ก็โชว์ความหล่อเท่ในบทเด็กหนุ่มค้นหาตัวตนได้ดี, แมดเดลีน แมดเดน ในบทแซมมีก็ค่อยๆทำให้คนดูหลงรักเธอได้จากบทโรแมนซ์กับเจฟฟฺ์ วอห์ลเบิร์ก และ นิโคลัส คูมบ์ ในบทหนุ่มเนิร์ดก็ช่วยเสริมในทางคอเมดีได้ดีเช่นกัน ซึ่งก็ต้องยกย่องการกำกับของ เจมส์ โบบิน ที่มาสายคอเมดีทั้ง The Muppets (2011) และซีรีส์ชุด Ali G ที่กำกับการแสดงสายคอเมดีให้หนังแทบไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย ดูไปหัวเราะไปได้ยาวๆ

นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่ ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ ได้เข้าฉายในสัปดาห์ต้อนรับวันแม่แบบนี้ ซึ่งตัวหนังก็เหมาะจะจูงลูกหลานทั้งครอบครัวไปสนุกกันจริงๆ โดยแม้หนังจะยังมีบางช่วงที่ดูเด็กน้อยอยู่บ้าง แต่มุกตลกต่างๆของหนังก็เวิร์กพอให้ผู้ใหญ่ได้บริหารขากรรไกรอยู่ครับ

สรุป

ดอร่าเวอร์ชั่นนี้ทำมาเพื่อเซอร์วิสแฟนๆแอนิเมชั่น และเด็กเล็กๆเป็นหลักจริงๆ ตัวหนังตอบโจทย์ในความเป็นหนังผจญภัยสำหรับเด็กได้อย่างเต็ม 100% ใครที่เคยติดตามเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นมาก่อนหน้านี้คงฟินและเอ็นจอยกับเรื่องนี้ไปตามๆกันแน่นอน

ปล. กลับกันถ้าเป็นคนดูหนังขาจร และไม่ได้มีการทำการบ้านมาก่อนแล้วมาชมเรื่องนี้คงได้แต่อุทานในใจว่า อะไรของดอร่าว่ะเนี้ย แน่นอน 555 เว็บสตรีมหนัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น