รีวิว App War - แอปชนแอป
ผลงานของค่ายหนังที่แตกย่อยมาเป็นค่ายใหม่ TMoment ที่เคยสร้างหนังสายคอมิดี้อย่าง ‘โอเวอร์ไซส์..ทลายพุง’ ที่เปิดหัวไปเมื่อปีก่อน มาปีนี้ จัดทีเดียวสองเรื่องรวด รีวิว App Warเรื่องย่อ
บอมบ์ กับ จูน สองหัวหน้าทีมทำแอปหน้าใหม่ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการประกวด Startup เวทีไหนมาก่อนเลย วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกันโดยบังเอิญ เมื่อได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นก็พบว่าต่างคนต่างก็ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน จนคุยกันถูกคอ และเกิดเป็นความรู้สึกดีๆ ขึ้น ค่ำคืนนั้นทำให้บอมบ์ได้แรงบันดาลใจและปิ๊งไอเดียแอป แอปหนึ่งขึ้นมาแต่หลังจากเปิดตัวแอปได้ไม่นาน ก็มีอีกแอปหนึ่งเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งไอเดียและคอนเซปต์ของแอปคล้ายของเขาจนแทบจะเรียกได้ว่า “ก๊อบ” กันออกมาทีเดียว และเมื่อสืบถึงตัวเจ้าของแอป ก็พบว่า แอปนั้นเป็นของ จูน นั่นเอง ทั้งบอมบ์และจูนได้เจอกันอีกครั้ง แต่เป็นในฐานะคู่แข่ง เมื่อต่างคนต่างก็เชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นเจ้าของไอเดียแอปนี้ และไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่าย “ก๊อบ” แถมเวลาของการแข่ง Startup ครั้งใหม่ก็กำลังจะมาถึง
และครั้งนี้มันคือการเดิมพันด้วยอนาคตของทั้งสองทีม โดยมีการระดมทุนระดับร้อยล้านเป็นเดิมพัน ทั้งสองทีมต่างต้องเอาตัวรอด พวกเขาเริ่มคิดวิธีตุกติก ยิ่งเวลาดำเนินไป แผนการล้วงลับแอปคู่แข่งของทั้งสองต่างก็เริ่มเลยเถิด และอยู่นอกเหนือการควบคุมมากขึ้นทุกขณะ “สงครามแอป” ครั้งนี้ เป็นการวัดใจของทั้งสองทีม ว่าแท้จริงแล้วทั้งคู่ต้องการเอาชนะกัน เพราะอีโก้และเงิน หรือเพราะจริงๆ แล้ว สิ่งที่ขับเคี่ยวกันอยู่นั้น คือเสียงเรียกร้องของหัวใจตนเองกันแน่
หนังจากค่าย T Moment ที่ส่วนตัวมองว่าเป็นค่ายหนังความหวังหนึ่งของคอหนังไทยเลยนะ โดยเฉพาะกับหนังระลอก 2 ที่ค่ายนี้เตรียมปล่อยโดยเริ่มที่หนังเรื่องแรกคือ App War นี่เอง หนังเป็นผลงานกำกับของ เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร ที่เคยกำกับหนังไทยที่ได้ใจไปแบบม้ามืดในปี 2558 เรื่อง 2538 อัลเทอร์มาจีบ ของ ค่ายโมโนพิคเจอร์ ก่อนที่จะมารวมกับ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์
ก็นับว่ามารอบใหม่ยังคงเก็บจุดเด่นในเรื่องภาพเท่ ๆ สวย ๆ เนื้อหามัน ๆ เข้าใจง่าย ๆ เข้าอกเข้าใจวัยรุ่นวัยเรียนเช่นเคย ส่วนที่พัฒนาขึ้นคงเป็นการกล้าที่จะเล่าเนื้อหาใหม่ ๆ ไม่อิงความนิยมเดิม ๆ แบบนอสตัลเกียอย่างเรื่องก่อน เพราะสตาร์ทอัปถึงจะเป็นคำฮิตที่ได้ยินบ่อยในช่วงไม่กี่ปีนี้ แต่เอาเข้าจริงเด็กไทยก็ไม่ได้สนใจหรืออยากจะเข้าใจอะไรไปมากนัก ตรงนี้ทำให้ App War มีจุดสร้างมาตรฐานใหม่ ๆ ให้หนังไทยอย่างที่ ฉลาดเกมโกง เคยทำไว้เช่นกัน หนังที่กล้าสร้างเทรนด์ที่ดีให้สังคมแบบนี้จึงเป็นอะไรที่ต้องสรรเสริญ ไม่ใช่แค่ชื่นชมเลยครับ
หนังใช้ดาราหน้าใหม่เป็นตัวหลัก แม้เราจะคุ้นหน้าจากงานโฆษณา หรือเอ็มวีมาบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ฐานแฟนคลับยังไม่ใช่ขนาดตัวเรียกเงินทองได้ ดังนั้นค่ายก็ต้องมั่นใจในฝีไม้ลายมือกันระดับหนึ่งเลยล่ะ ตรงนี้ก็ขอพูดรวบทีเดียวเลยว่า กลุ่มนักแสดงตัวหลักทั้งฝั่งพระเอก และนางเอก นั้นมีเสน่ห์น่าสนใจ
แต่การแสดงนั้นอยู่ในกรอบมาตรฐานที่ดี ยังไม่ได้โดดเด้งจนจดจำนัก อย่างพระเอก ณัฏฐ์ กิจจริต ในบท บอมบ์ โปรแกรมเมอร์เทพก็ถูกนำเสนออย่างเด็กเนิร์ดจัดที่มีปัญหาในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ตามเนื้อเรื่องก็ทำให้ไม่ได้โชว์ฝีมือการแสดงได้จะแจ้งจนไปตัดสินได้ ฝั่งนางเอกอย่าง จูน ที่แสดงโดย วริศรา ยู แม้จะทำได้ดีในบทปะทะอารมณ์และบททั่ว ๆ ไป แต่ในโมเม้นท์เขินอายเข้าพระเข้านางก็ยังมีจังหวะแปลก ๆ ที่เห็นชัดว่าเคมียังไม่เข้ากันกับพระเอกดีนัก แต่ก็เป็นฉากสั้น ๆ ที่อาจปล่อยผ่านไปก็ได้ล่ะนะ
ด้านเพื่อนพระเอกนางเอก ก็มีความชัดเจนดี ตัวละครฝั่งจิตใจด้านมารของทั้งสองทีมอย่าง ตัวละคร ฝ้าย (ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์) และ บิ๊วท์ (อภิวิชญ์ เรียร์ดอน) ก็แสดงด้านเทาที่ความต้องการชนะอยู่เหนือความถูกต้อง ทำให้เรื่องขับไปข้างหน้าได้สนุก เพราะมันเป็นทั้งฝั่งตัวเอกที่เราอยากเอาใจช่วยแต่มันก็มีจุดหลงผิดที่เราอยากห้ามเหมือนกัน เป็นพวกเทา ๆ ที่น่าสนใจ ส่วนอีกตัวละครเพื่อนพระเอกอย่าง ไต๋ (สิราษฎร์ อินทรโชติ) คาแรกเตอร์อาจใกล้กับบอมบ์มากไปนิด
แต่ ทู-สิราษฎร์ ที่เริ่มเชี่ยวชาญงานแสดงก็หาจุดน่าจดจำของตัวละครนี้ได้ เรียกว่าเอาตัวรอดเก่ง
ความเซอร์ไพร้ส์และต้องยืนปรบมือให้รัว ๆ กลับเป็น 2 นักแสดงสมทบที่ได้พื้นที่และเวลาของตัวเองแบบพอดีมาก ๆ ไม่ล้นจนอวยและไม่น้อยจนไม่รู้จะใส่มาทำไม แถมการแสดงของทั้งสองคนก็ทำให้หนังสนุกขึ้นมาก ดีขึ้นมากด้วย และคนแรกก็คือ เอ็ดดี้ เสือร้องไห้ ในบทรุ่นพี่แก๊งยิงเลเซอร์ ที่ต้องบอกว่าขโมยซีนได้โคตรเก่ง ฉากของเขาเรียกสีสันความฮาได้มาก
แล้วยังทำให้ตัวละครอื่น ๆ อย่างพระเอกนางเอกดูเล่นได้ตลกเข้าขามากขึ้นด้วย คือเป็นอาวุธลับที่สุดยอดมากของหนังสำหรับเอ็ดดี้ ส่วนอีกคนคงเป็นคนที่หลายคนจับตามองนั่นก็คือ อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ หรือ อรอุ๋ง แห่ง BNK48 นั่นเอง ที่ต้องบอกว่าแม้จะเป็นการแสดงครั้งแรกก็ฉายเสน่ห์ออกมาได้อย่างไม่เก็บเม้มกันเลย คือเราโดนตกกันผ่านการแสดงของเธอจริง ๆ ทั้งบทอ้อน และบทดราม่า คือน่าประทับใจจริง ๆ
ซึ่งอรได้ถามเหล่าแฟน ๆ ให้คอมเม้นท์อย่างตรงไปตรงมาถึงการแสดงของเธอเพื่อให้เธอตัดสินใจอนาคตการแสดง ก็ขอวิจารณ์ตรงๆ ตามเนื้อผ้านะครับว่า มีหลายช่วงที่เราเห็นการแสดงแบบเล่นตามแพทเทิร์นและยังไม่ค่อยลงตัว แต่ก็รู้สึกแค่ช่วงแรก ๆ ของหนัง เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ กลับพบว่าอรเล่นได้เนียนขึ้น
อาจเพราะบทใกล้กับวัยตัวเอง จนฉากที่เธอต้องดราม่านั่นล่ะครับ เราเชื่อได้ว่าอรต้องเป็นนักแสดงที่ดีได้แน่ ๆ แต่ก็ต้องขอให้เก็บประสบการณ์และฝึกฝนด้านการแสดงอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน เพราะยังต้องลดจุดบกพร่องในการเล่นแนวตามสูตรและสมาธิความนิ่งในจังหวะที่รอบทเล่นให้มากขึ้นด้วย
วิจาร์ณ
มันเป็นหนังวัยรุ่นที่เขียนมาเพื่อเล่าเรื่องเด็กวัยรุ่นยุคนี้ ยุคที่ดูหนัง HDไอทีเข้ามาเกี่ยวข้องสูงมาก โลกของอินเทอร์เน็ต โลกที่ผู้คนเชื่อมโยงสัมพันธ์กันด้วยแอปพลิเคชัน โลกที่ใช้มือถือเป็นดั่งอวัยวะสำคัญของร่างกาย ความฝัน ความพยายาม ก็เลยถูกควบรวมอยู่ในนั้น การแสวงหาตัวตน จุดเริ่มต้นของการถูกยอมรับ ในนั้นมีความฝันความซ่อนตัวอยู่ความหวัง ความฝัน บวกกับไอที และสตาร์ตอัป
ใน ‘แอปชนแอป’ วัยรุ่นสองกลุ่มกำลังคร่ำเคร่งกันสร้างแอปที่มีคอนเซปต์ความสัมพันธ์ที่ใช้ความชอบเฉพาะอย่างเป็นตัวเชื่อม กับธุรกิจ Startup อันเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงที่จะ “เจ๊ง” และมีเพียงสวนน้อยเท่านั้นที่จะสำเร็จสิ่งนี้ถูกเน้นย้ำไว้มากพอในหนัง
มากกว่านั้น หนังยังพยายามเล่นกับคำว่า Start ด้วยการบอกให้มองถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างแอปขึ้นมาสักตัว แต่อย่างไรก็ดี Startup ก็เป็นธุรกิจ หนังถ่ายทอดสดแผนการตลาดที่เป็นไปได้ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ นอกเหนือไปจากเงินทุนที่ต้องพึ่งคนมีกะตังค์วัยรุ่นหลายๆ คนก็อาจจะประสบความสำเร็จในฐานะมือใหม่ที่สร้างธุรกิจใหม่ๆ และประสบความสำเร็จ การเล่าเรื่องด้วยการแข่งขันเป็นอะไรที่เข้าใจง่ายสำหรับคนดูมากที่สุด
การแข่งขันเพื่อชัยชนะ นำมาซึ่งการสอดแนม
ด้วยที่คอนเซปต์ของแอปแทบจะเหมือนกัน มันเลยต้องแข่งขันเพื่อนำเสนอ ผู้ชนะจะได้ทุนไป เพื่อชัยชนะอาจจะเดินเกมในลักษณะอย่างในหนัง คือ การส่งสปายไปสอดแนมเก็บข้อมูลความลับมาให้อีกฝ่ายได้รู้ โดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวอย่างที่เห็นในตัวอย่าง ทีม Amjoin เลือกส่งเด็กฝึกงานอย่าง น้องมาย (พัศชนันท์ เจียจิรโชติ – อร BNK48) มาแทรกซึมอยู่ในทีม Inviter แต่ก็ใช่ว่าพวกเธอจะกระทำอยู่ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายก็เล่นเกมเก่งไม่แพ้กัน
หนังก็ไม่ได้เล่นแต่การก้าวล้ำหน้าคู่แข่งด้วยการสอดแนม หากแต่ก็ยังเน้นไปที่ความสัมพันธ์ทางความรู้สึกระหว่างตัวละครด้วย จุดเริ่มต้นของการสร้างแอปมันคืออะไร มันคือการที่แกนนำของแต่ละทีมก็แอบคลิกกันอยู่ในทีไงล่ะ แต่เพราะเป็นคู่แข่งกัน มันเลยข้ามขั้นมากไปกว่านั้นไม่ได้
หนังมีความพยายามที่จะเดินเรื่องให้สนุก มีการเล่าที่เป็นขั้นเป็นตอน โดยไม่จำเป็นต้องเดินไปตามเส้นเวลานัก สลับไปมาบ้าง เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของสองตัวเอก ก่อนจะกลับไปเล่าการชิงไหวชิงพริบของสองทีม ดนตรีประกอบก็ช่วยได้มากในอันที่จะทำให้หนังมีไดนามิก พร้อมทั้งมีตัวชักชวนคนมาฮา ผสานกับงานถ่ายภาพที่ดูสวย จัดแสงดี
สรุป
หนังเรื่องนี้จัดเป็นหนังไทยที่ภาพเท่มาก ๆ คอสตูมดีไซน์ต่าง ๆ คิดมาอย่างมีรสนิยม เนื้อเรื่องมีการนำเทรนด์ทางปัญญาให้เด็ก ๆ มีฝันในยุคแห่งนวัตกรรม และยังให้เห็นอุปสรรคชีวิตจริงว่าความสำเร็จมันไม่ได้มาง่าย ๆ ไม่ฟุ้งลอยเกินไปด้วย ในขณะเดียวกันแม้ข้อคิดและสาระจะมากมีแต่ก็สมดุลกับความบันเทิงที่มีเรื่องของมิตรภาพและความรักเป็นพื้นได้อย่างไม่ขาดไม่เกิน หนังอาจไม่เด็ดขาดอย่างหนังแนวธุรกิจแบบเดียวกันของฝรั่ง หรือเข้มข้นระทึกขวัญขนาดฉลาดเกมโกง แต่ก็มีความดีงามไปอีกทางหนึ่งที่หนังเรื่องที่กล่าวมาไม่อาจนำเสนอได้ คือจากใจเลยคือมองว่าสำหรับช่วงปีสองปีนี้หนังเป็นรองแค่ ฉลาดเกมโกง เท่านั้นเอง ดังนั้นเชื้อเชิญอย่างยิ่งเลยให้ทุกคนไปดูครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น