รีวิว Pokemon the Movie 2018 : The Power of Us
กลับมาอีกครั้งกับ โปเกม่อน เดอะ มูฟวี่ ซึ่งเดินทางมาถึงภาคที่ 21 เข้าไปแล้ว แต่ในภาคนี้พิเศษตรงที่ไม่ใช่ภาคแยกจากซีรีส์เหมือนภาคอื่น ๆ ทั้ง 19 ภาค แต่เป็นภาคต่อจากเดอะมูฟวี่ภาคที่ 20: ฉันเลือกนาย โดยหากจำกันได้ในช่วง End Credit ของภาคที่แล้ว (ฉันเลือกนาย) ได้มีการแผ้วทางมาถึงโปเกมอนลึกลับอย่าง ลูเกีย ที่เผยเป็นนัยว่าในภาคใหม่นี้จะเข้ามามีบทบาทแน่นอน รีวิว Pokemon the Movie 2018เรื่องย่อ
ในทุกๆ ปี พลเมืองชาว Fura ต้องออกมาฉลองเทศกาลแห่งลม โดยในวันสุดท้ายมีโปเกม่อนในตำนานอย่าง Lugia มาประทานพรให้กับชาวเมือง โดยในภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ ได้โฟกัสไปที่เรื่องราวของหลายๆ ตัวละคร ไม่ว่าจะเป็น Lisa เด็กสาวมัธยมปลายผู้ที่พึ่งเริ่มเป็น Pokemon trainer, Karachi ชายผู้ที่เลิกโกหกตอ Torito นักวิจัยผู้ที่ขาดความมั่นใจในตัวเองแบบสุดๆ, Hisui หญิงแก่ผู้ที่เกลียดการจับ Pokemon เป็นที่สุด และ Rarugo หญิงสาวลึกลับที่คอยเฝ้าดูป่าไม้สำหรับโปเกม่อน เดอะ มูฟวี ในภาคนี้กลับมาคงคอนเซปต์เดิมคือ การผจญภัยของ ซาโตชิ และ ปิกาจู พร้อมด้วยผองเพื่อนโปเกม่อน และมีโปเกมอนระดับตำนานปรากฏตัวออกมาเป็นสีสันในเรื่องหลัก โดยภาคนี้จะเป็นเรื่องราวของเทศกาลสายลมในเมือง Fura City เมืองซึ่งประชากรทุกคนให้ความเคารพนับถือโปเกมอนตำนานอย่างลูเกีย
ขณะเดียวกันในภาคนี้ก็จะมีตัวละครหน้าใหม่ที่มารับบทบาทเด่นอย่าง ริสะ สาวน้อยจอมแก่นที่เพิ่งจะเรียนรู้การเป็น Pokemon Trainer, คาราชิ ลุงวัยกลางคนที่มักจะชอบโกหกทำตัวเป็นวีรบุรุษเพื่อทำให้หลานของเขาภูมิใจ, โทริโตะ นักวิจัยผู้ขาดความมั่นใจ, ป้าฮิสุอิ ที่มีปมหลังกับโปเกม่อนสมัยยังเด็ก
ซึ่งตัวละครเหล่านี้เรียกว่าเป็นสมทบที่ตัวหนังเกลี่ยบทได้ลงตัวมาก ๆ ให้รู้สึกได้ว่า แต่ละคนโดดเด่นมีแคแรคเตอร์ชัด แต่ก็ไม่มากไปกว่า ซาโตชิ และ ปิกาจู เอาจริง ๆ การ์ตูนเดอะมูฟวี่ของโปเกมอน เป็นแอนิเมชันที่ให้น้ำหนักตัวละครได้เยี่ยมกว่าพลอตหนังจอเงินทั่วไปหลายเรื่องด้วยซ้ำ
ถือเป็นเรื่องน่าสนใจเมื่อ กลยุทธ์การตลาดมาถูกวางไว้คล้าย ๆ เป็นการรีเซ็ตใหม่ ซึ่งเหลือไว้เพียงละครหลักไม่กี่ตัวจากเวอร์ชันทีวีซีรีส์ที่คุ้นเคย และโฟกัสไปที่การวางพลอตให้แฟนบอยหน้าใหม่ที่เพิ่งเคยดูโปเกม่อนดูง่ายและสมัครตัวเป็นโอตะได้ง่ายขึ้นด้วย โดยเฉพาตัวเรื่องที่นำพาคนดูเสมือนร่วมผจญภัยไปกับพวกซาโตชิและปิกาจู ไปเจอตัวละครใหม่ ๆ ทั้งหมด รวมทั้งโปเกมอนในตำนานอย่าง ลูเกีย และ เซราโอร่า
เนื้อหาในภาคนี้อาจไม่ได้เน้นพะบู๊แอ็คชันตระการตาเหมือนภาคก่อน ๆ แต่ที่น่าสนใจคือมันมีเมสเซจเรื่องมิตรภาคและความสามัคคีที่ทรงพลังมาก บวกกับการกระจายที่บอกไปแล้วตอนต้นว่าทำได้ดีเยี่ยม การดึงโปเกมอนมาอยู่ในตำแหน่งของตัวกลางเชื่อมความสัมพันธ์ของมิตรภาพ
การก้าวข้ามปมในใจของทั้งมนุษย์และโปเกมอนเอง ตรงนี้ประทับใจมาก นอกจากเด็ก ๆ แล้ว เมจเซจเหล่านี้ก็ก้าวข้ามมาถึงผู้ใหญ่ได้ด้วยเช่นกัน เหมือนมาทำความเข้าใจใหม่ว่า คำว่าเพื่อน คำว่ามิตรภาพ ที่เราเคยรู้จักมันในวัยเด็กมันเป็นอย่างไร และมันถูกละเลยเปลี่ยนแปรมาไกลแค่ไหนเมื่อเราก้าวมาเป็นผู้ใหญ่ ดูแล้วทำให้รู้สึกอยากจะเปลี่ยนมุมมองบางอย่างกลับไปเป็นวัยเด็กอีกครั้ง นั่นคือการไม่คิดลับหลังให้ซับซ้อนกับคำว่ามิตรภาพ
แนะนำตัวละคร
ซาโตชิและพิคาชูตัวเอกของเรื่องนี้ เขามาพร้อมกับคู่หูเจ้าหนูไฟฟ้าสีเหลืองพิคาชู เขายังคงเป็นตัวดำเนินเรื่องราว แต่มีการเกลี่ยบทบาทอื่นๆให้กับตัวละครหน้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาได้อย่างมีสีสัน ตัวเอกทั้งสองอย่าง ซาโตชิและพิคาชู มีบทแอคชั่นเยอะ และเนื้อเรื่องยังคงให้ความสำคัญกับความเสียสละ, มิตรภาพ และความรักของทั้งคู่ที่เหนียวแน่น หลาย ๆ ฉากในเรื่องที่ซาโตชิต้อง แบตเทิ้ลกับเหล่าเทรนเนอร์และโปเกม่อน ทำออกมาได้ดีสมราคาภาพยนตร์ ซึ่งเราจะไปอธิบายส่วนนี้กันในลำดับต่อไป
ริสะ
ตัวละครหน้าใหม่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ริสะเป็นอดีตนั่งวิ่ง ที่เคยผ่านเรื่องราวที่ทำให้เธอกลัวและต้องเอาชนะมันให้ได้ เธอเดินทางมายังเมืองฟูระ เพื่อร่วมเทศกาลแห่งสายลม ตามคำขอร้องของน้องชายริคุ ที่ตัวเขาได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้เอง ด้วยความที่ริสะเป็นเทรนเนอร์หน้าใหม่ เธอจึงไม่ค่อยรู้เรื่องราวของโปเกม่อนมากนัก เป็นเหตุให้ซาโตชิและพิคาชูต้องให้คำแนะนำเธอเสมอ ริสะเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงและไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ มีเพียงปมในอดีตเท่านั้นที่เธอต้องฝ่าฟัน
โทริโตะและลัคกี้
หนุ่มแว่นหัวยุ่ง เขาเป็นหนึ่งในทีมวิจัยโปเกม่อนของเมืองฟูระ เพื่อนร่วมงานของเขาต่างพากันหวั่นใจ กับเรื่องการขาดความมั่นใจในตัวเองของโทริโตะแต่ทุกคนต่างรู้ดีถึงความรักที่ โทริโตะมีให้กับงานวิจัยและโปเกม่อน มากกว่าใคร ๆ ทั้งนั้น โทริโตะมาพร้อมกับโปเกม่อนคู่หู ตัวกลมสีชมพูที่ชื่อลัคกี้ โปเกม่อนชื่อดังที่แฟน ๆ โปเกม่อนรู้จักกันเป็นอย่างดี ลัคกี้คอยให้ความช่วยเหลือ และให้กำลังใจคู่หูอย่างโทริโตะ และอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ลัคกี้มีความสามารถในการรักษาโปเกม่อนตัวอื่นๆได้จากทักษะพิเศษของมัน
คากาชิและอุซกกี้
หนุ่มใหญ่วัยกลางคน จอมโกหก แต่มีความสามารถแฝงเยอะมาก เขาชอบโกหกจนติดเป็นนิสัย เพื่อทำตัวให้ดูเหมือนฮีโร่ในสายตาของหลานสาวมีอา ที่เดินทางมาร่วมเทศกาลแห่งสายลมด้วยกัน เขาชอบพูดหลอกหลานสาว และริสะว่า “ในเมืองนี้มีโปเกม่อนหายากอยู่” เขาได้พบกับโปเกม่อนชื่ออุซกกี้ ทั้งคู่จับพลัดจับผลูร่วมผจญภัย และแก้ไขสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงด้วยกัน
ลาลุโตะเซราโอล่า
สาวน้อยที่อาศัยอยู่ในเมือง เธอเป็นลูกสาวของผู้ว่าเมืองฟูระ เธอเปี่ยมไปด้วยความเมตตา และโอบอ้อมอารี แต่ยังมีนิสัยหัวดื้อและหัวรั้นเล็ก ๆ ตามแบบของเด็กผุ้หญิงทั่วไป เธอกุมความลับบางอย่าง กับโปเกม่อนลึกลับที่ชื่อเซราโอล่า ที่เป็นกุญแจสำคัญของเรื่องราวทั้งหลายที่เกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้
ฮิซุอิและเหล่าโปเกม่อน
คุณป้าที่เกลียดโปเกม่อนมาก และดูเหมือนจะมีอดีตบางอย่างที่ฝังใจ ทำให้เธอไม่ชอบโปเกม่อนมาจนถึงทุกวันนี้ เธอเองดูเหมือนจะเก็บงำความลับ และมีความสำคัญกับเนื้อเรื่องในภาคนี้อยู่อย่างมาก ป้าที่ดูเหมือนใจ้รายและเข้มงวด แต่ลึกๆแล้ว กลับทำให้รู้สึกถึงความอ่อนโยนอะไรบางอย่างในตัวเธอได้
แก็งค์ร็อคเก็ต
ถ้าพูดตัวเหล่าตัวร้ายตลอดกาลของแอนิเมชันโปเกม่อน ดูหนัง HDจะขาดพวกเขาไปไม่ได้เลย ในภาพยนตร์เรื่องนี้ พวกเขายังมากันครบหน้า กับสมาชิกตัวร้าย สุดเปิ่นและฮาแตก หน้าเดิมนั่นคือ มุซาชิ, โคจิโร่, เนี๊ยซ และโซนาส ในครั้งนี้พวกเขายังไม่ลดละความพยายามที่จะก่อเรื่อง และเป็นสีสัน อีกทั้งเรียกเสียงหัวเราะให้คนดูได้เสมอ ดังที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้นว่า ตัวเอกอย่างซาโตชิและพิคาชูยังคงมีบทบาทสำคัญ และเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก
แต่สิ่งที่น่าติดตามในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การเฉลี่ยบทบาท และเปิดโอกาสให้ตัวละครหน้าใหม่ ๆ มีความน่าติดตามเพิ่มขึ้น ฉากการแบตเทิ้ล อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ทั้งในเกมและแอนิเมชันของโปเกม่อน ทำออกมาได้อย่างสวยงามและประณีต สมราคาภาพยนตร์แอนิเมชั่นขนาดยาว
วิจาร์ณ
ถ้าพูดถึงความสวยงามทางด้านภาพและลายเส้น ในภาคนี้มีการปรับลายเส้นให้ดูทันสมัย, สวยงามมากยิ่งขึ้น ฉากแอคชั่นหลายต่อหลายฉาก ออกแบบมาได้อย่างสวยงามและพลิ้วไหว ตัวเนื้อเรื่องเองหนังถ่ายทอดสดก็มีการกล่าวถึงที่มาที่ไป รวมถึงอดีตของตัวละครอย่างน่าสนใจ แน่นอนว่าผู้ชมเด็กๆต้องชื่นชอบกับเหล่าโปเกม่อนอยู่แล้วแฟนพันธุ์แท้โปเกม่อนก็น่าจะสนุกไปกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก แต่ที่น่าสนใจคือ เนื้อเรื่องที่ทำให้คนดูทั่ว ๆ ไป, คนดูที่เป็นผู้ใหญ่ และหลายคนที่อาจจะไม่รู้จักโปเกม่อนมาก่อน สนุกไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน อาจจะกล่าวได้ว่า ภาพยนตร์แอนิเมชันของโปเกม่อน คือการพ่วงการขายสินค้า หรือเพื่อโปรโมทเกมภาคใหม่ๆตามธรรมเนียมอยู่แล้ว
แต่ความสวยงามและสีสันที่ดูสดใสในภาคนี้ อาจจะเป็นจุดเดินที่ทำให้คนดูทั่วไปติดใจได้ไม่ยาก เนื้อเรื่องที่อ่อนโยนและดูจริงใจ บวกกับการผจญภัยที่ตื่นตาสนุกสนาน แถมเต็มไปด้วยตัวละครที่จะทำให้เราชอบ เหล่าโปเกม่อนที่คุ้นตา และมีความคลาสสิกหลายต่อหลายตัว ต้องทำให้แฟนพันธุ์ของโปเกม่อนมีความสุขแน่นอน
การเล่าเรื่องของหนัง
จะเป็นการเล่าเรื่องในอีกเรื่องหนึ่งเลยครับ ไม่ได้ต่อกับอนิเมะที่เป็นตอนๆ จึงทำให้คนที่ไม่คุ้นกับการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อน ก็ดูเข้าใจได้ครับ หนังเริ่มปูพื้นตัวละครที่มีบุคลิกแตกต่างกันแต่ละคน แล้วก็เข้าสู่เรื่องหลัก เด็กๆดูเพลิน ผู้ใหญ่ที่เป็นแฟนคลับโปเกมอนมาก่อน น่าจะถูกใจ เพราะหนังจัดเต็มโปเกมอน gen แรกๆมาเพียบ ฉากต่อสู้มีพอหอมปากหอมคอครับ เน้นโฟกัสที่มิติตัวละครและความสัมพันธ์ของคนกับโปเกมอนมากกว่า
ข้อดีหลักๆของหนัง
การพยายาม ทำให้หนังเข้าถึงคนที่ไม่ใช่แฟนคลับโปเกมอนมาก่อนดูแล้วเข้าใจ ถึงจะมีบางจุดที่ต้องพอดูมาก่อนถึงจะเข้าใจ แต่การเล่าเรื่องก็ช่วยได้เยอะ ระบบภาพและเสียงที่ดีแบบฉบับอนิเมะญี่ปุ่น ภาพละเอียดสวยและการใช้ซาวน์เสียงที่แฟนคลับโปเกมอนคุ้นเคย และบทที่มีมิติมากขึ้น เน้นบุคลิก ความคิดและมิตรภาพของคน พอๆกับโปเกมอน แต่ก็มีบางช่วงที่ยังเนือยๆบ้าง เพราะหนังไม่ได้โฟกัสที่การต่อสู้แบบดุเดือดเหมือนภาคก่อน
โปเกม่อน เดอะ มูฟวี่ ในภาคที่ 21 นี้ถือได้ว่าเป็นไทม์ไลน์ที่แยกออกมาแล้วทำได้ดูสนุกเลยทีเดียว แน่นอนว่าเมื่อทางผู้สร้างกำหนดเส้นทาง เดอะ มูฟวี่ มาแบบนี้ อาจทำให้แฟนบอยดั้งเดิมบางส่วนรู้สึกเซ็งบ้าง แต่เมื่อได้มาสัมผัสเนื้อหาในแอนิเมะจริง ๆ ก็จะยังรู้สึกฟีลกู้ดและเติมเต็มได้เหมือนเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น