วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563

Skyscraper

ดูหนัง HD

รีวิว Skyscraper - ระห่ำตึกเสียดฟ้า

สำหรับคอหนังแอ็กชั่นคงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก Die Hard (1988) หนังระดับตำนานของ จอห์น แมคเทียร์แนน ผู้กำเนิดหนัง Predator (1987) ฉบับ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ และทำให้ บรูซ วิลลิส กลายเป็นพระเอกนักบู๊ขึ้นหิ้งของวงการจากหนังไต่ตึกระห่ำนรกเรื่องนี้ นอกจากพลอตที่แหวกแนวของ Die Hard อย่างการสร้างสถานการณ์ ต้องช่วยเหลือตัวประกันบนตึกสูงจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายอาวุธครบมือด้วยตัวคนเดียวแล้ว รีวิว Skyscraper

เรื่องย่อ

ดเวย์น จอห์นสัน หรือ เดอะร็อก รับบท วิล ซอว์เยอร์ อดีตหัวหน้าทีมช่วยชีวิตตัวประกันเอฟบีไอและอดีตทหารผ่านศึก ซึ่งปัจจุบัน รับงานประเมินความปลอดภัยให้กับตึกระฟ้า เขามารับงานในจีนแต่กลับต้องเผชิญกับเหตุการณ์เพลิงไหม้บนตึกที่สูงสุดและปลอดภัยที่สุดของโลก และเขาเองก็ถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนวางเพลิงเสียด้วย นอกจากเขาต้องค้นหาว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วยังต้องช่วยเหลือครอบครัวทั้งภรรยาและลูก ๆ ที่ติดอยู่ในตึกนั้นอีกด้วย นี่คือหนัง Die Hard แห่งยุค 2018 อย่างแท้จริง

สำหรับคอหนังแอ็กชั่นคงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก Die Hard (1988) หนังระดับตำนานของ จอห์น แมคเทียร์แนน ผู้กำเนิดหนัง Predator (1987) ฉบับ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ และทำให้ บรูซ วิลลิส กลายเป็นพระเอกนักบู๊ขึ้นหิ้งของวงการจากหนังไต่ตึกระห่ำนรกเรื่องนี้ นอกจากพลอตที่แหวกแนวของ Die Hard อย่างการสร้างสถานการณ์ ต้องช่วยเหลือตัวประกันบนตึกสูงจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายอาวุธครบมือด้วยตัวคนเดียวแล้ว

แต่ปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งนอกจากพลอต และความมันสะใจแล้ว สิ่งที่ทำให้ นรกระฟ้า ได้รับความนิยมอย่างสูงจนมีภาคต่อออกมาถึง 5 ภาค โดยภาคหลังสุดคือปี 2013 ในชื่อ A Good Day to Die Hard คือการสร้างคาแรกเตอร์พระเอกนักบู๊แนวใหม่ที่ชื่อ จอห์น แมคเคลน (บรูซ วิลลิส) ที่ไม่ได้เทพ

แต่ดูมีความเป็นมนุษย์ติดดิน มีปมในใจ มีความอ่อนแอบาดเจ็บได้ และมีนิสัยแบบปุถุชนพานพบได้ตามท้องถนน ทั้งความกวนและหยาบกระด้าง นี่จึงกลายเป็นหมุดหมายสำคัญให้หนังบู๊ในยุคหลังมา สร้างตัวละครที่น่าจดจำมากขึ้นกว่าแค่การระเบิดภูเขาเผากระท่อมอย่างที่เป็นมาหลายทศวรรษ

และ Skyscraper หรือ ระห่ำตึกเสียดฟ้า ก็พยายามเดินรอยตามความสำเร็จของหนัง นรกระฟ้า อย่างจงใจเสียด้วย

แม้ผู้กำกับ รอว์สัน มาร์แชล เธอร์เบอร์ จาก We’re the Millers (2013) และ Central Intelligence (2016) ซึ่งเรื่องหลังนี่ได้ร่วมงานกับ เดอะร็อก มาก่อนแล้ว ก็ดูจะชัดเจนในแนวทางหนังบู๊บันเทิงฮาแตกเสียมากกว่าจะมาบู๊เข้มข้น แต่กับเรื่องนี้กลายเป็นว่าเธอร์เบอร์จัดหนักด้วยสารพัดเหตุการณ์บีบคั้นให้ตัวละครต้องวิ่งหนีตาย และแก้ปัญหาเหนือตึกสูงระฟ้าที่กำลังไฟลุกไหม้ ได้อย่างมันหยด และสนุก

สิ่งที่ต้องชื่นชมนอกจากการที่พา เนฟ แคมเบล จาก Scream ที่เราไม่ได้เห็นบนหนังระดับบล็อกบัสเตอร์มานานมากกลับมาขึ้นจอโชว์ความสวย และการแสดงที่ดุดันเสมอต้นเสมอปลายเหมือนกันแทบทุกเรื่องของเดอะร็อก แล้วนั้น คือการที่หนังสร้างตัวร้ายอย่าง คอเลส โบธา ได้โหดเหี้ยมน่าจดจำ

ที่สำคัญไม่งี่เง่าทำอะไรโง่ ๆ ด้วย และอีกตัวละครสมทบที่แย่งซีนได้ดีอย่าง เศรษฐีจีนเจ้าของตึกอย่าง จ้าว ที่รับบทโดย 1 ใน 25 ดาราเอเชียยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของเว็บ CNNGo อย่าง ชิน ฮาน และตัวละครของภรรยาสาวสุดสวยตัวจริงของ เจย์ โจว อย่าง ฮันนาห์ คุนลิแวน ที่มารับบทมือขวาของตัวร้ายได้อย่างน่าหมั่นไส้ดีเหลือเกินก็น่าจดจำมากเช่นกัน

ถือว่าหนังมีตัวละครหลัก ตัวละครสมทบที่แน่นมาก ซึ่งแม้หนังจะมองข้ามความสมจริงเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเพื่อเดินเรื่องให้ไว ให้กระชับสุด ๆ แต่ก็ไม่มีตัวละครไหนที่ถึงกับตรรกะวิบัติจนต้องกุมขมับ อันนี้ชอบมาก
ส่วนที่เราตะหงิด ๆ หรือสงสัยหลายจุด ก็มีตามธรรมดาหนังบู๊เน้นบันเทิง อย่างก่อนหน้าก็มีชาวเน็ตออกมาวิจารณ์ความสมจริงของโปสเตอร์หนังว่ามันไม่น่าจะโดดถึงได้ อันนี้ในหนังเองก็เช่นกันมันจะมีจุดที่ชวนสะดุดคิดอยู่เยอะเหมือนกัน แต่ถ้าดูเอามันเอาผ่อนคลายก็ถือว่ามองข้ามได้ และหนังก็มอบความบันเทิงได้คุ้มศักยภาพของมันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

วิจารณ์

เรียกได้ว่า หนังเรื่องนี้มุ่งเน้นความบันเทิงในการลุ้นระทึกของความเสี่ยงตาย อุปสรรคที่มีตลอดเวลา แถมยังใช้ความเป็นครอบครัวมาเป็นแก่นของการดำเนินเรื่องราวที่ชวนให้คนดูที่ต่างก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองจนง่ายที่จะอิน

แม้ว่าดูจากพล็อตแล้ว จะไม่มีอะไรมากไปกว่า การที่พ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องไปช่วยลูกเมียที่ติดอยู่ในตึกสูงและเกิดเพลิงไหม้อยู่ เท่านั้นแหละ หนังสร้างให้มีโครงการตึกระฟ้าที่โคตรสูงกว่าที่โลกเคยมีมา โครงการมีระบบดับเพลิงที่แสนจะอัตโนมัติและทันสมัย

ทว่า ในระหว่างที่ตึกยังเปิดให้บริการไม่หมด และอยู่ในช่วงที่พระเอกกำลังเข้ามาประเมินความปลอดภัย แถมยังได้เข้ามาพักอาศัยเป็นกลุ่มแรก ก็เกิดเหตุขึ้น เมื่อมีชั้นหนึ่งถูกวางเพลิง ทำให้พระเอกผู้ซึ่งมีอดีตทำร้ายต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยครอบครัวแม้ตัวเองจะถูกมองว่าเป็นผู้ร้าย

ด้านตัวบทหนัง

หนังเปิดเรื่องมาที่วิลล์ ซอว์เยอร์ (ดเวย์น จอห์นสัน) อดีตนาวิกโยธินที่เป็นฝ่ายจู่โจม หลังจากภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน เขาต้องสูญเสียขาข้างซ้ายส่งผลทำให้เขาต้องใส่ขาเทียม ซึ่งขาเทียมนี่แหละที่เป็นทั้งตัวช่วยและเป็นทั้งจุดกังขาให้คนดูตลอดเวลาว่าตกลงแล้วตัวละครนี้ใส่ขาเทียมจริงๆหรือเปล่าเพราะดูเดินเหิน เคลื่อนไหว ใช้แรงส่งเตะต่อย หรือกระโดดพุ่งตัวได้ในระยะไกลจนเหลือเชื่อไปหมด

ก่อนที่จะไปถึงจุดที่ว่าทำไมตัวละครทำอะไรเหลือเชื่อในหนังเรื่องนี้ เมื่อพิจารณาไปถึงบทหนังของ Skyscraper เราก็ยิ่งมองเห็นความพิลึกพิลั่นและความขี้เกียจของคนเขียนบทดูหนัง HDมากขึ้นเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์ระเบิดหนังก็ตัดภาพกระโดดข้ามช่วงเวลามาอีกหลายปีและวิลล์ได้แต่งงานกับดร.ซาร่าห์ ซอว์เยอร์(เนฟ แคมป์เบลล์) ศัลยแพทย์ประจำกองทัพ

ทั้งสองมีลูกด้วยกันสองคน เขาได้ย้ายมาอยู่ที่เดอะเพิร์ล ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 225 ชั้น และมีความสูงมากกว่า 3,500 ฟุต อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่สุดขอบเกาลูน บริเวณ วิคตอเรีย ฮาร์เบอร์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเกาะฮ่องกง แต่เนื่องจากอาคารแห่งนี้ยังไม่ได้เปิดให้บริการทุกชั้นเพราะยังไม่ได้รับการประเมินความปลอดภัยในภาพรวม

รีวิว Skyscraper


วิลล์ที่ปัจจุบันประกอบอาชีพผู้รับเหมาเอกชนในการให้คำแนะนำเรื่องการประเมินความปลอดภัย ประจวบเหมาะพอดีกับการที่เจ้าหมิงซี่ (ชิน ฮาน) เจ้าของตึกเดอะเพิร์ลต้องการจะเปิดตึกให้เต็มรูปแบบ ทั้งสองจึงได้ร่วมงานกัน แต่ไม่นานตึกเดอะเพิร์ลก็เกิดเพลิงไหม้ ลูกเมียของเขาติดอยู่ในตึกดังกล่าว ยังไม่พอแค่นั้นหนังถ่ายทอดสดเขายังโดนใส่ความว่าเป็นตัวการในการวางเพลิงตึกนี้ ทำให้วิลล์ต้องพิสูจน์ตัวเอง ช่วยเหลือลูกเมีย ให้ทันเวลา

ด้านการดำเนินเรื่อง

กลไกการดำเนินเรื่องไปข้างหน้าของ Skyscraper ดูง่ายไปหมด ตั้งแต่การที่บรรดาตัวร้ายของเรื่องเจาะกำแพงตึกของเดอะเพิร์ลเข้า จนเราแอบรู้สึกว่าตึกที่การันตีตัวเองว่ามีความสูงและปลอดภัยที่สุดในโลก ทำไมกำแพงหนาขนาดนั้นสามารถเจาะทะลุง่ายๆ หรือระบบตรวจตรารักษาความปลอดภัยกลับเอื้อให้คนเข้ามาก่อการร้ายได้ง่ายถึงเพียงนี้

ยังไม่รวมไปถึงคนดูก็แทบจะไม่มีโอกาสได้เห็น “ชั้นล่าง” ที่เป็นบริเวณศูนย์การค้าหรือ แง่มุมต่างๆของตึกเท่าไหร่ พูดง่ายๆคือคนดูมีโอกาสได้เห็นแค่ “ข้างนอกตึก” และชั้นที่หนังอยากให้คนดูได้เห็นเท่านั้น บรรดาชั้นอื่นๆคนดูจึงต้องจินตนาการและอนุมานไปเองว่ามันคงมีสภาพโครงสร้างเป็นยังไง

เมื่อคนดูไม่มีโอกาสทำความรู้จักตัวตึกมากนัก (พอๆกับการได้ทำความรู้จักตัวละครหลายๆตัวในหนังเรื่องนี้) สภาพของตัวละครที่มีความแบนเป็นไม้กระดานอยู่ จึงยิ่งเหมือนโดนเตารีดนาบเพิ่มไปอีก เพราะยังไงคนดูก็รู้อยู่แล้วว่าถึงวิลล์จะทำอะไรก็ตาม เขาต้องอยู่รอดปลอดภัยและช่วยเหลือลูกเมียได้สำเร็จแน่นอน

อะไรจะน่าเบื่อไปกว่าการที่คนดูรู้ผลลัพธ์ของหนังอยู่แล้ว แถมระหว่างทางของเรื่องดันไม่สามารถสร้างความบันเทิงร่วมด้วยไปกับหนังได้อีก Skyscraper จึงเป็นหนังที่จะหยิบเอาหายนะบนตึกสูงเอามาสร้างได้อย่างจืดชืดและซ้ำรอยหนังเก่าจนไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นนัก

ที่ชอบ

สิ่งที่ดีมากๆก็แน่นอนครับก็คือพระเอกของเรา Dwayne Johnson พี่แกก็แสดงได้ดีมากๆ แต่ละฉากของหนังตื่นเต้นเพราะพี่แกเนี่ยแหละใส่อารมณ์กับตัวละครเต็มที่ และอีกอย่างก็คือตึก The Pearl ที่หนังสร้างได้สวยมากๆ แบบว่าอยากให้มีตึกนี้อยู่จริงๆ แบบว่ามันสวยมากๆ ทำ CG ได้ดีสุดๆ เลยครับ

สรุป

เอาเป็นว่าใครชอบเดอะร็อก น่าจะสนุกกับเรื่องนี้เช่นเคยกับฉากเสี่ยงชีวิตท่ามกลางซีจีสมจริงของตึกระฟ้าไร้ทางหนี ใครชอบ Die Hard มาก่อน นี่คือหนังที่เดินตามสูตรสำเร็จของหนังฮอลลีวู้ดเทือกนี้มาเลย หลายอย่างอาจเดาได้แต่ก็สนุกอยู่ดี อาจไม่ได้สดใหม่เท่าตัวหนังของบรูซ วิลลิส แต่ก็ถือว่าแก้ขัดแก้คิดถึงได้เหมือนกัน (อย่างน้อยก็ดีกว่า Die Hard ภาคหลังสุดล่ะนะ )

ปล.ก็เป็นหนังที่บีบคั้นหัวใจ ตื่นเต้น ยังไงผมก็ว่าคุ้มค่าตั๋วแน่นอนครับ ไม่เสียดายเลยหลังดูจบ วันหยุดนี้ก็ลองตีตั๋วเข้าไปชมกันดูครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น