รีวิว Animal World - เจิ้งไค ฮีโร่เกรียนกู้โลก
อีกหนึ่งหนังแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ของฝั่งพี่จีนที่กระแสดีมากจนขึ้นบ็อกซ์ออฟฟิศอันดับ 1 ในแดนมังกร ดัดแปลงมาจากกร์ตูนเรื่อง ไคจิ กลโกงเกมมรณะ ของ อ.โนบุยุกิ ฟุคุโมโตะ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งการ์ตูนหายากในบ้านเราพอๆ กับหนังสือซีรีส์ ‘โคตรโกง’ ของใบไผ่เขียวเลย โดยคราวนี้ได้ หลี่อีเฟง ซุปตาร์ตี๋ที่มีติ่งในบ้านเราไม่น้อยมารับบทเป็น ‘เจิ้งไคซือ’ หนุ่มชีวิตบัดซบ แม่ป่วยนอนติดเตียง แถมอยู่มาวันหนึ่งเผลอเอาบ้านตัวเองไปเซ็นค้ำประกันให้เพื่อนสมัยเรียนจนแบกหนี้สินหลายสิบล้านที่ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ทางเลือกที่เขามีในตอนนี้คือเข้าเล่นเกมเดิมพันบนเรือสำราญ ซึ่งหากชนะจะได้เงินปลดหนี้มีชีวิตใหม่ แต่หากแพ้จะต้องกลายเป็นหนูทดลองและตายอย่างทรมานในห้องดำ รีวิว Animal Worldเรื่องย่อ
บอกเล่าถึงสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง ณ ใจกลางมหาสมุทร “เงิน” คือสิ่งเดียวที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้กับสถานที่แห่งนี้ และทุกคนในที่นี้สามารถยอมตายได้เพื่อเงิน ชาง (หลี่อี้เฟิง) ชายหนุ่มผู้โชคร้ายที่ต้องแบกรับหนี้สินจำนวนมหาศาลที่เขาไม่ได้ก่อ อีกทั้งแม่ของเขากำลังป่วยจนไม่ได้สติ หนทางรอดทางเดียวของเขาก็คือการเข้าร่วมเล่นในเกมสุดระทึกที่ต้องใช้ชีวิตของผู้เล่นเป็นเดิมพันในอนิมอล เวิลด์ ที่จัดโดยผู้มีอิทธิพลในด้านมืด แอนเดอร์สัน (ไมเคิล ดักลาส) ภายในที่แห่งนี้ ศีลธรรมความดีงามจะเป็นแค่สิ่งฉุดรั้ง มีเพียงผู้ที่สามารถปลดปล่อยสัญชาติญาณแห่งสัตว์ป่าเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะในเกมเกมนี้Animal World หรือ ‘เจิ้งไค ฮีโร่เกรียนกู้โลก’ (ชื่อไทยเห๊ยเห่ย..) แถมหน้าหนังนี่หลอกนึกว่าไปทางหนังแอ็คชันอวยพี่จีนซะสนิท เรียกว่าผิดคาดมากกับเนื้องานตลอด 2 ชั่วโมง มีความเซอร์ มีความไซไฟ ที่วิชวลเล่นใหญ่จัดเต็มมากตามสไตล์พี่จีนสร้าง ไม่รู้แม่งจะสโลว์โมชันเยอะไปไหน
กว่าจะเข้าเรื่องที่จริงๆ ก็ไม่มีอะไรมากนี่เจอ ความมโนของเจิ้งไคซือไปเล่นเอาปวดหัวเลย (ฮา) ความเยอะตรงนี้อยากจะหักคะแนนออกไปหน่อย เพราะครึ่งหลังของหนังนั้นคุ้มค่าทุกนาทีมาก ๆ คือเรียกว่าจากทรงที่ทำท่าว่าจะออกมางั้น ๆ เหมือนพวก Sucker Punch แต่แล้วเมื่อ เจิ้งไคซือ เข้าไปในโลกของเกมเดิมพันแห่งชีวิตแล้ว มันกลายเป็นหนังน้อง ๆ ซีรีส์ Liar Game ไปเลย
หนังเรื่องนี้ เราจะได้เห็นพัฒนาการของ เจิ้งไคซือ, ที่มาที่ไปของตัวตลกที่มักจะปรากฏตัวบนความคิดของเขาทุกครั้งเมื่อมีอะไรมากระทบจิตใจจนควบคุมตัวเองไม่ได้ และตัวตลกนี่เองที่หนังแผ้วทางเอาไว้เป็นภาคต่อได้ยาว ๆ รวมทั้งบทบาทของ ไมเคิล ดักลาส ที่เพิ่มความน่าเกรงขามให้ตัวหนังเทา ๆ ที่ล้อเล่นกับจิตใจของคนแบบนี้ได้คมชัด ไม่ได้พี่จีนเอามาหลอกแดกเป็นตัวประกอบเหมือน สตีเฟ่น ซีกัล จอมหักกระดูกที่เอาชื่อมาทิ้งเป็นเสี่ยหมูขึ้นอืดสิงอยู่ร้านเหล้าใน China Salesman
Animal World นอกจากสอบผ่านเรื่องเอามาทำใหม่แล้วดูสนุกแล้ว แคสนักแสดงชุดนี้ยังลงตัว ขับอินเนอร์กันออกมาดีกว่าที่คิดมาก ขนาด โจวตงหยู ที่รับบทเป็นสมทบเป็นแฟนของ เจิ้งไคซือ โผล่ออกมาไม่กี่ซีนแต่เอาเรื่องทุกซีน ส่วน หลี่อีเฟิง เองเข้าถึงบทแบบได้กลิ่นของ ไลท์ ใน DeathNote เลยภาพรวมแล้ว อาจจะปูเรื่อง ล่อซีจีจนเลอะเทอะไปบ้างตามแบบฉบับพี่จีนสายล้น แต่ความชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยม หักมุมนั้นให้อภัยได้ และทำให้คนดูอินกับหนังไปจนสุดทาง ไม่มีคำว่าเสียดายตังค์
วิจาร์ณ
เรื่องราวเกี่ยวกับ สถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง ณ ใจกลางมหาสมุทร “เงิน” คือสิ่งเดียวที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้กับสถานที่แห่งนี้ และทุกคนในที่นี้สามารถยอมตายได้เพื่อเงิน ชาง ชายหนุ่มผู้โชคร้ายที่ต้องแบกรับหนี้สินจำนวนมหาศาลที่เขาไม่ได้ก่อ อีกทั้งแม่ของเขากำลังป่วยจนไม่ได้สติ หนทางรอดทางเดียวของเขาก็คือการเข้าร่วมเล่นในเกมสุดระทึกที่ต้องใช้ชีวิตของผู้เล่นเป็นเดิมพันในอนิมอล เวิลด์ ที่จัดโดยผู้มีอิทธิพลในด้านมืด แอนเดอร์สัน ภายในที่แห่งนี้ ศีลธรรมความดีงามจะเป็นแค่สิ่งฉุดรั้ง มีเพียงผู้ที่สามารถปลดปล่อยสัญชาติญาณแห่งสัตว์ป่าเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะในเกมเกมนี้เนื้อเรื่องจริงๆ คือ พระเอกชื่อเจิ้งไคซือ นำแสดงโดยหลี่อี้เฟิงเป็นคนฉลาด แต่เพราะต้องเสียพ่อไปแต่เล็กด้วยเหตุสะเทือนขวัญบางอย่างทำให้มีจิตแปรปรวน เวลาโกรธหรือโมโห จิตมักจินตนาการภาพคนรอบกายเป็นเอเลี่ยนและตัวเขาเป็นตัวตลกที่มีพลังพิเศษออกมาฆ่าเอเลี่ยนพวกนั้น แต่ทุกอย่างก็เป็นแค่ภาพในหัว
ชีวิตจริงของเจิ้งไคซือตกต่ำเพราะเมื่อเสียพ่อ ทำให้บ้านยากจนลง แม่ทำงานหนักจนป่วยนอนโคม่า เขาต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมารักษาแม่ มีแฟนสาวคนหนึ่งชื่อหลิ่วชิง (โจวตงอวี่) ก็ไม่กล้าขอเธอแต่งงานเพราะเจียมตัวว่าจน
วันหนึ่งเพื่อนเก่าชื่อหลี่จุนมาหา บอกว่ามีทางทำเงินแต่ต้องเอาบ้านแม่มาจำนอง เจิ้งไคซือหลงเชื่อยอมทำตาม แต่ต่อมากลับพบว่าตัวเองโดนหลอกให้ไปค้ำประกันเงินกู้แถมติดหนี้มหาศาลชนิดชาตินี้ไม่มีทางใช้คืน
แอนเดอร์สัน (ไมเคิล ดักลาส) นายทุนผู้เป็นเจ้าหนี้เสนอหนทางไถ่หนี้แบบเร่งรัดด้วยการให้เขาไปลงเรือแล้วเล่นพนันกัน เจิ้งไคซือจำต้องยอมทำตามไม่งั้นชีวิตเขาคงไม่ต้องลืมตาอ้าปากอีก
เมื่อขึ้นไปบนเรือพบว่ามีผู้คนหลากหลายสัญชาติต่างมาเล่นพนันกันด้วยหลากหลายเหตุผล
ความสนุกอยู่ตรงวิธีการเล่นไพ่นี่ล่ะใครเคยดูหนังเก่า พวกโคตรเซียนเกาจิ้ง อะไรเถือกนั้น หรือเด็กรุ่นใหม่ คุ้นเคยกับการ์ตูน ยูกิ เกมกลคนอัจฉริยะ ภาคเกมไพ่ จะอารมณ์ประมาณนั้นเลย ทุกคนสู้กันด้วยกลโกง ทริกต่างๆ ที่จะเอาชนะเกมไพ่
วิธีเล่นโดนคร่าวๆ คือ ทุกคนจะได้ไพ่ค้อน กรรไกร กระดาษ ชนิดละ 4 ใบรวม 12 ใบ และดาวคนละ 3 ดวง กติกาคือให้ดวลไพ่กัน (กติกาแบบเป่ายิ้งฉุบ) ใครชนะก็ได้ดาวของอีกฝ่ายไป มีเวลา 4 ชม. ต้องมีดาวในมือมากกว่า 3 ดวงและไม่เหลือไพ่ในมือจึงจะผ่านเข้ารอบต่อไป
ถ้าใครไม่เหลือดาว แต่มีเงินสามารถเอาเงินซื้อดาวได้ หรือสามารถแลกไพ่และดาวได้อย่างอิสระ แต่ถ้าใครทิ้งไพ่ที่อื่นนอกจากการถูกยึดในเกม จะถูกกำจัด (ถูกฆ่าหรือเอาไปเป็นหนูทดลองยา) ถ้าดูหนังมีดาวเกินตอนที่เวลาหมด สามารถขายดาวได้ หรือเอาไปไถ่ตัวคนที่แพ้ได้นอกจากที่กล่าวไปแล้วนั้น สามารถโกงได้อย่างอิสระ ถ้าไม่อยู่ในกฎถือว่าไม่ผิด
พระเอกเราจากที่ใสซื่อก็โดนโกงดาวไป 2 ดวงก่อนค่อยๆ ตั้งหลักได้ จากนี้ไปคือความสนุกเพราะมีความชิงไหวชิงพริบ วางแผนเอาชนะคู่ต่อสู้ คู่ต่อสู้ก็โหดเพราะเป็นมือเก่า แถมมีการโดนหลอกจากคนใกล้ตัวเป็นระยะๆ เป็นการสื่อถึงชื่อเรื่องว่า นี่คือโลกของสัตว์ป่า โลกแห่งความหฤโหด แม้แต่คนใกล้ชิดก็เชื่อไม่ได้ ไม่มีความปราณีใดๆ ทั้งสิ้น เอ็นดูเขา เอ็นเราขาดโดยแท้
กว่าจะจบเรื่อง พระเอกเราก็สะบักสะบอมโดนหลอก โดนโกงตลอด เป็นหนังไพ่ที่ดูสนุกมาก ต้องคิดตามตลอด บางทริกก็ตามไม่ค่อยทัน แม้เราจะโง่เลขฟังการคำนวณจับคู่ไม่ค่อยทัน แต่รู้สึกระทึกและลุ้นไปกับเกมมาก
ด้านการดำเนินเรื่อง
เป็นหนังที่ดำเนินเรื่องสนุก และชวนให้ติดตามมากๆ ชอบที่โปรแกรมหนังใช้สัญลักษณ์ ปีศาจ และการต่อสู้ของอีกตัวตน แทน การต่อสู้กับด้านมืดของผู้คนมากๆ ในส่วนของงาน production ต้องออกปากชมเลยว่าถ่ายทำออกมาได้สวยและประทับใจมากๆ งาน CGi สวย รู้สึกประทับใจสุดๆชอบที่หนังเลือกเล่าประเด็นด้านมืดของคน คุณค่าของชีวิต และปมภายในใจของตัวละครออกมาได้อย่างน่าสนใจ เป็นหนังที่อีกเรื่องที่เรารู้สึกว่าบทมันออกแบบมาได้ดี และทุกอย่างลงล็อคมากๆ
ชอบไอเดียที่ว่าด้วยเรื่องของ ฮีโร่ที่ต่อสู่กับปีศาจ ซึ่งก็คือ ตัวตนของตัวเองที่ต่อสู้กับด้านมืด แต่ในขณะเดียวกัน ตัวละครก็มองตัวเองว่าเป็นคนบ้า ในโลกที่มีปีศาจมากมายเหลือเกิน ซึ่งปีศาจในทีนี้หมายถึง ความเห็นแก่ตัว ความโลภ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นนามธรรมที่เราพูดถึงกันอยู่ตลอดเวลา แต่สำหรับหนังเรื่องนี้คือ เลือกที่จะเล่ามันออกมาเป็นรูปธรรมเลย
อีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบมากๆ คือ Yi Feng Li และ Dongyu Zhou ที่เป็นคู่ที่เคมีเข้ากันเหลือเกิน คือทุกครั้งที่คู่นี้ต้องมีพาร์ทความสัมพันธ์ มันจะรู้สึกแอบเขินอะไรก็ไม่รู้แบบแปลกๆ จนทำให้รู้สึกว่า น่ารักจังเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น