วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Kimetsu No Yaiba (Demon Slayer)

ดูหนัง HD

รีวิว Kimetsu No Yaiba (Demon Slayer) - ดาบพิฆาตอสูร

Kimetsu no Yaiba (ชื่อภาษาอังกฤษ Demon Slayer) หรือในชื่อตามฉบับลิขสิทธิแปลไทยคือ “ดาบพิฆาตอสูร” ซึ่งปัจจุบันออกกับ สนพ.สยามอินเตอร์แล้ว 17 เล่ม และยังไม่จบ สำหรับในฉบับอนิเมะก็กำลังติดเทรนด์และเป็นกระแสอยู่ที่ญี่ปุ่นและผู้ชมในต่างประเทศทั่วโลกด้วย รีวิว Kimetsu No Yaiba
ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba เป็นสุดยอดอนิเมะมาแรงแห่งปี 2019 ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายอดเยี่ยมเกินคาด แล้วยังส่งผลไปถึงการผลักดันยอดขายของมังงะฉบับรวมเล่ม จนกระทั่งสามารถทำยอดขายรวมเล่มแซงชนะวีนพีซได้ เป็นเรื่องแรกที่ทำได้สำเร็จในรอบ 11 ปี จากการประกาศของ Oricon แล้วยังกวาดรางวัลต่างๆมากมายด้วย

เรื่องย่อ

คามาโดะ ทันจิโร่ หนุ่มธรรมดาที่มีดีด้านประสาทรับรู้กลิ่น (จมูกดีนั่นแหละ) กับหัวที่แข็งยังกับหิน ระหว่างที่เค้าออกจากบ้านเพื่อไปขายถ่านเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครับของเค้าตามปกติ แต่ทว่าเรื่องราวน่าเศร้าก็เกิดขึ้น เมื่อเค้ากลับมาบ้านแล้วพบว่าครอบครัวของเค้าทั้งหมดได้ถูกอสูรฆ่าตาย เหลือรอดก็แค่ เนซึโกะ ที่มีสภาพร่อแร่ปางตาย ระหว่างที่ ทันจิโร่ กำลังจะพา เนซึโกะ ไปหาคนรักษา เรื่องราวกลับเลวร้ายลงไปอีกเมื่อน้องสาวคนเดียวที่รอดชีวิตกลับกลายเป็นอสูรซะอย่างงั้น แต่เค้าก็ได้คำแนะนำจาก กิยู ที่เป็นนักล่าอสูร ว่าให้ไปพบกับ ซาคอนจิ เพื่อฝึกวิชาและหาตัวอสูรที่ฆ่าครอบครัวของเค้าและทางที่จะรักษาให้กลับเป็นมนุษย์ตามเดิม

ได้ยินมาหลายครั้งแล้วแหละครับกับอนิเมะเรื่อง “ดาบพิฆาตอสูร” ที่เป็นสุดยอดการ์ตูนยอดเยี่ยมแห่งปี2019 หลังจากที่ลง NETFLIX มาได้สักพักแล้ว ตัวผมเองก็เพิ่งจะดูจนจบ ซึ่งขอปรบมือให้เลย คำว่าสุดยอดอนิเมะแห่งปีนั้นไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยจริง ๆ โปรดักชันดี บทดี ภาพดี ซาวนด์ดี คือครบรสจริง ๆ

สำหรับอนิเมะ ได้รับความสนใจและเป็นกระแสในต่างประเทศมาตลอดตั้งแต่เริ่มฉาย แต่จุดสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้พุ่งทะยานจนเป็นกระแสรุนแรง เกิดขึ้นหลังจากอนิเมะได้ฉายตอนที่ 19 บนเว็บสตรีมมิ่งไปแล้ว ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับและเรตติ้งถล่มทลายอย่างมาก เรียกได้ว่ามีรายงานเกี่ยวกับประเด็นนี้ หลังจากผู้ชมในญี่ปุ่นได้โหวตลงเว็บไซต์ Nico Nico ซึ่งเป็นเว็บไซต์สตรีมมิ่งยอดนิยมของญี่ปุ่น โดยให้เรตติ้งสูงถึง 97.5%

ไม่เพียงแค่กระแสตอบรับในด้านเรตติ้งการเข้าชมเท่านั้น แต่ในส่วนของยอดขายแผ่น DVD ยังสูงมากกว่า หนึ่งหมื่นชุด ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์เลยทีเดียว ที่อนิเมะซึ่งดัดแปลงจากโชวเน็นมังงะ จะทำยอดขายแผ่นได้มากขนาดนั้น ซึ่งไม่ได้มีมานานแล้ว

แนะนำตัวละครกันก่อน

คามาโดะ ทันจิโร่ – ลูกชายคนโตของตระกูลคามาโดะ เป็นคนจิตใจดีบริสุทธิ์ ซื่อสัตย์และรักครอบครัวมาก
คามาโดะ เนซึโกะ – ลูกสาวคนโตของตระกูลของคามาโดะ เป็นคนเดียวที่รอดจากเหตุการณ์ฆ่าล้างตระกูลคามาโดะ แต่ก็ถูกเปลี่ยนจากมนุษย์ให้กลายเป็นอสูร
อากาสึมะ เซ็นนิตสึ – เป็นคนที่ขี้ขลาดตตาขาวมาก มองโลกในแง่ร้ายสุด ๆ และไม่มั่นใจในตัวเองอะไรสักอย่าง แต่ถ้าหากเค้าหมดสติเมื่อไหร่บอกเลยว่าเปลี่ยนไปยังกับคนละคน
ฮาชิบิระ อิโนสึเกะ – เด็กหนุ่มผู้ที่ชื่นชอบการใส่หมวกหมูป่าตลอดเวลา เป็นคนเดือดง่าย เลือดร้อน และชอบการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ
อุโรโกะดากิ ซาคอนจิ – อดีตนักดาบแถวหน้าขององค์กรล่าอสูรที่ผันตัวมาเป็นอาจารย์ผู้ฝึกสอนวิชาดาบปราณวารี แต่เหล่าบรรดาลูกศิษย์ทั้งหมดเค้าตายระหว่างการสอบรอดแค่เพียง กิยู และ ทันจิโร่ เท่านั้น
โทมิโอกะ กิยู – นักล่าอสูรคนแรกที่พบกับ ทันจิโร่ และเป็นคนแนะนำให้เค้าไปพบ ซาคอนจิ เพื่อฝึกวิถีแห่งการล่าอสูรและหาทางรักษาน้องสาวของเค้า

เรื่องราว

ขอพูดถึงการเล่าเรื่องก่อนเลย การเปิดเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้เล่นที่ประเด็นทำยังไงก็ได้ให้พระเอกดูน่าสงสารและสิ้นหวังที่สุด การที่เปิดมาแล้วครอบครัวของตัวเองถูกฆ่าตายทั้งหมดมันทำให้เกิดอิมแพ็กทำให้เรารู้สึกสงสารและอยากจะเห็นเค้าเติบโตและผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปให้ได้ โดยเหลือความหวังเพียงอย่างเดียวนั้นก็คือ เนซึโกะ น้องสาวของเค้าที่รอดตายและถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นอสูร การ์ตูนทำให้เรารู้สึกอยากทำให้เราเห็นพระเอกทำสำเร็จ อยากให้เค้าได้กลับมาเจอน้องสาวตัวเองอีกครั้งนึง ทั้ง ๆ ที่ตัวอยู่ติดกันแท้ ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกว่าทั้ง 2 ช่างอยู่ห่างกันเหลือเกิน

โปรดักชัน

ส่วนด้านโปรดักชันนั้นเอาไปเลย 10 เต็ม 10 มันสวยมาก อลังการ สร้างออกมาได้ดีทุกด้านราวกับว่าเงินทุนของการ์ตูนเรื่องนี้มีให้ใช้ได้แบบไร้ขีดจำกัด ทั้งซาวนด์ประกอบ ฉากตลกก็ทำออกมาได้เกรียนสุด ๆ แอ็กชันก็ทำได้อย่างเดือด บทดราม่าก็ทำเอาน้ำตาตกได้อย่างง่ายดาย เวลาในการดูการ์ตูนเรื่องนี้มันผ่านไปไวมาก จนรู้สึกว่าไม่อยากให้มันจบลงไปเลย

จุดที่ชอบ

ในฐานะคนดู คงต้องคารวะงาม ๆ ให้กับทีมสร้างของ Ufotable ที่ทำเรื่องนี้ออกมาชนิดอลังการ มีการแซวกันในช่องยูทูปบ่อยครั้งว่า Ufo คงได้งบประมาณไม่อั้น เป็น Unlimited Budget Worked
แต่ที่เด็ดจริง ๆ คือ ทางค่ายจานบิน “ตีโจทย์แตก” ในอนิเมะที่ทำออกมามีการเสริมและตัดทอนการเดินเรื่องบางจุด แต่ออกมาแล้วส่งผลบวกมากกว่าลบ แถมยังถูกจริตคนดูต่างชาติด้วย ไม่ว่าจะเป็น ฉากแอ็คชั่น ที่ทำให้รู้เรื่องกว่ามังงะ เอฟเฟคสุดตระการตา เพลงประกอบสุดขลัง และโมชั่นตัวละครที่รู้สึกเลยว่าจัดเต็ม

แม้แต่คนเขียนอย่าง โคโยฮารุ โกโตเกะ ยังออกมาโพสต์โซเชียลว่า ดูหนัง HDตอนที่ 19 ซ้ำไปซ้ำมากว่า 20 รอบ และดีใจจนร้องไห้ เธอยังบอกว่ารู้สึกดีใจจริง ๆ ที่ได้วาดการ์ตูนเรื่องนี้ออกมาด้วยความพยายามอย่างเต็มที่

ในส่วนของเรตติ้งอนิเมะตอนที่ 19 ซึ่งมาแรงสุด ๆ นั้น ขอแนะนำว่า ลองหาดูกันเองจะเข้าใจได้ทันทีครับ แต่ที่จริงแล้ว ก็ไม่ได้มีแค่ตอนนี้เท่านั้น เพราะฉากแอ็คชั่นของอนิเมะเรื่องนี้ที่ทำออกมาแล้วโดดเด่นมาก ยังอยู่ในอีกหลายตอน ที่แนะนำก็เช่น หนังออนไลน์ตอนที่ 1 2 3 4 11 12 14 17 18 19 20…เอาเป็นว่าดูมันทุกตอนนั่นแหละครับ

จุดเด่น

เนื่องจากจุดที่ผู้เขียนใส่เข้ามาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ อย่างไม่ปราณีเลยก็คือสัญญาณที่บอกว่า “ตัวละครเรื่องนี้ทุกคน ตายจริง เจ็บจริง พิการจริง” ต่อให้เป็นตัวละครสำคัญและคนอ่านชอบขนาดไหน ถ้าถึงเวลาตาย ก็ต้องตาย ไม่มียืด นี่ก็เป็นอีกจุดที่ทำให้คนอ่านต้องตามลุ้นกลุ่มตัวละครที่ชอบว่า จะอยู่หรือจะไป

จุดเด่นอีกเรื่องก็คือ การที่ผู้เขียนสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่น่าสนใจให้กับกลุ่มตัวละครในเรื่อง โดยเฉพาะ “สายสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว” ซึ่งเรื่องนี้เล่นประเด็นนี้มาตลอดเรื่องจนถึงตอนล่าสุด แล้วเรื่องราวตรงนี้ยังใส่เข้ามาในส่วนของตัวร้ายอย่างพวก “อสูร” ทำให้เราได้เห็นมุมมองที่ทั้งรันทด หดหู่
แต่ในขณะเดียวกันผู้เขียนก็เลือกที่จะนำเสนอให้เราเห็นอีกมุมมองผ่านตัวเอกอย่างทันจิโร่ว่า อสูรเมื่อตายแล้ว ก็ไม่ใช่อสูรอีก แล้วตัวเอกก็ไม่ได้เลือกที่จะให้อภัยพวกอสูร ไม่ลังเลที่จะสังหารอสูร แต่เขาก็ไม่คิดจะเอาแต่เคียดแค้นพวกอสูรเหมือนกัน แล้วเอาเข้าจริง อสูรในเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะตัวเองด้วย (ขอไม่สปอยล์)

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ดูเหมือนว่ามังงะเรื่องนี้ “ดาร์ก” แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีแต่ช่วงเวลาดราม่าหรือซีเรียสในเรื่องตลอดเวลาครับ เพราะเราจะพบกับซีนตลก ๆ เบา ๆ อารมณ์ขันที่ร้ายกาจของคนเขียนก็แทรกมาตลอดเรื่อง ทำให้เรื่องราวไม่หนักเกินไป หลายฉากที่จะสนุกมากเวลาตัวละครหลายคนรวมอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้มังงะเรื่องนี้ไม่ได้วอนนาบีดาร์กหรือพยายามจะดราม่าเกินเหตุเหมือนหลายเรื่อง (แม้จะมีอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าสมูทดีแล้ว)

รีวิว Kimetsu No Yaiba


อีกจุดที่ทำได้ดีสำหรับเรื่องนี้คือ การเดินเรื่องที่กระชับ ฉับไว บทแอ็คชั่นที่ต้องให้คนอ่านลุ้นจนเหนื่อย การโยนแต่ศัตรูระดับบอสมาให้ตัวเอกต้องสู้ เรียกว่าแทบไม่มีศัตรูแนวกี้กี้ หรือตัวกระจอกให้ฝ่าด่านเลย ดังนั้นฉากสู้ที่ใช้เวลานานของเรื่องนี้จึงเป็นฉากสู้กับศัตรูระดับบอส ที่ตัวละครต้องใส่กันเต็มพิกัด แทบจะไม่มีประเภทฉากสู้กับตัวละครรอง ๆ แล้วกินเวลานานหลายตอน ทำให้ช่วงน่าเบื่อของเรื่องนี้มีค่อนข้างน้อย และข้ามไปส่วนสนุกได้ไว

ข้อเสีย..?

สำหรับผมก็จัดว่ามันไม่ใช่ข้อเสียอะไรมากมาย เพียงแต่ว่าแอบรู้สึกว่าช่วงที่พระเอกกำลังฝึกวิชาอยู่ มันค่อนข้างที่จะน่าเบื่อระดับนึง แต่ก็ดีตรงที่การ์ตูนเค้าคงรู้แหละว่าช่วงฝึกมันไม่ค่อยสนุก เลยเล่าช่วงนั้นออกมาซะสั้นเชียว รู้ตัวอีกทีพระเอกก็เก่งซะแล้ว และอีกจุดนึงสำหรับผมที่ไม่เคยอ่านมังงะมาก่อน ผมรู้สึกว่าชื่อของตัวละครในเรื่องนี้มันแอบจำยากนิดนึง แค่นั้นเอง

ในส่วนของเนื้อเรื่องแม้ว่ามันจะเข้มข้นและดราม่าน้ำตาแตกขนาดไหน แต่ในแง่ความแปลกใหม่นั้นน้อยมาก ไม่ค่อยมีจุดหักมุม เรื่องเดินเป็นเส้นตรง ตามแบบฉบับอนิเมะแมส ๆ ของญี่ปุ่นเลย แต่มันก็ไม่ใช่ข้อเสียเพราะตรงจุดนี้การ์ตูนเรื่องนี้จึงดูแล้วย่อยง่ายมาก สามารถดูติดต่อกันได้ยาว ๆ โดยไม่ปวดหัว

สรุป

นี่เป็นอีกหนึ่งการ์ตูนที่ผมกล้าอวยแบบไม่กลัวโดนด่าเลย เพราะมันดีจริง ๆ ครบรสกลมกล่อมมาก ดราม่า แอ็กชัน ตลก แฟนตาซี มาหมด แต่ก็อาจจะมีคนที่ไม่ค่อยชอบการ์ตูนแนวย้อนยุคดูแล้วจะหงุดหงิด ๆ นิดนึงเพราะคำพูดคำจาของตัวละครจะเป็นภาษาของสมัยนั้น แต่ก็อยากให้ลองเปิดใจกับเรื่องนี้ดู แล้วคุณจะติดใจ สำหรับคนที่อยากเริ่มดูแม้จะไม่เคยอ่านมังงะมาก่อนก็สามารถดูได้เลยทาง NETFLIX

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น